ทุกคนเคยได้ยินวลีที่ว่า "หัวโนเป็นลูกมะนาว" ใช่ไหม สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นกับเด็กคนหนึ่งในห้องเตรียมอนุบาล แต่ก่อนที่เราจะไปฟังเรื่องราวอันนำมาซึ่งภารกิจปราบผลมะนาวนี้ เรามาฟังกิจวัตรประจำสัปดาห์ของเด็ก ๆ กันก่อนดีกว่า
หลายวันที่ผ่า่นมา ตารางการเรียนการสอนของเด็ก ๆ เตรียมอนุบาลยังเหมือนเดิม แต่ที่นี่อยุธยาครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทั้งวัน ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็ก ๆ แปลกไปจากทุกสัปดาห์หรือไม่ เพราะเด็ก ๆ หลายคนที่ไม่เคยร้องไห้ กลับร้องหาแม่ อยากกลับบ้าน หรือเด็ก ๆ ที่ร้องไห้ทุกวันอยู่แล้วก็ร้องหนักขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ส่วนเด็กที่ไม่ร้องไห้ก็ซน คึก วิ่งทั่วห้อง เหมือนกับกำลังมีความสุขมากจนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ ดูเหมือนดีใจที่ฝนจะตก และการที่ฝนตกก็เป็นตัวเร่งให้อารมณ์ของหนู ๆ ไม่มั่นคงยิ่งขึ้น คนที่ร้องไห้ก็ร้องหนักขึ้น คนที่วิ่งก็ยิ่งวิ่ง ยิ่งซน นั่นเป็นเหตุให้วันพุธ-พฤหัสทีชเชอร์สอนภาษาอังกฤษได้ไม่เต็มที่ และจำต้องเลิกสอนก่อนเวลา เพราะเด็ก ๆ ไม่พูด ไม่ตอบ ไม่พร้อมเรียนสุด ๆ
แต่วันนี้เป็นวันธรรมดาที่ท้องฟ้าไม่ค่อยครึ้ม ฉันจึงดีใจที่จะได้ทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ด้วยสื่อผ้าที่ฉันเตรียมมา แต่แล้วความดีใจนั้นก็หายไปและกลายเป็นความกังวลใจแทน
เพราะในขณะที่เด็กกำลังชุลมุนระหว่างที่ล้างมือก็มีเด็กคนหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วปะทะเข้ากับเด็กอีกคนหนึ่งที่ล้างมือเสร็จ จากแรงกระแทกทำให้ทั้งสองกระเด็นออกจากกัน และมีเสียงร้องไห้ตามมา
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กที่ถูกวิ่งชนหัวโนปูด (บวมใหญ่มาก ๆ สงสารหนูน้อยมาก ๆ TT) ส่วนเด็กที่เป็นฝ่ายวิ่งนั้นมีรอยแดงและจางหายไปในเวลาถัดมา (น้องที่วิ่งชนไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งนะคะ แต่เร่งรีบเกินไปจนไม่ระวัง) วันนี้ทั้งวันฉันกับพี่มุกจึงผลัดกันประคบเย็นให้หนูน้อยคนนั้น และกิจกรรมที่ฉันเตรียมมาก็เป็นอันต้องเลื่อนไปก่อน สุดท้ายอาการหัวโนของหนูน้อยก็ดีขึ้นมาก คุณแม่ของน้องก็รับรู้และเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ทุกอย่างจึงผ่านไปด้วยดี ยุทธการปราบผลมะนาว หัวโนก็ได้จบลง
สัปดาห์หน้าก็ไปโรงเรียนเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก็หยุดยาวอีกแล้ว ดังนั้นฉันจะมาเขียนให้อ่านตั้งแต่วันพฤหัสเลย ช่วงนี้ก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะ ไว้เจอกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in