เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
THE EXPLORER STORYTHEEXPLORER
โชคดีนะ
  • (1)
    ถึงแม้จะไม่ค่อยเชื่อเรื่องโชค แต่ผมก็ไม่เคยอุปโลกน์แบบให้เข้าข้างตัวเองเสียมากจนเกินไป ยิ่งเป็นคนที่ต้องใช้ชีวิตประจำวันแบบดาหน้าแก้ไขปัญหาที่รุมเร้าในทุกๆรูปแบบแล้วละก็ การมองโลกในแง่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้นำควรมองเห็นมันในยามวิกฤต เพราะอย่างน้อยการที่ไม่ทิ้งให้ความรู้สึกตัวเองจมจ่อไปกับอารมณ์แย่ๆ แถมสิ่งที่ตั้งขวางลูกกะตาอยู่เบื้องหน้าก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่ไม่นอนและคาดเดาไม่ได้อีกโข 

    การผลักตัวเองออกมาตั้งสติกับความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นในไม่ช้า น่าจะทำให้เราสามารถคาดเดาผลลัพธ์แบบลางๆได้ล่วงหน้า และหากครั้งใดที่สถานการณ์คับขับมาเยือนโดยมิได้บอกกล่าว การต่อกรกับอุปสรรคอันมากล้นพ้นเหนือคณาย่อมต้องอาศัยสติสัมปชัญญะที่มั่นคง เพื่อที่เราจะได้ตั้งมั่นอยู่บนทางออกที่ถูกต้องสำหรับตัวเอง

    ความโชคดีอาจจะกำลังก่อตัวอยู่บนพื้นฐานของคนที่มีความคิดดีๆ มองโลกในแง่ดี อารมณ์ดี รวมทั้งคนที่รู้จักการส่งมอบความรู้สึกดีๆให้แก่คนรอบช้าง ผมเพิ่งมาเชื่อว่าความ "ดี" นี่มันส่งต่อกันได้ง่ายขนาดนี้ ก็เมื่อตอนที่เราได้มาจมจ่ออยู่กับความรู้สีกดีๆได้ทั้งวัน มันคงเหมือนกับกำลังใจอันแข็งแกร่งที่คอยเป็นแรงผลักดันให้เรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับทุกๆเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา และคงจะแน่นอนแล้วว่า ความโชคดีนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดคนดีๆที่คอยส่งมอบความรู้สึกดีๆให้แก่กัน

    (2)
    บ่อยครั้งที่โชคอาจจะไม่ได้เป็นใจแถมยังขับไสไล่ส่งให้เรากลับไปหมกตัวอยู่ในสิ่งที่ไร้ค่า ในความคิดที่สับสนมักทำให้คนเกิดความวกวนขึ้นในหัวใจ เราจะเริ่มหลงเชื่อว่าความโชคร้ายที่คลืบคลานเข้ามา ได้ปกคลุมความรู้สึกอันแท้จริงของเราเอาไว้อย่างถาวร และมันคงคล้ายดั่งกับดักที่แอบลักเอาความทรงจำดีๆที่ถูกสั่งสมเอาไว้ในหัวใจ ให้หดหายไปเสียหมดอย่างเร็วพลัน

    "เราอาจจะโชคไม่ดีอย่างวันก่อน หรืออาจจะพาลพบกับโชคร้ายอย่างวันนั้น" ระดับความหมายของข้อความข้างต้นล้วนเป็นสิ่งสมมติที่มนุษย์สร้างขึ้นในความคิดทั้งสิ้น หากแท้จริงแล้วเรากำลังเกรงกลัวต่อสิ่งที่ยังมาไม่ถึงหรือเราได้ตีความหมายของอนาคตไปก่อนทั้งๆทียังไม่มีหลักฐานเพียงพอ คล้ายว่าสมองจะเริ่มมโนภาพล่วงหน้าไปก่อนแบบผิดๆ จริงๆแล้วเราอาจจะโชคดีอย่างวันก่อน และไม่ได้พาลพบโชคร้ายอย่างวันนั้นก็ได้

    โชคร้ายอาจจะไม่ได้ดูร้ายแรงสมชื่อนัก มันอาจเป็นเพียงความกลัวอย่างหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากความรู้สึกที่ผิดพลาดของเราในวันเก่าๆ การจัดเรียงข้อมูลที่เสียหาย จึงทำให้สิ่งที่เราแอบคิดไปก่อนหน้านั้นค่อยๆมืดดำสนิทจนรู้สึกว่าตอนนี้มีเพียงแต่ความกดดัน ทว่าภายใต้เมฆหมอกสีคล้ำที่ปกคลุมอยู่นั้น หยาดฝนเม็ดน้อยๆกำลังจะหยดลงดั่งน้ำตาแห่งความทุกข์ที่ไหลริน

    (3)
    เรามักเชื่อในเรื่องโชคดีมากกว่าโชคร้าย ดังนั้นมันจึงส่งผลให้คะแนนความดีได้เข้าไปทลายความร้ายกาจของความคิดแย่ๆในตัวเองให้ป่นปี้ ในวันที่ฝนตกหนักเราจึงรู้สึกว่าเหตุการณ์มันคงจะไม่ได้แย่อยู่เป็นแรมปี พอหันกลับมาลงแรง ลงกาย ลงใจ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเข้าแล้วจริงๆ เราเองก็สามารถเปลี่ยนช่วงเวลาที่แสนน่าเบื่อหน่ายให้กลายเป็นผลงานดีๆเด่นๆสักชิ้น จนทำให้เกิดความภาคภูมิใจได้อย่างง่ายดาย

    โชคดีที่ผมไม่ได้เตรียมตัวออกไปวิ่งในวันฝนตก โชคดีน้อยๆที่ทำให้ผมไม่ต้องออกไปเผชิญกับห่าฝนเม็ดน้อยใหญ่ที่คอยบั่นทอนความตั้งใจที่สั่งสมเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อสะสมความโชคดีเล็กๆได้บ่อยๆ เราจึงค่อยๆฟูมฟักความแข็งแกร่งที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้อยู่ในหัวใจและกายา และเมื่อถึงวันใดวันหนึ่งที่พลังงานก้อนนี้ถูกสะสมไว้มากพอ วันนั้นเราจะลืมเรื่องราวร้ายๆที่ฝังแน่นอยู่ในห้วงเวลาเก่าๆเหล่านั้นให้หมดลงไปเสียที 

    "โชคดีเนอะ โชคดีนะ โชคดีจริงๆเลย" คือทุกคำพูดที่ช่วยปลอบประโลมตัวเองได้ดีก่อนท้องฟ้าวันพรุ่งนี้จะเริ่มสาง การได้มาทบทวนความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นจากการมองโลกในแง่ดี ได้กลับกลายเป็นความคิดสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยบีบเค้นให้สิ่งแย่ๆที่ดูคล้ายสิ่งแปลกปลอมหลุดออกไปจากหัวสมองได้อย่างถาวร บางทีความโชคดีอาจจะอยู่ใกล้ตัวเราอย่างคาดไม่ถึงก็ได้ แค่เพียงเราใช้สติตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แล้วค่อยๆสรรหาความดีงามจากสรรพสิ่งที่อยู่รอบกาย มาประกอบเป็นประโยคที่สมบูรณ์ ซึ่งเราสามารถพูดกับตัวเองได้อยู่เสมอว่า

    โชคดีนะ 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in