เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Boy's love storyขอบฟ้าสีจาง
พยายามแค่ไหนจะได้ (ใจ) เธอ EP 08
  • ขัดจังหวะ


    "เสร็จยังวะปัน  กุหิวแล้วนะโว๊ยยยย"  เสียงกันต์ร้องถามดังเข้ามาให้ได้ยิน  ขณะที่ผมกำลังหั่นผักต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของอาหารมื้อเย็นวันเสาร์  วันนี้ไอ้พวกคุณชายมันอยากจะกินสุกี้กันครับ  บอกให้ไปกินที่ร้านก็ไม่เอา  ร่ำร้องให้ผมทำให้กินตั้งแต่ตอนสายๆแล้ว  แต่วัตถุดิบในตู้เย็นผมใกล้จะหมดเลยต้องออกไปซื้อของก่อนแล้วมาทำกินกันในมื้อเย็น  สมใจอยากพวกมันล่ะ

    "เออๆ  เสร็จแล้วเนี้ย จะกินก็มาช่วยยกออกไปด้วย ไม่งั้นก็อด  กลับห้องไปหาอะไรกินเองเลย" ผมร้องตอบกลับไปให้พวกมันเข้ามาช่วยยกของที่ผมเตรียมไว้ไปตั้งที่โต๊ะอาหาร

    "เหนื่อยรึเปล่า"  ผมเงยหน้าไปมองเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้  ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆให้คนถาม

    "ไม่หรอก  แค่นี้สบายมาก"  แค่หั่นผัก เตรียมพวกเนื้อสัตว์ที่หั่นสำเร็จมาแล้ว กับพวกวัตถุดิบอื่นๆใส่จานและต้มน้ำซุป  ก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ ความจริงผมอยากชวนพี่ภูให้มากินด้วยกัน  ตอนที่พี่มันโทรมาหาเมื่อตอนเที่ยง  แต่ไม่กล้าเอ่ยปากออกไป  ก็พี่มันบอกว่าหลังจากที่ไปส่งเจ๊เบลอะไรนั้นเสร็จ  ก็กลับมาทำรายงานต่อจนเผลอหลับไป  พอตื่นมาแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าแบตหมดครับ  เลยไม่ได้อ่านไลน์  ผมเลยไม่อยากจะกวนพี่มัน  เผื่อพี่ภูต้องทำรายงานหรืออยากจะนอนต่อ

    "โอ๊ยยย  เจ็บนะ"  ผมร้องพร้อมทั้งยกมือลูบหน้าผากปอยๆ แค่ยืนคิดอะไรนิดหน่อยทำไมต้องดีดหน้าผากกันด้วยก็ไม่รู้

    "ยืนเหม่ออีกแล้ว  เดี๋ยวน้ำซุปในหม้อก็แห้งหมดหรอก"

    "อ้ะ ขอโทษ  ได้ที่แล้วล่ะไปกินกันเถอะ"  ผมกดปิดแก๊ซก่อนที่จะยกหม้อน้ำซุปออกไปที่โต๊ะกินข้าว  ก่อนจะเทใส่หม้อต้มสุกี้ที่เตรียมไว้ ธารเดินยกของที่ผมจัดไว้ตามออกมาติดๆ  ส่วนอีกสองคนที่ร่ำร้องอยากจะกินกลับนั่งถือจอยเกมส์จ้องหน้าจอทีวีไม่ห่าง

    "ประทานโทษนะครับคุณชายทั้งสอง  พวกมึงร้องจะกินแต่ไม่มาช่วยกันเลยนะขอรับ  มัวแต่เล่นเกมส์อยู่นั้น เดี๋ยวไม่ให้กินซะเลยนิ"  ผมเดินไปยืนท้าวเอวขว้างหน้าจอไว้ไม่ให้พวกมันมองเห็น

    "เฮ้ยๆๆ  ไอ้ปันหลบก่อน  กุกำลังจะยิงประตูนะเว้ยยย"  แอซโวยวายก่อนที่จะพยายามมองลอดตัวผมไปดูจอทีวี

    "เออๆๆ  หลบไปก่อนดิ๊  มายืนบังหน้าจองี้  เดี๋ยวกุก็แพ้ไอ้แอซกันพอดี"  ไอ้ตี๋กันต์ตะโกนใส่ผมอีกคน  แถมยังยกบาทามาโบกให้ผมหลบพ้นหน้าจออีก  ไอ้นี้หยาบคายไม่เกรงใจหน้าตาตัวเองเล้ยยย

    "มานั่งกินเถอะปัน  อย่าไปสนใจพวกมันเลย  เรากินกันให้หมดไปเลยดีกว่า"  ธารเอ่ยพร้อมเดินมาดึงแขนผมให้กลับไปนั่งที่เก้าอี้  ก่อนจะตักเนื้อหมูและผักที่สุกแล้วใส่ถ้วยให้ผม  เนี้ย  มันต้องเป็นสุภาพบุรุษให้สมกับหน้าตาอย่างนี้สิวะ

