เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นี่คือ "ชีวิตนิสิตฝึกงานที่มากับฝนและหายนะ"จาวี
บันทึกสุดท้าย
  • บันทึกฝึกงาน ฉบับ สุดท้าย

    นี่เป็นอีกเรื่องที่เราเชื่อเรื่องของพรหมลิขิต
    ที่นอกเหนือ 'ความตั้งใจ' ของเราเอง

    ต้องสารภาพกันโดยตรง เราอยากฝึกงานเกี่ยวกับระบบหนังสือมากกว่า เนื่องจากเราไม่เคยอยู่ในระบบมาก่อน (เข้าใจขั้นตอนการทำหนังสือไปจนสายส่ง แต่ไม่เคยเข้าอยู่ในสำนักพิมพ์ไหน) แต่ว่าสุดท้ายด้วยความอ้อยอิ่งของเราไปจนภาระงานช่วงปี 3 เทอม 2 เราเลยพลาดที่ฝึกงานที่อยากทำหมด เรียกได้ว่าตอนนั้นนี่ชีวิตเลวร้ายมาก เป็นคนท้ายๆ ที่ยังไม่มีที่ฝึก

    เรารู้จักบริษัทโดนัทตั้งแต่ตอนปี 2 ตอนนั้นเขามาเปิดบูทในงานจ๊อบแฟร์ (จะเรียกว่าบูทก็ไม่ได้ มันคือกลุ่มคนเล็กๆ มายืนดักแถวหน้าตึก) เราได้เสื้อมาตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สมัครทำพาร์ทไทม์กับเขาเพราะว่าช่วงนั้นก็ไม่ค่อยว่าง แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่นี่เป็นที่ฝึกงานตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลเพียงสองข้อ หนึ่ง เงิน สอง มันเป็นงานเขียน

    เราฝึกงานในตำแหน่ง Content Writer ของเว็บไซต์ Sistacafe พยายามไม่บอกใครมาก เพราะว่าเขิน บอกไปว่าเราทำคนอื่นก็คงไม่เชื่อเท่าไร เพราะปกติเราไม่แต่งหน้า ไม่แต่งตัว แต่ส่วนใหญ่เราทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเครื่องสำอางเป็นหลัก (รองลงมาเป็นเรื่องความงาม ไปจนถึงดิสนีย์)

    เราไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีด้านผู้ใหญ่เอ็นดู (ก็ลายมือมันบอกแบบนั้น) จนมาฝึกงานที่นี่ พี่ๆที่กองคอนเทนต์น่ารักมาก รวมไปถึงพี่ๆ ชั้น 3 หรือ ชั้น 2 เองก็ใจดีเหมือนกัน ถึงจะมีโอกาสสนิทกับพวกพี่ๆ ในระยะสั้นๆ แต่เราก็ขอบคุณที่ทุกคนเป็นห่วงเรา ทั้งถามไถ่ไปจนให้ปรึกษาเรื่องความรัก ชวนไปเล่นไพ่ (พยายามจะไม่เล่น เพราะเอาเข้าจริงๆ ก็เป็นขาไพ่เหมือนกัน)

    การทำงานเป็น Content Writer มันไม่ง่ายหรอก มันคือการเขียนบทความผสมกับเทรนส์ของผู้หญิงด้วย เขียนก็ต้องเขียน เทรนส์ก็ต้องตาม เราจำคำพูดของบอสวันแรกที่ประชุมได้ขึ้นใจว่า "จะทำอะไรก็ตาม พยายามเชื่อมโยงเข้ากับงานให้ได้" ทำให้ตลอด 2 เดือนเราสังเกตุหลายๆ เรื่อง เพื่อเอามาเขียนทำงาน

    Content Writer เป็นงานที่สนุก แต่อีกนัยหนึ่งสำหรับเรามันก็เหนื่อยมากที่จะต้องไปวิ่งตามใครอยู่ตลอดเวลา ถามว่าทำอยู่น่ะเบื่อไหม มีเบื่อบ้าง บางทีก็สนุกมาก อย่างตอนทำคอนเทนต์เรื่องแนะนำเครื่องสำอาง เราสนุกที่ได้ใช้ความรู้ที่มีอยู่ หรือจะเรื่องอื่น ทำไปทำมาก็ได้ความรู้เยอะมากเหมือนกัน อย่างเรื่องแต่งหน้า สุขภาพ ไปจนถึงการแต่งตัว

    เราไม่ได้คาดหวังว่าเราจะได้อะไรจากการฝึกงานตรงนี้ มันเป็นสิ่งที่เราทำได้ แต่พอมาจับจริงๆ เนื้องานมันต่างจากการเขียนหนังสืออยู่ เยอะมาก ถูกถามเรื่องสำนวนการเขียน คำผิด เหมือนไปนับหนึ่งใหม่ เราทำงานเขียนทุกวัน ทุกวัน ทำเยอะกว่าปกติอีก ทำจนวันหนึ่งรู้สึกว่า 'ต่อไปนี้จะเขียนหนังสือทุกวันก็ไม่เป็นไรแล้ว'

