คุณเคยไหมกับการที่คุณมองหาหนังสือเพียงแค่คุณไม่รู้จะอ่านเล่มไหนดี คุณเลยกวาดสายตาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสายตาคุณหยุดลงที่หนังสือเล่มหนึ่ง รู้ตัวอีกทีคุณก็เสียเงินกับมันแล้ว

                เรายอมรับเลยว่าเราเห็นหนังสือ "when we dead เมื่อความตายทำให้เราพบกัน" ครั้งแรก เราสะดุดตาตรงปก และชื่อหนังสือ เรารู้สึกว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องซื้อเล่มนี้ให้ได้แม้ไม่ทราบว่ามันมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรก็ตาม จริง ๆ เราอยากซื้อเล่มนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อสักที จนกระทั่งเดือนที่ผ่านมานี่แหละ เราถึงได้ตัดสินใจซื้อ

               คาลวิน มิลเลอร์ ไม่เคยคิดว่าพ่อของเขาจะรอดจากสงคราม เมื่อตายแล้วสิ่งแรกที่เด็กชายทำจึงเป็นการตามหาพ่อในโลกหลังความตายด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนใหม่ ลัมแบร์ท ฟรังค์

           คาลวิน มิลเลอร์ »» เด็กชายชาวอังกฤษวัย 7 ปี เป็นคนร่าเริง มองโลกในแง่ดี

           ลัมแบร์ท ฟรังค์ »» ทหารหนุ่มชาวเยอรมัน

          เจมี่ คาร์เตอร์ »» ชายหนุ่มชาวอังกฤษ เป็นเพื่อนบ้านของคาลวิน และได้ร่วมรบในสงคราม

           อัลเฟรด มิลเลอร์ »» พ่อของคาลวิน และได้ร่วมรบในสงคราม

ความรู้สึก         

           "when we dead เมื่อความตายทำให้เราพบกัน" มีเนื้อหาที่อ่านง่าย เพลิดเพลิน และสนุก สำหรับเราหนังสือเล่มนี้แฝงข้อคิดไว้มากมาย 

อย่างเช่น 

• มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยากจะละทิ้งกิเลสของตัวเอง แม้แต่ในโลกหลังความตาย ที่ร่างกายเหลือเพียงแค่โครงกระดูกก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นล้วนต้องทำงานหาเงินเพื่อใช้ตอบสนองกิเลส ความอยากได้ของตนเอง 

• อย่างที่ทราบกันดีว่าในโลกหลังความตายนั้น เราไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้า ใช้ของราคาแพง หรือบริโภคอาหาร แต่ทุกคนล้วนใช้ชีวิตปกติราวกับตัวเองยังไม่ตาย เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง

• เมื่อพูดถึงสมัยสงคราม เป็นเรื่องที่หน้าเศร้าและหดหู่ที่คนบริสุทธิ์ หรือเด็กที่ไร้เดียงสาอย่าง
  คาลวินต้องมีจุดจบของชีวิตที่เขาไม่สามารถกำหนดความตายของตนเองได้ ส่วนเจมี่ เขาไม่แม้แต่ได้ใช้ชีวิตช่วงวัยหนุ่ม หรืออัลเฟรดพ่อของคาลวินที่ต้องจากคนในครอบครัวเพื่อมาเข้าร่วมสงคราม โดยที่พวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่าจะได้กลับมาใช้ชีวิตกับคนที่เขารักอีกเมื่อไร

• ในเมื่อเหรียญมีสองด้าน เราควรมองมุมกลับกันอย่าง ลัมแบร์ท ทหารหนุ่มชาวเยอรมัน หลังจากที่เขาได้ขับเครื่องบินเพื่อทิ้งระเบิดในเมือง ๆ หนึ่งของประเทศอังกฤษ เขารู้สึกผิดมากจนเขาต้องฆ่าตัวตายภายในเย็นวันนั้น (ภายหลังถึงทราบว่าเมืองที่เขาได้ทิ้งระเบิดนั้นเป็นเมืองเดียวกับที่
  คาลวินอาศัยอยู่ เขาไม่โกรธเลยถ้าคาลวินจะเกลียดเขาหลังจากที่ทราบความจริง แต่คาลวินกลับไม่โกรธหรือเกลียดเขา)

        สำหรับเราหนังสือเรื่องนี้เป็นภาษาที่อ่านง่าย เนื้อหาไม่หนัก อารมณ์เหมือนอ่านวรรณกรรมเด็กเลย เนื้อเรื่องมีการเสียดสีประเด็นที่เกิดขึ้นจริงในสังคมอย่างกิเลส ทุนนิยม และสงครามโลกครั้งที่ 1  พร้อมแฝงข้อคิดต่าง ๆ ทำให้ความคิดได้ตกตะกอนเมื่ออ่านเรื่องนี้จบ เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาส เราอยากคุณลองเปิดใจและหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านดู คุณจะได้อะไรกลับมามากมายแน่นอน