Title: To All the Things
Rating: PG
Fandom: The Promised Neverland
Categories: Shonen Ai
Relationship: Norman/Ray
Characters: Norman, Ray
Note: สปอยล์เนื้อเรื่องหลัก เหมาะสำหรับคนดูอนิเมะซีซั่นแรกจบแล้ว
––––––––––––––––––––
ตั้งแต่วินาทีที่ร่างกายตระหนักรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ความจริงอันน่ากลัวที่ผิดเพี้ยนจากภาพอันแสนสุขที่เขาเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน รอยยิ้มอันงดงามของ “แม่” ที่ฉาบความโสมมของโลกใบนี้ไว้อย่างแนบเนียน เรย์เห็นทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง และในตอนนั้น เขาคิดเพียงอย่างเดียว
ต้องหนี
หนีออกไปจากที่นี่ จากสถานที่ที่จะพาพวกเขาไปสู่ความตาย พวกเขาต้องปลดปล่อยตัวเองจากกรงขังนี้ ตามหาอิสระที่แท้จริง อิสระที่จะไม่ผูกพวกเขาไว้กับการเป็นอาหารให้กับตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ทำตัวเหมือนเป็นพระเจ้า สั่งการมนุษย์เหมือนเป็นเพียงมดปลวกผู้ต่ำต้อย
เรย์จะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วดิ้นรนออกจากที่นี่ด้วยทุก ๆ วิธีที่เป็นไปได้
แต่แน่นอน เขาไม่เคยคิดจะหนีออกไปคนเดียว
“เรย์”
เสียงนั้นเรียกเขาแบบนั้นอยู่เสมอ
เรียกด้วยความนุ่มนวล เหมือนเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ไม่ประสีประสา หรือเป็นแมวที่ถ้าพูดจารุนแรงใส่ก็พร้อมจะแว้งกัดทันที เรียกด้วยความระมัดระวัง และรอยยิ้มที่ยิ้มไปถึงแววตา
นอร์แมน
“กินข้าวกันเถอะ”
“อืม”
เขาแทบไม่เคยปฏิเสธอะไรนอร์แมนได้อยู่แล้ว
––––––––––
พวกเราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน เขา นอร์แมน และเอ็มม่า เด็กหญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มที่เหมือนพระอาทิตย์อันสดใส ท่ามกลางความสุภาพนุ่มนวลของนอร์แมน และความเย็นชาไม่สนโลกของเขา
ถึงวัยหนึ่ง เรย์ทำความรู้จักตัวเองทุกครั้งที่เขามีโอกาส และตอนนั้นเขาก็ได้เห็นสายตาของนอร์แมนที่เปลี่ยนไปเมื่อทอดมองเอ็มม่า
รัก
เขารู้จักมันดี แววตาที่นอร์แมนมีให้ความสดใสของคนทั้งเกรซฟิลด์เฮาส์นี้
เขารู้จักดี เพราะเขาเองก็มีสายตาแบบนี้ให้กับนอร์แมนเช่นกัน
––––––––––
แล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ทั้งนอร์แมนและเอ็มม่ารู้ความจริงของบ้านหลังนี้
เรย์ไม่ตกใจ ไม่มีอะไรต้องตกใจ เขาเห็นมันมาตลอด แรงกดดันจากการต้องมองพี่น้องหลายคนถูกส่งออกไปแปรเปลี่ยนให้เขาเฉยชามากขึ้น ทุกคนก็แค่ตาย แต่แม้จะคิดอย่างนั้น เขารู้ดีว่าตัวเองไม่เคยยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งการอาสาเป็นสายลับให้มาม้า ทั้งความรู้สึกอยากจะหนีออกจากที่นี่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ความตายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของเด็กวัยสิบเอ็ดปีที่เห็นโลกผ่านหนังสือ ถึงพวกเขาจะฉลาดแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครเคยมีประสบการณ์ผ่านความตายมาก่อน
