เนื้อหาโดยสังเขป
พบกับเรื่องราวของ "โฮลเดน คอลฟีลด์" หนุ่มน้อยที่เบื่อหน่ายกับสังคมซึ่งมีแต่เรื่องเสแสร้ง ชีวิตเขาแทบจะร่วงหล่นไปสู่จุดต่ำสุดของชีวิตเมื่อสอบตกอีกครั้ง และนั่นเป็นผลให้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน การถูกไล่ออกครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน ชีวิตของโฮลเดนวนเวียนกับการเปลี่ยนโรงเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาหลายฤดูกาล และในวันที่เขาจะต้องเดินทางกลับบ้านในนั้น เขากลับตัดสินใจออกเดินทางก่อนกำหนด แต่จุดหมายปลายทางนั้นไม่ใช่บ้านของเขา!
เป็นหนังสือเรื่องล่าสุดที่เราได้อ่าน จากคำโฆษณายืดยาวที่เราได้อ่านว่าหนังสือเล่มนี้มีดีอย่างไรบ้าง และด้วยความที่เนื้อเรื่องโดยย่อมันน่าสนใจดี
"เด็กหนุ่มที่โดนรีไทร์ออกจากโรงเรียนและหนีออกจากบ้านเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว"
มันทำให้เราอยากรู้ว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร คิดเผื่อว่าจะได้ตกตะกอนอะไรจากหนังสือเล่มนี้ก็อดใจไม่ได้ที่จะซื้อมันมาอ่าน แต่เมื่ออ่านแล้ว
กลับรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย… เราคงคาดหวังมากไป เนื่องจากตัวเนื้อเรื่องค่อนข้างที่จะเนิบนาบ เล่าเรื่องราวไปเรื่อยเปื่อยเนื้อหามีแต่บทก่นด่าของตัวเอก นินทาว่าร้ายคนอื่นไปทั่ว แต่กลับกันเมื่อเราอ่านแม้จะผิดคาดที่ไม่ได้แง่ติดใดๆจากหนังสือ แต่เรากลับรู้สึก "อุ่นใจ" เหมือนได้พบเพื่อนคนใหม่ที่มีนิสัยคล้ายเราเหลือเกิน
เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสนุกเท่าไรนัก อาจจะเพราะมันเป็นหนังสือที่ค่อนข้างที่จะตีความยาก ซ่อนประเด็นต่างๆที่ต้องการสื่อไว้ได้อย่างแนบเนียน จนเราแทบตีความอะไรไม่ออก แต่พอได้ไปอ่านที่คนอื่นตีความแล้วกลับรู้สึกประทับใจขึ้นมา
ตัวละครฟีบีซึ่งเป็นน้องสาวที่อายุอ่อนกว่าเขา 6 ปี ฟีบีกลับมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า ฟีบีคล้ายจะเข้าใจกระบวนการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ดีว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้างจากการที่เธอโกรธโฮลเดนที่คอยปฏิเสธการเติบโตเป็นผู้ใหญ่และไร้ความฝัน ฉากที่สื่อได้ชัดที่สุดว่าเด็กบางคน(เช่นฟีบี)ก็ไม่ได้กลัวที่จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในโลกของผู้ใหญ่ก็คือฉากที่ฟีบีกระโดดเข้าไปในม้าหมุน ซึ่งม้าหมุนในที่นี้เราตีความได้ว่ามันก็คือกงล้อวัฎจักรของสังคมที่มนุษย์เราต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการและเคลื่อนที่ตามมัน วนเวียนไปอย่างนั้นไม่รู้จบ ซึ่งฉากนี้ก็เป็นฉากจบของเรื่องราวทุกอย่างในหนังสือด้วย โฮลเดนยังคงยืนยันจะนั่งตากฝนอยู่ตรงม้านั่งเพื่อมองน้องสาวสนุกเพลิดเพลินอยู่ในม้าหมุน ก็คือไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่อยากจะเข้าไปอยู่ในวังวนของการเติบใหญ่นั้น แต่ที่บอกว่ามีความสุขมากๆนั้นก็ตีความได้ว่าที่สุดแล้วเขาก็ได้ตระหนักว่าไม่ใช่เด็กทุกคน(อย่างเช่นเขา)ที่กลัวการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเค้าไม่ได้ต้องการให้โฮลเดนคอยรับไว้แต่พร้อมที่จะกระโดดลงไปสู่ห้วงเหวโดยไม่ลังเล ยังมีเด็กอีกหลายคนอย่างฟีบีที่พร้อมจะเติบใหญ่ เพลิดเพลินไปกับกงล้อของชีวิต และพร้อมจะเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่จะถาโถมเข้ามาเพราะรู้ดีแก่ใจว่าไม่อาจหลีกหนีมันได้ไปตลอดชีวิต.
เมื่อได้อ่านแล้วจึงเข้าใจสิ่งที่ผู้เขียนสื่อถึงได้อย่างถ่องแท้
"พี่นึกภาพเด็กตัวเล็กๆเล่นเกมกันอยู่ในทุ่งกว้างใหญ่ เด็กเล็กเป็นพันๆคนและไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย พี่หมายถึงไม่มีคนตัวใหญ่อยู่เลย-นอกจากพี่คนเดียว และพี่ก็ยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาสูงอันตราย สิ่งที่พี่ต้องทำ คือ พี่ต้องเป็นคนคอยรับทุกคน"
ประโยคที่หลายๆคนชอบและเป็นตัวชูโรงของหนังสือเล่มนี้ เราก็ชอบเหมือนกัน มันน่ารักนะที่ได้เห็นถึงความอ่อนโยนของโฮลเด้น ตัวละครเอกหลังจากที่เขาเอาแต่ก่นด่า มองคนในแง่ลบมาเกือบทั้งเล่ม เขาก็มีมุมที่เป็นคนดีเหมือนกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in