เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โชว์ห่วย โชะเด๊ะWatch Take
ใบกะเพราที่หายไป
  •           ครั้งหนึ่งสมัยที่พ่อค้าเรียนอยู่ในกทม. ได้เจอร้านผัดไทเจ้าอร่อยอยู่ร้านหนึ่งอยู่ถนนเพชบุรี อยู่ในซอยเพชรบุรี 10 ที่ต้องพูดถึงร้านนี้เพราะว่าเป็นร้านนึงที่ยังจำได้ไม่ลืม ในความอร่อย และประสบการณ์ขำ ๆ ในร้านนี้...

              วันหนึ่งผมได้พาแม่ไปลิ้มลองผัดไทเจ้านี้ แล้วผมก็จะลองสั่งเมนูนึง คือชื่อมันก็แปลกก็เลยอยากลองผมก็สั่งเลยครับ (ขออนุญาตใช้สรรพนามว่าผมแทนตัวพ่อค้าสักครู่ ไม่งั้นเดี๋ยวงงว่าใครเป็นใคร)

    ผม: โป๊ยก่ายรำไทยที่นึงครับ

    แม่ค้า:โอเค

              อธิบายก่อนครับ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ทำกันเองในครอบครัว เท่าที่เห็นจะมีพ่อ แม่ แล้วก็ลูกชายอีกสองคน คือบรรยากาศในร้านเนี่ยคือคุณเข้าไปในชีวิตครอบครัวเค้าเลยครับ เห็นหมดทุกอย่างลูกดื้อ ด่าลูกอะไรลูกค้ารับรู้หมด ให้อารมณ์ดูซิทคอมสักเรื่อง ว่าแล้วก็ต่อดีกว่าครับคนแม่(แม่ค้า) ก็ใช้ให้ลูกไปซื้อใบกะเพรา

              แม่ค้า: ลูกไปซื้อใบกะเพราให้แม่หน่อยได้มั้ยลูก

             ลูกแม่ค้า: ไม่ได้!
             ส่วนคุณแม่ค้าน่าจะไม่ได้ยินที่ลูกปฎิเสธไป... คุณแม่ค้าก็ง่วนๆ ทำเตรียมของสำหรับทำให้เมนูอื่นอยู่ แต่สิ่งที่ผมไม่รู้คือเมนูนั้นที่ผมสั่งใช้ใบกะเพราครับ...

              แล้วคุณลูกก็เล่นเกมต่อไปแบบไม่สนโลก ของแม่ผมสั่งผัดไทธรรมดา เบสิค ๆ ได้ไปนานแล้ว แต่ของผมยังไม่ได้ พอรู้ตัวอีกทีคุณแม่ค้าเริ่มด่าคุณลูก

            แม่ค้า: ไหนใบกะเพรา! ทำไมยังไม่ไปซื้อมาอีก!

            ลูก : ก็บอกแล้วไงว่าไปซื้อให้ไม่ได้ ไปซื้อให้ไม่ได้!

            คุณแม่ค้าก็ประมาณบ่นกระปอดกระแปด ถ้าจำไม่ผิดสุดท้ายก็ด่าจนลูกยอมไปซื้อให้ ลูกก็ย่ำเท้าไปแบบทำท่าไม่ค่อยพอใจ (เฮ่ยแล้วอาหารกรูล่ะ) จนผมได้กินโป๊ยก่ายรำไท เผ็ดจี๊ดน้ำตาไหล...

            นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการจะใช้ใครให้ทำอะไรอย่าใช้ประโยคคำถาม แต่ให้ใช้ประโยคคำสั่งหรือประโยคขอร้องแทน... มิเช่นนั้นคำสั่งของท่านจะไม่สัมฤทธิ์ผล...

