Fan Fiction Haikyuu!
Kageyama Tobio x Hinata Shouyou
One Shot
Believe In Tomorrow
ทะเลาะกับคาเงยามะอีกแล้ว
ใบหน้าที่มักประดับด้วยรอยยิ้มของฮินาตะบูดบึ้ง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างอดกลั้น ขณะออกแรงถีบจักรยานฝ่าสายฝนที่กระหน่ำเหมือนจะซ้ำเติมความงี่เง่าของเขา พายุฝนที่ตกมาตั้งแต่เมื่อวานส่งผลกระทบมาจนถึงวันนี้ ทำให้ไฟในโรงยิมดับจนต้องยกเลิกแมตช์ซ้อมกับทีมกรรมการเมืองคาราสึโนะ
เงาสะท้อนของน้ำที่ขังอยู่บนถนนยิ่งพาให้อารมณ์เสีย เมื่อเห็นสีหน้าของตนชัด ๆ
สีหน้าที่แม้จะเต็มไปด้วยความโกรธ ทว่านัยน์ตายังคงสะท้อนแววผิดหวัง
รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า
พวกเขาทะเลาะกันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง แค่เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมส่งลูกให้เขาก็โกรธ ทั้งที่รู้ว่าส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของตัวเองด้วยนั่นแหละ ที่มัวแต่เหม่อไปเรื่อยจนไม่ได้ตบลูก และคนอย่างคาเงยามะก็มองที่ผลลัพธ์ ถ้าส่งลูกให้เขาแล้วมันแย่ก็ต้องส่งให้คนอื่น ก็เป็นเหตุผลปกติที่เขายอมรับได้
แต่ไม่ใช่วันนี้
ไม่รู้ทำไม เขาคิดถึงแต่เรื่องของเจ้าเซตเตอร์หน้าโฉดอดีตศัตรูที่ผันตัวมาเป็น...แฟน... คิดถึงสายตาดุ ๆ ท่าทางหงุดหงิดเวลาเขาทำอะไรขัดใจ ความอบอุ่นของอ้อมกอดและฝ่ามือที่มักสัมผัสเส้นผมของเขา
…เขาคิดถึงมัน ราวกับว่าจะไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้อีกแล้ว
ลางสังหรณ์แปลก ๆ ที่พาให้สมาธิกระเจิงและนำไปสู่ความไร้เหตุผลในการทะเลาะกัน สุดท้ายก็เป็นเขาที่ปั่นจักรยานหนีออกมา ไม่ยอมหันกลับไปสบนัยน์ตาสีดำที่ทอดมองมานั่น หมอนั่นไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองทำสีหน้ายังไง สีหน้าเจ็บปวดนั่น แต่กลับไม่ยอมเอ่ยคำขอโทษออกมา... จะว่าไป เขาเองไม่ใช่หรือไงที่เป็นฝ่ายผิดน่ะ
ฮินาตะไม่ได้นั่งทบทวนหรอกว่า พวกเขาทะเลาะกันบ่อยขึ้นหรือเปล่า
สายฝนยังคงตกไม่ลืมหูลืมตาจนต้องจอดจักรยานแล้วจูงเดินแทน เพราะกลัวว่าจะลื่นจนเสียหลักล้มกลางถนนแล้วจะลำบาก หยดน้ำสาดกระเซ็นเต็มขากางเกงวอร์ม คอนเวิร์สคู่เก่งเละไปหมดแล้ว นัยน์ตากลมโตหรี่ลงเพื่อป้องกันละอองฝนที่กระทบเข้าตา
เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เขาค่อยไปขอโทษก็ได้
พอตัดสินใจได้ก็ขยับรอยยิ้มสดใสเหมือนเดิม ช่างเป็นรอยยิ้มที่สว่างตัดกับสภาพอากาศที่มืดมัวเสียเหลือเกิน มันมืด... มืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น เส้นทางพร่ามัวไปด้วยสายฝน
มองอะไรไม่เห็นเลยแฮะ
จะว่าไป อีกไกลไหมนะ กว่าจะถึง?
ทันใดนั้นก็พลันมีแสงสว่างวาบปรากฏขึ้นในคลองสายตา ฮินาตะหลับตาแน่นเพราะแสงที่สาดเข้ามาตรง ๆ ตามด้วยเสียงบีบแตรดังลั่นและอะไรบางอย่างที่กระทบกับร่างกาย ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วร่าง
สติสุดท้ายของเขา คือภาพใบหน้าของคนที่เพิ่งทะเลาะกัน
คาเงยามะ...