    "มาแล้วๆ  ขออีกตาเดียวก็ไม่ได้ เฮอะ"  พอได้ยินธารบอกว่าจะกินให้หมด  ทั้งสองคนก็ทิ้งจอยแล้วรีบมานั่งทันที

    "เออนี่ๆ  คืนนี้กุกับไอ้แอซว่าจะไปเที่ยวกัน  พวกมึงจะไปมั๊ย"  กันต์หันมาถามผมก่อนจะเคี้ยวตับที่ฉกไปจากถ้วยของไอ้แอซหน้าตาเฉย  ก่อนที่ไอ้แอซจะแก้แค้นด้วยการแอบคีบปลาหมึกในชามไอ้กันต์คืน  ตอนที่มันหันมาถามผม  ส่วนธารนอกจากจะไม่ฉกของใครกินแล้ว  ยังขยันตักมาใส่ถ้วยของผมจนเกือบจะล้น ผมเลยต้องคืบไปใส่จานมันมั่ง

    "กูไม่ไป  วันนี้กุจะดูโคนัน  เชิญพวกมึงไปเลย"  ผมตอบก่อนจะลุกไปหยิบน้ำจากตู้เย็นมาเทให้พวกมันคนละแก้ว

    "มึงล่ะไอ้ธารจะไปมั๊ย  ถ้าไปเดี๋ยวกูแนะนำคนน่ารักๆให้รู้จัก"  แอซหันไปชวนธารบ้าง

    "ขี้เกียจไปเบียดคนเยอะ  มึงสองคนไปเหอะ"  ธารบอกก่อนจะยื่นกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากให้ผม  ดูแลดียิ่งกว่าป๊ะป๊าอีกครับ

    "โหยยย  ไรวะพวกมึง  วันหยุดทั้งทีไปเปิดหูเปิดตากันดีกว่า  คลุกอยู่แต่ที่ห้องไม่เบื่อกันมั้งไงวะ"

    "ไม่เบื่อ" / "ไม่เบื่อ"  คนติดห้องอย่างผมกับธารพูดออกมาพร้อมกัน  ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

    "ใครเค้าจะเหมือนพวกมึงสองคนล่ะ  ออกเที่ยวได้เกือบทุกคืน  ถ้าขยันไปเรียนได้แบบนี้สักครึ่งนึงนะ พวกมึงได้  A  ทุกตัวแน่"

    "แม่งงงง  บ่นยิ่งกว่าม๊ากูอีก  ไม่ไปก็ไม่ต้องไป  ถ้ากูไปเจอพี่ภูกับสาวๆนะ  กูจะไม่โทรมาบอกมึงเลย"

    "มึงก็คงไม่ได้โทรอยู่แล้ว  เพราะวันนี้พี่ภูบอกกูว่าจะอยู่ที่ห้องไม่ออกไปไหน"

    "มั่นใจจังเลยน้าาาา  ถ้าเกิดเค้าแอบไปขึ้นมา ไม่ใช่จะร้องไห้ขี้โป่งทีหลังนะเว้ยยย"  อ้าว ได้เพื่อนเวรมาแช่งกันงี้  ขอให้คืนนี้มึงไม่ได้สาวกลับมาซักคนเลย   และเหมือนไอ้กันต์มันจะรู้ว่าผมแอบด่ามันในใจ  ถึงได้ยื่นมือมาขยี้หัวผมซะยุ่งไปหมด  ชิส์ ไอ้นี่ลามปามตลอด


    หลังจากกินกันจนเกือบจะลุกไม่ไหว  เราทั้งสี่ก็ย้ายไปห้องธารเพื่อดูหนังกันต่อ  แต่อย่างว่าล่ะครับ  กินมาอิ่มๆหนังตามันดูจะหนักไปหน่อย  เราเลยสลบไสลกันทุกคน  ตื่นมาก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว  พอแอซกับกันต์มันเห็นว่าได้เวลาออกล่าก็รีบกลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัวทันที  ผมเลยกลับมาที่ห้องตัวเองมั้ง  แต่เพิ่งตื่นมาแบบนี้จะนอนต่อก็ไม่คงหลับแล้ว  ผมเลยหยิบมือถือมากะว่าจะทักพี่ภูไปซักหน่อย  แต่พอหน้าจอสว่างปุ๊บผมก็ต้องยิ้มออกมาเพราะเห็น Miss call เป็นชื่อคนที่กำลังจะทักไปหาอยู่พอดี  ต่อสายไปไม่นานพี่มันก็รับแล้วบอกว่าอยากหาเพื่อนกินข้าว  เพราะทำรายงานเพลินจนมืดแล้วยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่บ่าย  ผมเลยอาสาซื้อไปให้ อุอิ  โอกาสงามมาทั้งที  นุ้งปันไม่พลาดหรอกพูดเลย


