เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Boy's love storyขอบฟ้าสีจาง
พยายามแค่ไหนจะได้ (ใจ) เธอ EP 09

  • ลองเป็นดูมั๊ย...



    "โทษทีนะปัน  เพื่อนพี่โทรมาบอกว่ารถเสียอยู่ใกล้ๆ  พี่คงต้องออกไปดูมันหน่อย  ไงปันนั่งเล่นอยู่ที่ห้องพี่ก่อนก็ได้นะ"  สงสัยชาติที่แล้วผมต้องไปขัดขวางความรักใครไว้แน่ๆ  ชาตินี้ถึงมีอะไรมาขัดความรักของผมไปซะทุกที  ได้โอกาสอยู่กันสองคนแล้วแท้ๆ  เฮ้อออ


    "ไม่เป็นไรครับ  ปันกลับเลยดีกว่า"  เจ้าของห้องไม่อยู่จะไม่กลับมันก็แปลกๆ


    "'งั้นเดี๋ยวลงไปพร้อมกันนะ  พี่ขอไปแต่งตัวแปบเดียว" พี่ภูใช้เวลาแต่งตัวไม่นานก็เสร็จ  ก่อนเราทั้งคู่จะลงลิฟต์มาด้วยกัน  กลิ่นหอมจากตัวพี่ภูทำให้ผมอยากให้ลิฟต์มันค้างสักสอง-สามชั่วโมง (จะขาดอากาศหายใจตายมั๊ย ลองถามใจดู)  อยากอยู่กับพี่ภูให้นานกว่านี้  อยากฟังคำตอบที่ถามไว้  แต่ใจไม่กล้าพอที่จะถามซ้ำอีกครั้ง


    "ทำหน้าเศร้าแบบนั้น  พี่รู้สึกผิดรู้มั๊ย"  พี่ภูพูดพร้อมทั้งจับหัวผมโยกไปมาเบาๆ


    "ปันไม่ได้ทำหน้าเศร้าซะหน่อย" ผมตอบก่อนยู่หน้ากลับไปให้พี่มัน


    "เอ้าเหรอ  พี่นึกว่าปันอยากอยู่คุยกับพี่นานกว่านี้ซะอีก  สงสัยจะคิดไปเองแฮะ"


    "ไอ้อยากมันก็อยากครับ  แต่ก็เข้าใจว่ามันจำเป็น  เพราะงั้นไม่เศร้าเท่าไหร่หรอกครับ"


    "แต่ก็เศร้าใช่มั๊ย  ขอโทษนะครับ  ครั้งหน้าสัญญาว่าจะอยู่คุยจนปันเบื่อเลยล่ะ"


    "สัญญาแล้วห้ามคืนคำนะ ปันจำแม่นมากนะจะบอกให้"


    "คร้าบบผม" พี่ภูรับคำก่อนเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป  ทิ้งให้ผมยืนเสียดายโอกาสที่จะได้อยู่ตามลำพังกับพี่ภูในห้องสองต่อสอง




    หลังจากแยกกับพี่ภูแล้วผมก็กลับห้องมาเปิดการ์ตูนดูไปเรื่อยๆ  เพราะว่ายังไม่อยากนอน  ดูไปเพลินๆเสียงเตือนจากมือถือก็ดังเรียกความสนใจให้ผมหยิบขึ้นมา  พอกดเข้าไปในไลน์ก็เห็นกันต์ส่งข้อความมาบอก  ว่าเห็นพี่ภูควงสาวมาเที่ยวด้วย  มันต้องอยากแกล้งผมที่ไม่ยอมออกไปเที่ยวด้วยแน่ๆ  เลยส่งข้อความมาอำ  ผมเลยตอบมันไปว่าเพิ่งจะแยกกับพี่ภู  เพราะพี่มันต้องออกไปดูเพื่อนที่รถเสียอยู่ใกล้ๆคอนโด  เพราะงั้นผมไม่มีทางหลงกลมันหรอก  มันเงียบไปสักพักก่อนตอบกลับมาว่าสงสัยจะจำผิด  ซึ่งผมคิดว่าถ้ามันไม่อยากจะแกล้งผมจริงๆ  ก็คงจะจำคนผิดอย่างที่มันบอก  เพราะพี่ภูคงไม่ใจร้ายขนาดที่จะโกหกผม  เพื่อออกไปเที่ยวกับคนอื่นหรอก  แต่ผมอยากจะแน่ใจเลยไลน์ไปถามพี่ภูว่าตอนนี้จัดการธุระเรื่องเพื่อนเสร็จรึยัง  รอไม่นานพี่มันก็ตอบกลับมาว่าเพิ่งไปส่งเพื่อนที่ห้อง  และกำลังจะกลับคอนโด  ผมเลยหันไปดูการ์ตูนต่ออย่างสบายใจ