ฮินาตะคิดว่า ตัวเองกำลังฝัน
ที่คิดแบบนั้นเพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเขาตอนนี้ เหมือนเป็นเพียงสิ่งที่เขาจินตนาการฝ่ายเดียวมาตลอด ความฝันที่เขาอยากให้เกิดขึ้นสักครั้งในชีวิต ความฝันที่เขาอยากจะมุ่งไปให้ถึง
เขาคืนดีกับคาเงยามะแล้ว
และไม่มีการส่งครั้งไหนของอีกฝ่ายที่เขาตบไม่ได้
ไม่มีกำแพงไหนที่เขาฝ่าไปไม่ได้
ไม่มีลูกบอลแบบใดหลุดการบล็อกของเขามาได้
เขากระโดดได้สูงกว่าใคร ๆ ราวกับมีปีกงอกออกมาจากแผ่นหลังจริง ๆ ความสนุกสนานของการเล่นวอลเลย์บอลทำให้เขายิ้มได้ในทุกวัน โดยเฉพาะคู่หูคนเดียวของเขา
ส่งลูกมาให้ฉันสิ
ส่งลูกมาให้ฉันอีก
แค่เพียงคิดก็ราวกับจะได้รับการตอบรับทุกคำร้องขอ ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายดายเหลือเกิน
…ง่ายเกินไป
ดังนั้นเขาจึงคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันที่เขาจะไม่ทะเลาะกับคาเงยามะ ถึงแม้เขาจะไม่อยาก แต่นี่เป็นกิจวัตรของพวกเขาไปแล้ว เป็นเหมือนหนทางสร้างความสัมพันธ์อย่างหนึ่ง แต่ตอนนี้ แค่เพียงเขาทำหน้ามุ่ย คาเงยามะก็จะรีบขอโทษออกมาก่อนแล้วทำเหมือนพวกเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางต่อกัน
เราฝันมานานแค่ไหนแล้วนะ?
แล้วเมื่อไหร่เราจะตื่นล่ะ?
นี่ คาเงยามะ ฉันคิดถึงนายจะแย่อยู่แล้วนะ มาปลุกฉันสักทีสิ
มีคนเคยบอกว่าเขาเหมือนพระอาทิตย์
คาเงยามะจะคิดว่าเขาเป็นพระอาทิตย์ของมันหรือเปล่านะ?
แต่พระอาทิตย์น่ะ ไม่ได้คงอยู่ตลอดไปนี่
มีขึ้นก็มีวันที่ลับขอบฟ้าไป
ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่ขอเป็นพระอาทิตย์ของนายได้ไหม
ให้ฉัน... ให้ฉันได้อยู่ข้าง ๆ นายตลอดไปได้ไหม
ไม่ต้องขอโทษก็ได้ คนผิดมันเขาเองนี่
เขาสิต้องพูดคำนั้น
ขอโทษ
ขอโทษ
ขอโทษ
ขอโทษนะคาเงยามะ
ขอโทษที่งี่เง่า ขอโทษที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย
ฉันอยากพูดให้นายได้ยิน
ได้โปรด
ให้ฉันลืมตาขึ้นมาสักทีเถอะ
วันนี้ไม่เหมือนวันก่อน ๆ นับตั้งแต่ที่เขาหลับไป
ความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่านั้นหายไปแล้ว เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่สัมผัสผิว อาจเพราะแสงอาทิตย์ที่อาบไล้ลงมา... เขาเดาจากความรู้สึกที่เหมือนโดนแสงกระทบตานะ
ถึงอย่างนั้นก็อ่อนล้าเกินกว่าจะขยับตัว
เพียงแค่กระดิกนิ้วก็เหมือนใช้เรี่ยวแรงทั้งชีวิตไปเสียสิ้น
วินาทีถัดมา เสียงอึกทึกดังขึ้น แต่เขาจับใจความอะไรไม่ได้สักอย่าง ทุกอย่างดูลางเรือนและห่างไกลราวกับอยู่คนละโลก
“รู้สึกตัวแล้ว! โชโยรู้สึกตัวแล้ว! ฮินาตะรู้สึกตัวแล้ว!”
โชโย... ฮินาตะ...?
เหมือนจะเป็นชื่อของเขานี่นา
พลันความอบอุ่นปรากฏขึ้นที่อุ้งมือที่อ่อนแรงของตน แรงบีบแน่นจนเขาอยากโอดครวญว่าเจ็บ แต่ทำได้เพียงนิ่วหน้าอย่างยากลำบาก รู้สึกว่าลำคอแห้งผาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโอดครวญ แค่จะเปล่งเสียงยังยากเลย
เปลือกตาซีดค่อย ๆ ปรือขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตากลมที่ฉายแววอ่อนล้า ประสาทสัมผัสค่อย ๆ รับรู้ทุกสิ่งอย่างชัดเจนอีกครั้ง ภาพที่สะท้อนในดวงตานั้นคือใบหน้าของคนที่เขาคิดถึงเป็นคนสุดท้ายในมโนสำนึก
คาเงยามะ
เพียงแค่เห็นหน้า ก้อนสะอื้นก็พุ่งเข้ามาจุกที่คอ อยากร้องไห้ใส่ อยากเรียกชื่ออีกฝ่าย อยากพุ่งเข้าไปหาแล้วโวยวาย
ทำไมไม่เพิ่งมาปลุกฉันตอนนี้
ทำไมไม่ปลุกฉันให้เร็วกว่านี้
ทำไมถึงปล่อยให้ฉันคิดถึงนายนานขนาดนี้
ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า
ไอ้บ้าคาเงยามะ
ขอโทษ
แรงบีบที่มือยังคงแน่น เขาทำได้เพียงบีบตอบกลับเบา ๆ …มันแรงที่สุดเท่าที่เขาทำได้ตอนนี้แล้ว ภาพที่เห็นคือใบหน้าอีกฝ่ายที่ดูต่างจากครั้งล่าสุดไป...พอสมควร แต่เขายังจำได้
จำแววตาที่มองมาทางเขาได้
ฉันอยู่ตรงนี้นะ
เพราะอย่างนั้น
มือนี้ที่กุมมือฉันไว้
อย่าปล่อยมันนะ
อย่าลืม
ส่งลูกให้ฉันอีกครั้งนะ
คาเงยามะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in