ในทุกวันของการใช้ชีวิต จะมีบางช่วงเวลาที่เราหลงลืมสิ่งสำคัญหรือสิ่งที่ควรทำแต่ลืมทำมากมายร้อยแปด บางครั้งก็เผลอสติหลุด ทำอะไรป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ออกมาในที่สาธารณะให้ได้อับอายและเจ็บใจตัวเองอยู่บ่อย ๆ
ตัวอย่างเช่น
ลืมเงินทอน ลืมแบบลืมจริง ๆ ไม่กลับไปทวง กว่าจะนึกได้ว่าลืมก็สายไปเสียแล้ว ครั้งล่าสุดที่ลืม คือ ไปชลบุรี แล้วขากลับจะขึ้นรถบัสเที่ยวแรก เวลา ๕.๒๐ น. ซึ่งต้องซื้อตั๋วราคา ๖๗ บาท เราก็ยื่นแบงก์ร้อยไป คนขายก็มึนพอกัน ยื่นมาแต่ตั๋วไม่ยื่นเงินทอน เราก็อ้อยอิ่งอยู่ที่ช่องขายตั๋วแป๊บนึง ดูตารางเวลารถออก คนขายก็ไม่ยักจะทักท้วงว่าเราลืมเงินทอนนะ จนรถออกเกือบถึงบางนานั่นแหละ เราถึงระลึกชาติได้ว่า ลืมเงินทอน ๓๓ บาทไว้ที่ชลบุรี เสียดายเงินชะมัด TT
จ่ายเงินไม่ครบ ตอนนี้เป็นตอนที่ไปซื้อชานมพุดดิ้งแก้วใหญ่ ๖๐ บาท แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเรารู้สึกว่าให้เงินคนขายไม่ครบ น่าจะให้แค่ ๕๐ บาท ตอบนับเงินให้สติสตังก็ลอย ๆ ไม่รู้ว่าคนขายเขาเรียกเราหรือเปล่า เพราะพอได้น้ำเราก็จ้ำอ้าวไปเลย รู้สึกผิดนิด ๆ ล่ะ แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เงินไม่ครบเด้อออ
จ่ายเงินไม่ครบอีกครั้งในวันเดียวกัน คราวนี้เหตุเกิดที่วินรถตู้สายใต้เก่า แต่พี่คนขายตั๋วเขาทวง เราถึงได้รู้ตัวว่าเราสติหลุดแค่ไหน ตอนแรกเอาเหรียญบาท เหรียญห้าและเหรียญสิบจำนวน ๒๐๐ บาท ให้พี่เขาแลกก่อน เพราะวินรถตู้ต้องการเหรียญเอาไว้ทอนจำนวนมาก เราก็บอกเขาไปว่านี่เป็นถุงเหรียญที่แลกนะ ๒๐๐ บาท ส่วนนี่เป็นค่ารถหนู ๔๕ บาท แล้วเราก็นับเหรียญใส่มือเขาไป พี่แกก็ทำหน้างง เราก็ยังไม่รู้สึกตัว บอกย้ำพี่เขาไปว่า นี่ไงคะ ค่ารถหนู ๔๕ บาท ถุงที่ให้ไปนั่นเอาไว้แลก ไม่เกี่ยวกัน ๆ จนพี่บอกว่า น้องให้เงินมาไม่ครบ พร้อมกับแบมือให้เราดู ในนั้นมีเหรียญสิบ ๒ เหรียญ กับเหรียญห้าอีก ๑ เหรียญ เชี่ยยย ให้เงินค่ารถไม่ครบ รีบขอโทษยกใหญ่ก่อนจะให้เงินเพิ่มอีกยี่สิบบาท เป็น ๔๕ บาท TT
ลืมของ ถึงจะไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่การลืมแต่ละครั้งก็ทำให้ลำบากและเสียวแวบเหมือนกัน เช่น ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มแต่พอได้เงินแล้วกลับเดินตัวปลิว ลืมหยิบบัตรจนตู้ดูดบัตรกลับเข้าไปในเครื่อง เดือดร้อนเราต้องตามเรื่องกับธนาคารขอบัตรคืนอีก
ลืมกุญแจ ๒ ครั้ง เป็นการลืมแบบข้ามวันข้ามคืน แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่าลืมไว้ที่ไหน ต้องค่อย ๆ นั่งคิดว่าวันนั้นไปไหนมาบ้าง แล้วก็ไปไล่ถามเขาว่าเห็นกุญแจบ้างหรือเปล่า โชคดีที่เขาเก็บไว้ให้ทั้ง ๒ ครั้ง ครั้งแรกลืมไว้ที่ร้านส้มตำ ครั้งที่สองลืมไว้ที่โรงอาหาร หลัง ๆ ไม่ค่อยลืมแล้ว เพราะคอยตรวจดูสิ่งของในกระเป๋าบ่อย ๆ เผื่อหล่นหายจะได้รู้ทันที
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการลืมของเราอีกมากมายที่พอนึกย้อนไปก็ทั้งขำทั้งเจ็บใจตัวเอง แต่การลืมเหล่านั้นก็ได้ทำให้เราเตือนตัวเองบ่อยขึ้นว่าอย่าลืมอะไรอีก ไม่งั้นมันจะเกิดผลเสียมหาศาลได้ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in