    "วันนี้ไม่ได้ทำข้าวกล่องไปให้พี่ภูสุดที่รักรึไง"


    "พี่ภูบอกวันนี้ต้องทำงานส่งอาจารย์เลยว่าจะหาอะไรกินเอง"


    "แล้วเย็นนี้จะไปรอเจอที่คณะรึเปล่า"


    "คงไม่อ่ะ  ไม่รู้ว่าพี่ภูกลับกี่โมง  ไม่อยากไปกวนเวลาทำงาน"


    "แล้วตอนค่ำๆล่ะ พี่มันบอกหรือเปล่าว่าจะไปดื่มมั๊ย"


    "ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนนะ  ว่าแต่ทำไมวันนี้พวกมึงสองคนดูสนใจพี่ภูจังวะ"  ผมหันไปถามไอ้คู่หูที่มันเอาแต่ถามเรื่องพี่ภูจนผิดสังเกต  ปกติพวกมันไม่ค่อยสนใจเรื่องผมกับพี่ภูเท่าไหร่  แต่วันนี้กลับถามมากจนน่าสงสัย


    "พวกกูก็แค่ถามดูเฉยๆ  ไม่มีอะไรซักหน่อย"  กันต์ตอบก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาไถเล่น  ส่วนแอซก็ก้มหน้าก้มตาดูดน้ำในแก้ว


    "เออ  อีกสองอาทิตย์จะถึงวันเกิดพี่ภูแล้ว  พวกมึงว่ากูให้อะไรพี่มันดีวะ"  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยซื้อของให้ใครนอกจากคนในครอบครัว  อย่าว่าแต่แฟนเลย  เพื่อนสนิทซักคนยังไม่มี  เพราะงั้นผมเลยไม่รู้จะให้อะไรพี่ภู


    "แล้วคิดไว้รึยังว่าอยากให้ของแบบไหน"


    "อยากให้ของที่ไม่เหมือนคนอื่นอ่ะ  อยากให้มันน่าประทับใจจนคิดถึงคนให้ตลอดเวลา  ถ้าเป็นพวกมึง พวกมึงอยากได้อะไร"


    "กูอยากได้เช็คเงินสดไม่ระบุจำนวน" กันต์ว่าพลางยักคิ้วให้อย่างกวนตีน


    "ส่วนกูอยากได้ Lamborghini  Huracan  Avio"  แอซกวนกลับไม่แพ้อีกคน


    "พวกมึงคิดว่าบ้านกูมีบ่อน้ำมันรึไง เอาที่มันเป็นไปได้สิวะ"


    "บ้านกูรวยเพราะงั้นไม่ซีเรียสเรื่องของขวัญ  แค่เพื่อนมางานวันเกิดกูก็โอเคแล้ว  ให้อะไรมากูชอบหมดแหละ"


    "เหมือนกัน  ใครอยากให้อะไรหรือจะไม่ให้  กูก็โอเค"  ทั้งสองคนมันคิดเหมือนกัน  และดูจะช่วยอะไรผมไม่ค่อยได้  เลยต้องหันไปขอความเห็นธารที่นั่งฟังเงียบๆบ้าง


    "แล้วธารล่ะ  คิดว่าได้อะไรแล้วจะดีใจบ้าง"


    "ของที่เค้าทำขึ้นมาให้เราคนเดียว  ไม่ต้องแพงแต่ทำด้วยใจน่ะ  คงรู้สึกดีเพราะมันมีชิ้นเดียวในโลก"  ธารคิดก่อนจะเอ่ยออกมา