เขาเห็นแววตาหวาดหวั่นของเอ็มม่า และแม้นอร์แมนจะมีท่าทีนิ่งสงบเพื่อปลอบใจเด็กหญิง แต่เขาก็เห็นปลายนิ้วที่สั่นเทา และแววตาวูบไหว
มันน่ากลัว เขารู้ดีที่สุด
เพราะอย่างนั้น พวกเราจึงต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้
––––––-–––
ไม่มีอะไรเป็นไปได้อย่างใจคิด เรย์รู้เรื่องนี้มานาน แต่เมื่อความเป็นจริงของโลกฟาดลงกลางหลังราวกับโบยตีเขาที่นึกพยศต่อกฎเกณฑ์ของบ้าน มันก็ทำให้เขาชาจนพูดไม่ออก
“นอร์แมนจะถูกส่งออกไปพรุ่งนี้”
แม่พูดคำนั้นออกมาอย่างง่ายดาย เหมือนบอกว่าวันนี้อากาศดี ขณะที่สองมือยังประคองร่างไร้เรี่ยวแรงของเอ็มม่าไว้ หล่อนไม่ปิดบังรอยช้ำบนขาเรียวเล็กนั่นสักนิด ราวกับต้องการประกาศให้พวกเขารู้ถึงความอ่อนแอของตนเอง
นอร์แมนยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าว่างเปล่า ไม่ต่างจากเขา
นอร์แมนกำลังจะถูกส่งออกไป
นอร์แมนกำลังจะตาย
เขาอยากให้เวลาเดินช้าลงกว่านี้ แต่คำขอร้องของเขาไม่เคยเป็นผล พระเจ้าได้ตายจากโลกนี้ไปนานแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ต้องมีสภาพแบบนี้หรอก
หลังอ้อมกอดระหว่างพวกเขาสามคน ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนน่าประหลาด เรย์คิดว่าเขาจะผล็อยหลับไปจากความเหนื่อยอ่อนแล้วตื่นมารับเช้าวันใหม่ที่น่าหดหู่ที่สุดในชีวิต แต่ความจริงคือ กลางดึกคืนนั้น นอร์แมนสะกิดเรียกเขาที่พยายามข่มตาหลับให้ได้
“เรย์”
เสียงเรียกนั้นยังเหมือนเดิม เหมือนตลอดมาที่นอร์แมนเรียกเขา
พวกเขาลงไปชั้นล่าง ที่ห้องอาหารซึ่งบัดนี้ไร้ผู้คน มีเพียงแสงจันทร์สาดลงมาจากหน้าต่างบานใหญ่ในห้องโถง นอร์แมนนั่งลงก่อน ผิวขาวซีดสะท้อนแสงจันทร์ราวกับว่าเขาจะกลืนหายไปใต้ไอแสงนั้น
หรือหายไปตรงนี้อาจจะดีกว่าก็เป็นได้
“กลัวเหรอ”
“อะไร”
พอโดนถามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง เรย์อดขมวดคิ้วใส่ไม่ได้
“กลัวฉันตายเหรอ”
“นอร์แมน มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”
“อืม” นอร์แมนตอบรับในลำคอ “ฉันก็ไม่ได้ล้อเล่น”
“…”
“ฉันก็กลัว”
“…”
“กลัว…มากด้วย”
นอร์แมนชอบเอ็มม่ามาก ดังนั้นจึงมักแสดงด้านที่เข้มแข็งออกมาเพื่อให้ดูปกป้องเอ็มม่าได้เสมอ
แต่กับเรย์ นอร์แมนไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น พวกเขาเห็นทุกด้านของอีกฝ่ายมาหมดแล้ว สัมผัสของกำปั้นที่ประทับบนแก้มของกันและกันยังเด่นชัดในความทรงจำ
นอร์แมนในเวลานี้ตัวสั่น ไหล่ทั้งสองข้างสะท้านด้วยความหวาดหวั่นต่ออนาคต เรย์เม้มปากมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนจะย่อตัวลงไปแล้วสวมกอดคนตรงหน้า
“…เรย์?”