            จบไปหนึ่งเรื่องของร้านนี้ ขอต่ออีกครับเพราะว่ามีความประทับใจเกี่ยวกับร้านนี้เยอะครับ

            ครั้งหนึ่งก็ไปซื้อผัดไทนี่แหละครับซื้อแบบห่อกลับบ้าน แต่คราวนี้เจอคุณพ่อ แล้วก็เจอดราม่าในบ้าน แบบบ่น ๆ ใส่ลูกว่า วัน ๆ ก็เอาแต่เล่น ไม่ค่อยสนใจงานบ้าน บลา ๆๆๆๆๆ หน้าเครียด เบื่อเซ็งโลกมากครับ ผมก็แอบกลัวว่าสั่งของไปตอนนี้จะเจอตวาดใส่มั้ย แต่พอเค้าหันมาทางผม...

            หน้าคุณพ่อดูยินดีต้อนรับ ยิ้มแย้ม ถึงจะเหงื่อซึม แต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังความสุขที่ตั้งใจส่งผ่านมาให้ผม ทำให้หัวใจของผมชุ่มฉ่ำและอ่อนโยนเสียเหลือเกิน แล้วก็ถามว่าจะสั่งอะไรดีครับ...
            ในชั่วขณะนั้นผมจำแล้วก็เก็บไว้ในสมองเลยครับ ว่านี่คือพ่อค้าตัวอย่างคนนึง ที่ควรเอาเป็นแบบอย่างครับ
    เพราะลูกค้าเค้าไม่รู้หรอกครับว่าคุณไปโดนเมียทิ้งมา ลูกเสพยา หมาเมิน เดินเหยียบตะปู แต่ลูกค้ารู้แค่ว่าเค้าอยากได้อะไร และอยากรู้อย่างเดียวว่าคุณจะมีให้เค้ามั้ย เพราะฉะนั้นถึงคุณจะ นอนไม่หลับ เมาแล้วโดนจับ เมียไม่ให้ทับ ปวดหัวกุมขมับ คุณก็ต้องหันมายิ้ม หันมาให้ความสุขกับลูกค้าได้ นึก ๆ ไปก็ชักเหมือนนักร้องเนอะ

            อีกเรื่องนึงก็คือความซื่อสัตย์ครับ ครั้งหนึ่งผมก็ไปกินร้านนี้กับเพื่อน แล้วก็ลืมไม้เทนนิสไว้ รู้ตัวอีกทีไม่มีเอาไปเรียน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไปยืมของเพื่อนมา จนคิดแล้วคิดอีกก็ไม่แน่ใจว่าเอาไว้ไหน นึกได้ว่าวันนั้นมีเรียนพละก็เลยพกไป แล้วก็ไปกินที่ร้าน คิดว่าน่าจะลืมไว้ที่ร้านอย่างแน่นอน แต่ความคาดหวังที่จะได้คืนผมคิดไว้ต่ำมาก ก็เลยชวนเพื่อนไปกินที่ร้านนั้น แล้วก็ไปถามที่ร้านว่า เห็นไม้เทนนิสมั่งมั้ยครับ พอดีน่าจะลืม ไว้อะครับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พ่อค้าเค้าก็บอกว่าอันนี้ใช่มั้ย ผมก็เลยบอกว่าใช่ครับ โห ดีใจจังเลย ขอบคุณมาก ๆ ครับ พ่อค้าก็บอกว่า ที่นี่น่ะลืมไว้เป็นปี ๆ ก็ยังไม่หาย ไม่เอาไปหรอก หลังจากที่เรียนจบม.ปลาย ก็ไม่เคยไปที่นั่นอีกเพราะว่าอยู่ห่างมาก ตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจแล้วว่าร้านนั้นจะยังอยู่ไหม แต่ก็อยากไปเจอพวกเค้านะเพราะมันทำให้นึกถึงแต่เรื่องดีๆ ป่านนี้หลายคนก็คงแก่ตัวลง ลูกชายก็คงเป็นหนุ่มแล้ว ถ้าได้ไปที่ร้านอีกผมคงจะเดินเค้าไปหาลูกชายเค้าแล้วก็ถามว่า...แล้วใบกระเพรากรูล่ะ...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in