    "ครับ  ถึงแล้วครับ  ให้ขึ้นไปได้เลยเหรอครับ  โอเคครับ"  ผมโทรไปบอกพี่ภูตอนขับรถมาถึงแล้ว  พี่มันก็บอกให้ขึ้นไปที่ห้องได้เลย  เพราะโทรบอกคนดูแลข้างล่างไว้แล้วว่าจะมีคนมาหา  เพราะงั้นตอนนี้ถึงผมมานั่งทำหน้าแดงในห้องพี่มันเรียบร้อบแล้ว  ทำไมต้องหน้าแดงน่ะเหรอ  ก็พี่ภูมันเล่นเดินถอดเสื้อโชว์หกห่อมาเปิดประตูให้  ปันนิแทบเลือดกำเดาไหล  ปกติใส่เสื้อผ้าครบนุ้งปันก็หลงจะแย่  แล้วนี่ยังมาถอดเสื้ออวดกายให้เห็นอีก  โอ๊ยยยย  ปันจะเป็นลม

    "จ้องพี่ขนาดนั้น  เอามือถือมาถ่ายรูปพี่ไปเก็บไว้ดูด้วยเลยมั๊ย"  แง่งงง  อย่ามาประชดแบบนี้นะ  เดี๋ยวก็ถ่ายจริงๆซะเลย

    "ขะ ขอโทษครับ"  เอ่ยขอโทษออกไป  ทั้งที่ใจอยากจะเอามือถือออกมาถ่ายใจจะขาด  ม่ายยยย  ทำไมผมถึงดูโรคจิตขนาดเน้

    "ฮะๆ พี่ล้อเล่น  แล้วก็ขอบใจนะ  ที่ดึกขนาดนี้ยังต้องอุตส่าห์ซื้อของมาให้พี่อีก"  พี่ภูหัวเราะก่อนจะเอ่ยขอบใจ

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมเต็มใจ  รีบกินดีกว่าครับ  กำลังร้อนๆเลย"

    "ซื้อมาเยอะขนาดนี้  กะจะขุนให้พี่อ้วนเป็นหมูเลยใช่มั๊ย"

    "ก็มันน่ากินทุกอย่างเลยนิครับ"

    "'งั้นปันก็ต้องช่วยพี่กินให้หมดเลยนะ  แล้ววันนี้ทำอะไรบ้างฮึ  ดูการ์ตูนเหรอ"

    "หลังจากคุยกับพี่เมื่อกลางวัน  ผมก็ออกไปซื้อของเข้าตู้เย็นน่ะครับ  พวกเพื่อนผมมันอยากกินสุกี้กัน  เลยทำกินกันเมื่อตอนเย็น  กะจะโทรมาชวนพี่ด้วย  แต่เห็นว่ารีบทำรายงานเลยไม่อยากกวน"

    "เสียดายจัง  อดกินฝีมือปันเลย  วันหลังโทรมาชวนพี่ได้ตลอดนะ"  ได้ยินแบบนี้แล้วใจมันฟูฟ่องทันทีเลยครับ

    "ถ้าพี่ภูอยากกินไว้ผมมาทำให้กินก็ได้ครับ  "

    "พี่โชคดีจัง  มีพ่อครัวประจำตัวด้วยแฮะ"

    "สำหรับพี่ภู  ผมเป็นได้ทุกอย่างที่พี่อยากให้เป็นเลยฮะ"  มีโอกาสก็ต้องหยอด  น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อน  ผมหยอดพี่มันวันละนิดวันละหน่อย  ยังไงก็น่าจะหวั่นไหวมั้งล่ะ

    "เป็นได้ทุกอย่างจริงเหรอ"  พี่มันถามกลับมาด้วยเสียงจริงจัง  แต่แววตาพราวระยับ

    "แต่ความจริงผมก็อยากเป็นอยู่อย่างเดียว" เอาสิ๊  จะรุกแล้วมันต้องเอาให้สุดไปเลย

    "แล้วปันอยากเป็นอะไรล่ะครับ"  รอยยิ้มแบบนั้น  น้ำเสียงแบบนั้น  มันทำให้หัวใจผมทำงานหนักเกินไป  ผมว่าตอนนี้หน้าผมต้องแดงมาก  เพราะเลือดสูบฉีดดีแน่ๆ  แต่ปันซะอย่าง  ไม่ถอยง่ายๆหรอกครับ

    "ถ้าผมบอกไปแล้วพี่ภูจะให้เป็นมั๊ยล่ะครับ" ผมกลั้นใจถามกลับไป  รอคอยคำตอบด้วยใจะระทึก  หากเสียงมือถือพี่มันจะดังขึ้นมาขัดจังหวะอย่างไม่น่าให้อภัย  ก่อนพี่มันจะเดินเลี่ยงไปคุยที่ระเบียงนอกห้อง  อย่าให้รู้นะว่าใครโทรมา  พ่อจะแช่งให้เดินตกท่อเลยคอยดูเหอะ 








     
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in