    "สุดยอดไปเลยธาร  ขอบใจมากนะ  ธารเนี้ยฉลาดๆสุดไปเลย"


    "พวกกูก็ช่วยออกความเห็น  ไม่คิดจะชมกันมั้งรึไงครับคุณปวริษ"


    "เออๆ  ขอบใจพวกมึงเหมือนกัน  ถึงจะช่วยอะไรกูไม่ได้ก็เหอะ"


    "อ้าวว  ไอ้เนิร์ด  พูดงี้มึงอย่าขอบคุณพวกกูเลยดีกว่า"


    "งั้นกูเอาคำขอบคุณคืนละกัน"


    "ใช่สิ๊   ใครจะดีเหมือนคุณชายธารา ไปเหอะไอ้กันต์พวกเรามันคนไม่มีประโยชน์"  แอซพูดกับกันต์ก่อนจะพาลุกเดินออกไปจากโต๊ะ


    "โอ๋ๆ  อย่างอนน้าาา  เลิกเรียนอยากกินอะไรเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง  ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่พวกมึงช่วยให้คำปรึกษากู"  ผมรีบลุกตามแล้วไปแทรกตัวตรงกลางก่อนจะคล้องแขนพวกมันคนละข้าง  พวกมันเริ่มติดนิสัยขี้งอนมาจากธารแน่ๆ


    "มึงพูดเองนะว่าจะเลี้ยง  กุจะแดกจนกระเป๋ามึงแหกเลยค่อยดู"  กันต์เอ่ยก่อนจะหันไปหัวเราะกับแอซ  บอกกูทีว่าพวกมึงไม่ได้แกล้งงอน  เพื่อจะได้กินของฟรี  ตกหลุมพลางพวกมันจนได้  แงงงง 


    หลังจากเรียนเสร็จผมก็รีบกลับมาที่ห้อง  ตั้งใจจะหาของแฮนด์เมดที่เหมาะสำหรับให้เป็นของขวัญวันเกิด  ดูไปเรื่อยๆก็ตัดสินใจว่าจะทำ Terrarium  หรือ สวนในขวดแก้ว  มันไม่ต้องใช้การดูแลมาก แถมยังเป็นของแต่งห้องที่ดูแล้วสบายตาอีกด้วย  ผมใช้เวลาจนดึกในการศึกษาข้อมูลในการทำและแหล่งซื้ออุปกรณ์  ค้นเจอว่ามีขายที่ตลาดต้นไม้จตุจัตร  เลยส่งข้อความไปในกรุ๊ปไลน์ชวนอีกสามคนไปด้วยกัน  แต่แอซกับกันต์ขอบาย  เลยมีแค่ผมกับธารเท่านั้นที่จะไปเดินซื้ออุปกรณ์กันในวันพรุ่งนี้เพราะมีเรียนแค่ช่วงเช้า



    "ขอบใจนะธาร  อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนเราแล้วยังต้องมาช่วยถือของอีก"  ผมหันไปยิ้มให้ร่างสูงที่เดินข้างกัน เพราะมาเลือกซื้อของกันในตอนบ่าย  ทำให้ตอนนี้เราทั้งคู่หน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ  เสื้อก็แนบไปกับผิวหนังเพราะเหงื่อที่ซึมออกมาไม่หยุด


    "ไม่เป็นไรหรอก  สนุกดี ปันหิวน้ำรึเปล่า  เดี๋ยวเราไปซื้อให้"


    "เราไปซื้อเองดีกว่า  ธารถือของเต็มมือหมดแล้ว  แปบนึงนะ"  ผมบอกก่อนจะรีบวิ่งไปซื้อน้ำ  เพราะกลัวธารจะเดินไปซื้อเอง


    "อะนี่  ดื่มสิ"  ผมยื่นน้ำไปตรงหน้าธาร  แล้วจับหลอดจ่อริมฝีปากให้ร่างสูงได้ดื่มสะดวก  มันมองหน้าผมนิดหน่อย  ก่อนจะก้มลงมาดูด  พอเห็นมันกินเสร็จผมก็หยิบกระดาษทิชชู่ไปเช็ดเหงื่อให้ธาร  อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนต้องดูแลดีๆหน่อยครับ


