เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Seonho and the dollibberry96
Seonho and the doll
  •           สายฝนกระทบลงบนพื้นดังเปาะแปะก่อนจะเริ่มดังขึ้นผู้คนต่างรีบหลบเข้าที่ร่ม บ้างก็กางร่ม เพื่อไม่ให้ตัวเปียกฝนที่ตกในช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาวแบบนี้มันทำอากาศหนาวจับใจ


     
             อาจจะไม่ใช่แค่อากาศที่หนาวแต่หัวใจของใครบางคนก็หนาวเช่นเดียวกัน


     
             ท่ามกลางผู้คนที่หลบเม็ดฝนยังมีคนที่ทำแตกต่างออกไปร่างสูงเดินเหมือนกับคนหมดแรง ผมสีน้ำตาลและเสื้อผ้าเปียกปอนไปทั้งหมดแม้ฝนที่หนาวเย็นยังไม่เท่าหัวใจที่ด้านชาของเขาในวันนี้


     
             ซอนโฮอยากจะให้ฝนนั้นชำระล้างความเหนื่อยล้าและความเศร้าโศกที่พบเจอในวันนี้ให้หมดวันนี้เป็นวันที่เหมือนคลื่นสึนามิที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตของเขา ทั้งโดนเจ้านายด่าเพื่อนร่วมงานนินทาและที่ร้ายที่สุดกลับโดนแฟนสาวที่คบกันมานานบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ว่าเขาดีเกินไป


     
             เหตุผลแบบนี้ใคร ๆ ก็รู้แล้วว่าเธอหมด Passion ในตัวเขาแล้ว


     
             คำว่าดีเกินไปมันก็แค่ข้ออ้าง

              บรรยากาศเย็นเยือกเช่นนี้กลับทำให้ซอนโฮรู้สึกแย่กว่าเดิมแย่จนอยากหาย ๆ ไปจากโลกใบนี้ซะ แต่พอคิดว่าหากเขาหายไปงานที่บริษัทอาจจะไม่เสร็จหลาย ๆ คนอาจเดือดร้อน ไว้หลังจากงานเสร็จค่อยหายไปแล้วกัน

              ในหัวของซอนโฮคิดอะไรเรื่อยเปื่อยพยายามไม่ให้ความคิดของตัวเองดิ่งลงไปมากกว่านี้พอดีกับสายฝนที่เริ่มซาลง ฝนที่ตกในเวลาชั่วครู่แบบนี้มักทำให้ฟ้าสดใสเสมอ

              ซอนโฮมาหยุดตรงข้างกองขยะที่ถูกมากองทิ้งไว้รอวันที่รถขยะมาเก็บบางทีเขาก็ไม่ต่างจากขยะเหมือนกันในระหว่างนั้นสายตาของซอนโฮก็ไปสบกับอะไรบางอย่าง

              ตุ๊กตาตัวขนาดราว ๆ 30 เซนติเมตรที่ถูกวางทิ้งไว้ตรงกองขยะ เป็นตุ๊กตายัดนุ่นรูปเด็กผู้ชายหน้าตาไร้พิษสงสภาพมอมแมมและเปียกปอน ช่างดูน่าสงสาร

              “นายเองก็ถูกทิ้งเหมือนกันเหรอ ?”ซอนโฮเอ่ยเบา ๆ

              “นายกับฉันก็ไม่ต่างจากขยะน่ะสิ”

              ซอนโฮถอนหายใจการพูดคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ตอนนี้เขากำลังพูดกับตุ๊กตาที่ถูกทิ้งอยู่ซอนโฮเข้าใจดีว่าถ้าหากตุ๊กตาตัวนี้พูดได้คงตัดพ้อไม่ต่างจากเขานักหรอก

              “พวกเรานี่น่าสงสารเนอะ”

              “...”

              เขาคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตรงไปเก็บตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นมา

              “กลับบ้านด้วยกันดีกว่าเนอะ”ซอนโฮพูดก่อนจะอุ้มตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดอย่างไม่รังเกียจ ซอนโฮในตอนนั้นกลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้กอดในวันที่แย่ที่สุดแบบนี้แม้มันจะเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาที่แสนมอมแมมก็ตาม

              ในระหว่างทางกลับบ้านนั้นซอนโฮไม่รู้สึกอ้างว้างอีกต่อไป

              ทั้งเขาและตุ๊กตาตัวนี้ต่างไม่ใช่ขยะ

     

              เมื่อมาถึงห้องซอนโฮก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแม้เขาจะเศร้าแต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองไม่สบาย

              “รอก่อนนะ”เขาพูดกับเพื่อนร่วมห้องตัวใหม่แม้จะไม่ได้ตอบรับอะไรแต่ซอนโฮคิดว่าตุ๊กตาตัวนี้น่าจะตอบโอเคละมั้ง

              เมื่อซอนโฮจัดการตัวเองเสร็จเขาก็หยิบตุ๊กตาที่สภาพมอมแมมขึ้นมาแม้หน้าตาจะน่ารักแต่ก็ดูสกปรกไม่น้อยแถมยังมีรอยผุพังอีก “อาบน้ำดีกว่านะ”