“ฉันไม่ใช่เอ็มม่า นายไม่ต้องทำเป็นเข้มแข็งให้เห็นหรอก”
เขาไม่เห็นสีหน้าของนอร์แมน แต่คิดว่าอีกฝ่ายคงยิ้มอยู่แน่ ๆ กอดที่ร่างอันสั่นเทานั้นจะกระชับกอดเขาแน่น
“ถ้าฉันไม่อยู่ ฝากดูแลเอ็มม่าด้วยนะ”
“อือ”
“นายก็ต้องดูแลตัวเอง”
“…อือ”
“ออกไปข้างนอกนั่นให้ได้ ใช้ชีวิตแทนฉัน”
เรย์เกร็งอ้อมแขนทันที
“นายต้องหนี นอร์แมน” เขาผละออกจากอ้อมกอด “เราสัญญากันไว้แล้วนี่ นายจะหนีรอดออกไปก่อน แล้วเราจะเจอกัน เราจะหนีไปด้วยกันทั้งหมด”
“อืม”
ทั้งที่นอร์แมนตอบรับคำพูดของเขา แต่เรย์กลับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้น แววตาสีเทาของนอร์แมนมักดูอ่อนโยน แต่บางครั้งก็เย็นเยียบเหมือนชั้นน้ำแข็งหนาที่ปกปิดอะไรหลาย ๆ อย่างไว้
ตอนนี้ แววตาคู่นั้นมองเขาด้วยสายตาราวกับเขาเป็นน้อยอ่อนเดียงสาต่อโลกใบนี้
นอร์แมนยกมือขึ้นลูบผมเขาเบา ๆ นานแสนนานมาแล้ว อีกฝ่ายเคยบอกว่าเหมือนเกาหัวแมว ถึงพวกเขาจะไม่เคยเห็นแมวจริง ๆ แต่จินตนาการตามภาพในหนังสือแล้วมันคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่าดู
และเรย์ไม่คิดว่าตัวเองใกล้เคียงกับคำนั้นสักนิด
“มีชีวิตอยู่ต่อไป”
นอร์แมนกระซิบบอกเขา
เรย์เลื่อนมือไปจับมืออีกฝ่าย บีบมันแน่นราวกับกล่าวคำสาบาน
“มีชีวิตอยู่ต่อไป”
–––––––––––
นอร์แมนโกหก
เขาไม่ได้หนี และกลับมาพร้อมข่าวร้ายที่น่าสิ้นหวังกว่าเดิม ก่อนจะจากบ้านนี้ไปพร้อมกับมาม้าที่เดินไปส่ง
เรย์เฝ้ามองแสงไฟของตะเกียงที่มาม้าถือลับหายไปที่ทางเข้าป่า วูบของแสงไฟที่หายไป เหมือนใจของเขาที่แหลกสลายไม่มีชิ้นดี
นอร์แมนไปแล้ว
และคงไม่มีวันกลับมาอีก
ตลอดกาล
เรย์กำมือแน่น เปลวไฟไหวระริกในดวงตา
เขาตัดสินใจแล้ว
เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเล่นไปตามเกมของผู้ใหญ่
เพื่อไม่ให้ต้องกลายเป็นอาหารของพวกมัน
เพื่อจะได้เจอนอร์แมนอีกครั้งหนึ่ง
รอยยิ้มอ่อนแรงวาดบนใบหน้าของเด็กชาย
เขาจะใช้ความบ้าคลั่งครั้งสุดท้าย เพื่อทั้งหมดนั้น
FIN
––––––––––
200121
เพิ่งดูซีซั่นแรกจบค่ะ ประทับใจมาก T_T น้ำตาไหลพราก ๆ เลยทีเดียว
ประทับใจความสัมพันธ์ทั้งสามคนมาก แต่ชอบน้องเรย์มากที่สุดเลย ฮือ (ಥ_ಥ)
คอมเมนต์ได้ที่นี่หรือ #wirunfic เช่นเดิมค่ะ
ช่าย รีอัปจากในบล็อก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in