    "เราว่าได้ของครบแล้วนะ  กลับเลยดีกว่า"


    "งั้นแวะกินข้าวก่อนกลับแล้วกันนะ  ปันจะได้ไม่ต้องกลับไปทำ"


    "โอเค  เราว่าจะแวะร้านหนังสือด้วย"


    "ดีเลย  เราเห็นมีหนังสือเล่มใหม่ออกมา  ว่าจะไปดูอยู่เหมือนกัน"


    เราทั้งคู่ใช้เวลาเดินดูของไปเรื่อยๆ  จนคิดว่าได้ครบตามที่ต้องการผมเลยชวนธารกลับ  เราตัดสินใจแวะกินข้าวที่ห้าง  แล้วเดินไปร้านหนังสือ  ผมตั้งใจจะไปหาหนังสือเกี่ยวกับการจัดสวนขวด  ส่วนธารบอกว่าอยากได้หนังสือเล่มใหม่มาอ่านเล่น  เราได้หนังสือมากันคนละหลายเล่ม  ผมกับธารชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกัน  ทั้งชอบอ่านหนังสือ  ชอบดูหนัง  หรือชอบอยู่ติดห้องมากกว่าจะออกไปเที่ยวกลางคืน  ถ้าวันไหนผมไม่ได้ไปหาพี่ภูก็จะมาคลุกอยู่กับธารตลอด  เราไม่ได้พูดคุยกันตลอดเวลา  ต่างคนต่างอ่านหนังสืออยู่เงียบๆแต่ผมก็ไม่เคยเบื่อ  พออยู่กับมันแล้วผมรู้สึกสบายใจคล้ายได้อยู่กับคนในครอบครัว  แต่ใช่ว่าผมจะไม่ชอบอยู่กับไอ้สองคุู่หูต่างชาตินะ  แค่มันเป็นคนละฟีลเวลาที่อยู่ด้วย  กับแอซและกันต์ผมชอบที่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับพวกมัน  ได้กวนตีนกันอย่างสนุกสนาน ผมว่าการที่ได้เป็นเพื่อนกับพวกมันทั้งสามคน  คือความโชคดีของคนที่ไม่เคยมีเพื่อนสนิทแบบผมมาก่อน   


    "เฮ้ออออ  ถึงห้องซะที  ขอบใจมากๆเลยนะธาร"


    "นี่บอกขอบคุณเราจะครบร้อยรอบแล้วนะ  ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง"


    "ก็เรารู้สึกขอบคุณจริงๆนินา  อุตส่าห์ให้ไอเดีย  ช่วยไปเป็นเพื่อนแล้วยังช่วยเราถือของอีก  ธารเนี้ยน่ารักจริงๆเลยน้าาา  เราอะอิจฉาจริงๆ"


    "อิจฉาอะไรเหรอ"  ธารถามกลับอย่างงงๆ


    "ก็อิจฉาแฟนธารในอนาคตอะสิ  ขนาดเราเป็นแค่เพื่อนธารยังดีกับเราขนาดนี้  ไม่อยากจะคิดว่าถ้าธารมีแฟนจะดีด้วยขนาดไหน"


    "ลองเป็นดูมั๊ยล่ะ  จะได้รู้ว่าเราจะดีได้ถึงขนาดไหน"  ธารขยับเข้ามาใกล้ผม  ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้ผมชะงักไปกับแววตาที่ส่งความหมายบางอย่างออกมา





    PS. ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนะคะ  ช่วงนี้งานเยอะมากกกกกกกกก #กอไก่ล้านตัว  เหนื่อยสุดๆ  ขนาดวันอาทิตย์ยังต้องมาทำเลยอ่าาา  ฮือออออ  นี่แอบอู้มาอัพนิยายแก้เครียดให้ตัวเอง  เห็นคนเข้ามาอ่านแล้วมีกำลังใจสุดๆ  ขอบคุณอีกครั้งนะค้าา   






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in