              ซอนโฮหยิบน้ำยาปรับผ้านุ่มหอม ๆมาเทใส่กะละมังที่เตรียมไว้ ก่อนจะนำตุ๊กตาลงไปแช่ในน้ำ แช่ไว้ซักพักแล้วจึงบีบ ๆลูบ ๆ เพื่อไล่คราบสกปรกในตัวตุ๊กตาอย่างเบามือและถนุถนอมเมื่อเสร็จกระบวนการทำความสะอาดตุ๊กตาเน่าซอนโฮจึงนำตุ๊กตาไปตากไว้ในห้อง กลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้องชวนให้ผ่อนคลายซอนโฮแทบลืมเรื่องที่ทำให้เศร้าไปเพราะกว่าจะจัดการเพื่อนร่วมห้องใหม่เสร็จก็ใช้เวลานานจนลืมไปว่าตัวเองยังไม่ได้กินอะไร

              “ถ้าพรุ่งนี้แห้งแล้วค่อยมาเล่นด้วยกันนะ”ซอนโฮยิ้ม ก่อนจะไปทำอะไรกินง่าย ๆ ในห้องครัว

              ตุ๊กตาตัวน้อยนั้นนอนแผ่หลาอยู่ในบริเวณที่ซอนโฮนำมาผึ่งไว้ความอ่อนโยนที่ได้รับหลังจากที่ไม่ได้รับมานานนั้นทำให้ตุ๊กตาได้รับถึงความอบอุ่นที่เข้ามาเติมเต็มในวันที่อากาศหนาวเช่นนี้

              ขอบคุณนะ ที่เก็บผมมา

              ขอบคุณจริง ๆ

     

             

              คุณอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงมีความรู้สึก

              ตุ๊กตาที่ได้รับความรักมาก ๆจะกลายเป็นตุ๊กตาที่มีความสุขและมีความรู้สึกขึ้นมา แต่ไม่ต้องกลัวนะผมไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์เรียกว่าผีหรอก จริง ๆนะผมไม่ได้หลอกคุณหรือเจ้าของคนใหม่อยู่นะตุ๊กตาที่ได้รับความรักไม่มีทางที่อยากจะทำร้ายเจ้าของหรอก เชื่อสิ

              ในตอนนั้นผมคิดว่าทุกอย่างดูน่ากลัวไปหมดกลัวความหนาวเย็น ความมืด กลัวเจ้าเหมียวจรจะเอาผมไปเล่น มันน่ากลัวนะ

              แล้วเจ้าของคนใหม่ก็เข้ามาเขาไม่มีร่มและเปียกปอน เขาดูผ่านอะไรมาเยอะแต่ทันทีที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นแล้วผมรู้สึกไม่กลัวอะไร เขาหยิบผมออกมาจากที่แบบนั้นช่างใจดีอะไรแบบนี้

              “ครับแม่ สบายดีครับ ไม่ต้องห่วงนะ...”เสียงของชายหนุ่มพูดความอ่อนโยนที่กลัวผู้เป็นแม่เป็นห่วงจึงเลือกที่จะบอกว่าตัวเองสบายดีแม้ในความจริงหัวใจเหมือนจะพังทลาย

              ซอนโฮถอนหายใจรอบที่ล้านของวันเมื่อวางสายแม่ของเขาเขาหยิบตุ๊กตาที่ยังไม่แห้งดีขึ้นมาเริ่มพูดคุยอะไรบางอย่าง

              “เจ้านายของฉันน่ะนะโคตรแย่เลยว่ะตอนบรีฟงานบอกแล้วแต่เลย แต่พอทำมาจริง ๆ ก็ให้เอามาแก้...” เสียงบ่นยาวเหยียดตุ๊กตาตัวเล็กรับฟังอย่างตั้งใจ เสียงปลอบประโลมแม้จะส่งไปไม่ถึงเจ้าของใหม่แต่หวังว่าหากซอนโฮสัมผัสเข้าคงจะรู้สึกได้เอง

              “แล้วก็นะ...กับแฟนที่คบมา 6 ปี น่ะโดนบอกเลิกไปง่าย ๆ แบบนั้นเลย” ซอนโฮพูดถึงตรงนี้แล้วดูเศร้าลงกว่าเดิม “จริง ๆรู้แล้วล่ะว่าเธออยากจะหาโอกาสบอกเลิกมาตั้งนาน อยู่กับฉันมันคงไม่มีอนาคต”ซอนโฮตัดพ้อ ตุ๊กตาตัวน้อยรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับซอนโฮด้วย

              ผู้หญิงคนนี้มีตาหามีแววไม่ตุ๊กตาบ่นแม้ซอนโฮจะไม่ได้ยินก็ตาม

              อย่าเศร้าไปเลยนะ

              ผมจะอยู่ข้าง ๆ

              “ขอบคุณที่รับฟังนะเจ้าตุ๊กตา”พอนึกว่าชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่า ๆมาบ่นสี่บ่นแปดกับตุ๊กตาแบบนี้คงเป็นภาพที่น่าสยองน่าดูแต่ตุ๊กตาตัวนี้เป็นผู้ฟังที่ดี ไว้ใจได้ ไม่เหมือนคนจริง ๆแม้จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไม่ได้ก็ตาม

              “จะเรียกว่าตุ๊กตาก็ดูแปลก ๆ เนอะอยากมีชื่อมั้ย ?”

              อยาก

              “ชื่อ ควานลิน ดีมั้ย?”

              ดีสิ เจ้าของตั้งชื่อไหนผมก็ชอบหมดแหละ

              “ควานลิน นี่ซอนโฮนะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

              ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ซอนโฮ

             

     TBC

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in