    เพราะไม่คาดหวัง พอกลับมาทวนก็พบว่าได้อะไรเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการมองเทรนส์ล่วงหน้า การตลาด การเลือกภาพประกอบ หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่เกี่ยวกัน อย่าง พิมพ์สัมผัสได้ ขับถ่ายไม่มีปัญหา สิวผดหายไปจากหน้าแบบถาวร น้ำหนักขึ้น เล่นกับแมวได้โดยที่ไม่กลัวว่าจะทำมันเจ็บ ต่อเก้าอี้ ปกปิดกำแพง

    ถึงช่วงแรกเราจะมีปัญหาเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานแบบออฟฟิศ ซึ่ง.. มันก็จืดชืด แต่เป็นระบบ และมีระเบียบวินัย มีเพื่อน แน่นอนเราป่วย ป่วยไปเดือนครึ่ง กว่าจะดีขึ้นคือจะจบฝึกงานแล้ว แต่ก็เป็นชีวิตช่วงหนึ่งที่สนุกมาก ตลกมาก เด๋อมาก เศร้ามาก เครียดมาก

    เราตัดสินใจทำพาร์ทไทม์ต่อ เรื่องเงินก็สำคัญ แต่สังคมที่นี่ดีมาก เป้นอีกส่วนที่จะทำต่อแน่นอน คงอีกสักพักจะกลับไป เพราะตอนนี้เหนื่อยมาก ขอใช้เวลาพักให้เต็มที่

    อย่างแรกต้องขอบคุณครอบครัว โดยเฉพาะพ่อที่อดทนไปรับไปส่งเสมอ ทะเลาะกันก็มีบ้าง แต่ก็ชอบช่วงเวลาที่อยู่ในรถ ได้คุยกัน ได้ฟังพ่อสปอย GOT จนจบ ได้คุยเรื่องการเมือง ได้คุยมากกว่าตอนทำสัมมนาอีก ได้รู้ว่าครอบครัวเป็นห่วงมาก (สมควร ป่วยไปเดือนครึ่ง) ขอบคุณมากนะคะ

    ขอบคุณบอสอาราคาเนะซัง ที่รับเข้ามาเป็นเด็กฝึกงาน รวมไปถึงพี่ๆ ฝ่าย HR พี่ตี้ พี่ใหม่ พี่วิน ที่คอยช่วยเหลือเด็กฝึกงานมากนะคะ

    ขอบคุณพี่ๆ ฝ่ายซิสต้าคาเฟ่ (ชั้น 3 ) พี่พลอยกช พี่พลอย พี่เอิร์ธ พี่เทนชิ (คนนี้แต่งตัวสวยทุกวัน) พี่ข้าว พี่หญิง พี่มิ้ว ที่คอยช่วย คอยแนะนำ รวมไปถึงดูแลตลอด 2 เดือน

    สเปเชียลแต๊งค์ Ferny Wongpinyochit สำหรับการเม้ามอยหอยสังข์ ป้าเทคสุดเลิฟ ออกกำลังกายไม่ต้องคิดมาก เอาร่างกายแข็งแรงหุ่นสายฝ. ดีกว่านะ

    ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ฝึกงานด้วยกัน ทั้งเวล ทั้งฝ้าย ทั้งเอิร์ธ หรือหลายๆคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่ออีกกว่า 20 ชีวิต ที่ช่วยเหลือเวลาเราเอ๋อๆ ตลอด หรือชวนไปกินข้าวกัน

    ขอบคุณ Kirima Saimyou ที่คอยนั่งฟังนี่หวีดตลอดเวลา จะเรื่องงาน เรื่องนอย ไปจนถึงพูดคุยถกเถียงเรื่องการเมือง ปรัชญา บรรเทาชีวิตฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวให้หม่นมืดลง และยังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในการตรวจงาน เอาไปให้ตรวจทีไรมีต่อยกันทุกที

    เปิดตัวและขอบคุณ Yottaphong Chaveevorasak ที่ไปๆ มาๆ ก็สนิทกัน เจอหน้าบ่อยสุด ขอบคุณที่คอยรับฟังปัญหาอยู่เสมอ รวมไปถึงเอาขนมมาฝากเสมอ

    จะขอบคุณความหรรษาช่วงฝึกงานกับ Root Prompalit ไปไม่ได้ คุณแมวเรียกฝนที่แรกๆ ก็ตั้งไว้เรียกเล่นๆ จนกลายเป็นเรื่องจริงจังช่วงฝึกงาน ขอบคุณมากฮะที่มาเล่นด้วยกันบ่อยๆ นะ

    และขอบคุณ Pami Greed สำหรับกำลังใจ งาน และอะไรอีกหลายอย่างที่พูดไม่หมด

    จบการฝึกงานแล้วค่ะ
    ลาก่อนปี 3 สวัสดีปีสุดท้ายของการเป็นนิสิต

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in