ข้าพเจ้านั้นมีจินตนาการเฉกเช่นดั่งคนทั่วไป แต่จินตนาการของข้าพเจ้า มันราวกับเป็นโลกคู่ขนานชีวิตปัจจุบันของตน จินตนาการนั้น มีความหมายที่ซับซ้อนเกินความสามารถของข้าพเจ้านี้จะบรรยาย แต่สุดความสามารถของข้าพเจ้าเท่าที่มี ข้าพเจ้าจะนิยามว่า “พรหมลิขิต” เส้นทางที่สุดแล้วแต่มนุษย์นั้นจะเลือก หากเป็นเส้นทางที่ลำบาก ย่อมบ่นว่าเลวร้ายเหลือเกิน หากเป็นเรื่องโชคดีขึ้นมา ทุกท่านอาจสรรเสริญเทิดทูนตน ขอบคุณตน หรืออาจขอบคุณบุญชาติเก่าที่สะสมมาเพื่อที่จะมอบเส้นทางไปสู่ยังแดนสุขาวดี
ในบางครั้ง โลกในจินตนาการของข้าพเจ้ามาในรูปแบบของฝันกลางวัน เป็นฝันหวาน ที่ข้าพเจ้าไม่อาจไขว่คว้ากลับคืนมา เสมือนลมวสันต์ที่สัมผัสตัวข้าพเจ้าแต่เพียงข้าพเจ้าหายใจได้ไม่กี่ที เหมันตฤดูสิ้นปีก็มาหาเสียแล้ว ข้าพเจ้ากำลังจะสื่อเป็นนัยว่าโลกจินตนาการที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงเป็นโลกคู่ขนานที่ข้าพเจ้าไม่มีวันได้พบเจออีกต่อไป ทำได้เพียงนึกย้อนถึงฝันกลางวันในวันฝนตก หลังข้าพเจ้าเลิกงาน ในมือของข้าพเจ้ามีกาแฟอุ่นหนึ่งแก้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กินเข้าไปสักหยด ล้มตัวลงนอนเสียก่อน และเผลอหลับไป กระทั่งตอนนี้ กาแฟแก้วนั้นเย็นชืด เนื่องจากข้าพเจ้าหลับไปนาน เพราะฝันนั้นช่างยาวนานเหลือเกิน
ในบางครั้ง โลกจินตนาการของข้าพเจ้าก็มาในรูปแบบเรื่องราวของผู้อื่น ข้าพเจ้าประสบพบเจอผู้คนมากมาย บ้างดี บ้างไม่ดีกับข้าพเจ้า คละเคล้ากันไปท่ามกลางสังคมวุ่นวายในปัจจุบัน ผู้ใดใจดี ข้าพเจ้าย่อมสุขใจ หากผู้ใดชั่วร้าย ข้าพเจ้าก็จะคิดแค้น แม้นว่า ข้าพเจ้าทำสิ่งใดไม่ได้ นอกเสียจากรอให้ไฟโทสะทั้งหลายที่ก่อตัวภายในใจสงบลง ข้าพเจ้าก็เลยมีความคิดที่ว่า ไม่สู้เราระงับโทสะเสียแต่ทีแรกก่อนจะคิดแค้นใคร คงไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ทรมานเสียแบบนี้ แต่หลังจากนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงผู้ที่ดีต่อข้าพเจ้าเท่านั้น ข้าพเจ้ารู้สึกว่าชีวิตของคนดีเหล่านั้นช่างเหมือนกับโลกจินตนาการที่ข้าพเจ้าเพ้อฝัน วันนั้น ข้าพเจ้าจำได้เพียงภาพแสนเลือนราง เป็นหญิงสาวผมยาวเสมอบ่า เธอคนนั้นมีริมฝีปากที่สวยงาม สีแดงสดเหมือนผลแอปเปิลแดงเป็นเครื่องสำอางแต่งแต้มให้เธอดูงดงามเป็นทวีคูณ ในขณะที่ข้าพเจ้ายังเป็นเพียงเด็กมัธยมปลาย สีปากซีดเพราะเหนื่อยล้า ข้าพเจ้าใฝ่ฝันอยากจะมีริมฝีปากสีแดงเช่นกับเธอ เพราะความบังเอิญบังเกิด เราทั้งสอง หนึ่งสาว หนึ่งเด็ก ขึ้นสายรถเมล์เดียวกัน มีเพียงที่นั่งว่างเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ข้าพเจ้าคือผู้โชคร้ายหนึ่งเดียวที่จำทนต้องฝืนแข้งขาอันเหนื่อยล้านี้ยืนโหนโซเซ เดิมที เธอคนนั้นไม่เห็นเด็กมัธยมหมดสภาพคนนี้หรอก แต่คล้ายว่าแบตมือถือเธอจะหมด เธอจึงเก็บมันลงกระเป๋า เป็นจังหวะเดียวที่เธอสังเกตเห็น ว่าข้าพเจ้าที่เป็นเด็กมัธยมหมดกำลังคล้ายจะล้มอยู่เต็มที เธอจึงลุกแล้วสะกิดไหล่ข้าพเจ้า เธอบอกว่า “น้องยืนไหวไหม นั่งเถอะ” แม้คำพูดนั้นจะไม่สุภาพเป็นทางการมากนัก เพราะเธอคงอยากแสดงความเป็นกันเอง ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจเหลือเกิน จนกระทั่งสองสถานีถัดไป ข้าพเจ้าและเธอผู้งดงาม ก็จากกันตลอดกาล
หากให้ข้าพเจ้าย้อนอดีตกลับไปอีกสักหน่อย ในตอนที่ตัวข้าพเจ้านั้นอายุได้ไม่มากปีนัก ค้นพบว่าโลกจินตนาการนั้นช่างหอมหวานเหลือเกิน การที่ข้าพเจ้าได้ดูการ์ตูนในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ หรืออ่านหนังสือนิทานเล่มโปรดนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งมุมหนังสือยับเยิน เปรอะเปื้อนคราบสกปรก สีกระดาษเคยเป็นสีสันก็เริ่มจะเหลืองเก่า ข้าพเจ้าอ่านเล่มนิทานนั้น อย่างกับว่าหากโลกนี้ไม่แตกสลายไปเสียก่อน ข้าพเจ้าก็จะไม่หยุดอ่าน ราวกับหวังว่าวันหนึ่ง จุดจบของความสุขในหน้าสุดท้ายจะปรากฏเป็นตัวข้าพเจ้า รอยยิ้ม งานแต่ง และเจ้าชาย นั้นเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยจินตนาการและใฝ่ฝัน เดินหน้าอดีตข้าพเจ้าขึ้นมาอีกก้าว ในช่วงวัยที่ยังกระโดดยางเล่นหลังเลิกเรียนที่ลานกว้างกับพองเพื่อน ข้าพเจ้าเคยบอกกับตัวเองว่าจะโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่สังคมต้องการ ช่วยเหลือผู้อื่นยามลำบาก ช่วยเหลือผู้อื่นที่เมื่อบาดเจ็บ เพราะเย็นวันนั้น เพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้าบาดเจ็บจากการกระโดดยาง ข้อเท้าของเธอเป็นสีแดงอ่อนๆ เธอร้องไห้บ่นบอกคร่ำครวญว่าเจ็บ ข้าพเจ้าไม่เข้าใจวิธีการเยียวยาใดที่พอจะบรรเทาเพื่อนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทำได้เพียงวิ่งไปเรียกคุณครู คุณครูคนนั้นหน้าไม่ค่อยดีนัก แถมยังเผลอตะคอกเสียงดังใส่ข้าพเจ้า แต่สุดท้ายคุณครูคนนั้นทำอะไรไม่ได้มาก จนกระทั่งรถพยาบาลมารับตัวเพื่อนของข้าพเจ้าไป ข้าพเจ้าสงสัยเหลือเกิน เหตุใด การที่เราเติบโตมากเกินพอยังไม่อาจสามารถช่วยเหลือผู้อื่นยามบาดเจ็บได้ ข้าพเจ้าคาดหวังว่าคุณครูจะช่วยเหลือ หรือทำให้เพื่อนของข้าพเจ้าหายเจ็บได้ในพริบตา มารดาบอกว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝัน คืออาชีพหมอ การเป็นหมอสามารถช่วยเหลือเพื่อนของข้าพเจ้าได้ ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนของข้าพเจ้าเท่านั้น ยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นที่บาดเจ็บได้อีกนับไม่ถ้วนจึงมารดากล่าวด้วยรอยยิ้มทิ้งไว้เช่นนั้น และจดจำมาตลอดว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันคือการเป็นหมอ แต่เพราะข้าพเจ้าใฝ่ฝันด้วยความไร้เดียงสา จุดมุ่งหมายในวัยเด็กเริ่มคล้ายสีจางบนฝาผนัง ที่นานไปก็ซีดเซียว เสี้ยววินาทีเพียงพริบตา ไม่กี่วันถัดมา ข้าพเจ้าและเพื่อนตาสีน้ำตาลนั่งทานข้าวเช้าที่โรงอาหารโรงเรียน เราคุยถึงเรื่องการ์ตูนที่ฉายเมื่อวันเสาร์ สักพักหนึ่ง ก็ถวิลคิดถอนที่บาดเจ็บ ในมือข้าพเจ้ามีนมกล่องรสจืด ส่วนเพื่อนของข้าพเจ้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของข้าพเจ้า เธอกำลังตักโจ๊กเนื้อเนียนกินอย่างเอร็ดอร่อย ข้าพเจ้าเคยนึกสงสัย ว่าเหตุใด ตาของเพื่อนข้าพเจ้ามักเป็นประกายเหลือเกินยามได้ทานของอร่อย และข้าพเจ้าเพ้อในใจ หากข้าพเจ้ามีดวงตาสีน้ำตาลดุจอัญมณีเพริศพรายเช่นนั้น คงจะดีไม่น้อย ข้าพเจ้ามีดวงตาสีดำสนิท มิหนำซ้ำ ยังดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา ข้าพเจ้าอิจฉาเธอเหลือเกิน ดวงตาเธอ เป็นดั่งอัญมณีเม็ดงามที่ใครต่างก็อยากครอบครอง
ผ่านไปนานนับสิบปี ข้าพเจ้าเลิกกระโดดยางแล้ว ข้าพเจ้าโตขึ้นมากพอจะกินเผ็ดได้แล้ว ข้าพเจ้าก็โตพอจนได้รู้ ว่าเจ้าชายในนิทานมิได้อาศัยเดินดินบนโลกนี้ เขาเป็นเพียงจินตนาการของข้าพเจ้าในวัยเยาว์ก็เท่านั้น ข้าพเจ้าเติบโตขึ้นจากวันนั้นมาก แล้วพบว่า คณิตศาสตร์ไม่ได้มีเพียง บวก ลบ คูณ หาร สมการ เรขาคณิต วิทยาศาสตร์ไม่ได้มีเพียงเรื่องราวของ ลม ฟ้า อากาศ และแสงอาทิตย์ บทเรียนในชีวิตประจำวันของข้าพเจ้านั้นมากยิ่งกว่านั้น และมากเกินที่สมองของข้าพเจ้าจะตามได้ทัน ข้าพเจ้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน วันหนึ่ง ข้าพเจ้าได้นอนหลับฝัน ข้าพเจ้าเห็นตนเองในวัย 24 เป็นสตรีที่เก่งกาจ และได้มีโอกาสพบรักแท้ ที่คิดว่าทั้งชีวิตนี้ ข้าพเจ้าคงไม่มีโอกาสได้พบเจอ มิอาจเปรียบเทียบได้ว่าการพบเจอใครสักคน คือการตื่นขึ้นมาพบจานอาหารคอยทานจนเย็นชืดบนโต๊ะในตอนเช้า ข้าพเจ้าตื่นจากฝันนั้นโดยทันที เพราะสัมผัสได้ว่ามันไม่จริงเสียจนเกินไป ข้าพเจ้านั่งคิดอยู่นาน ตะวันเริ่มทอแสงสาดเข้ามาทางหน้าต่าง และแล้ว ก็ค้นพบว่าฝันกลางวันของข้าพเจ้า มักเป็นโลกที่ข้าพเจ้าเคยจินตนาการไว้เมื่อวัยเยาว์ ข้าพเจ้าเป็นเจ้าหญิงพบรักแท้กับเจ้าชาย มีรอยยิ้มในวันงานแต่งงาน นั้นทำให้ข้าพเจ้านึกย้อนไปถึงจินตนาการของข้าพเจ้าอีกเรื่องหนึ่ง คือการที่ข้าพเจ้าอยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สังคมต้องการ นั่นก็คือ หมอที่ข้าพเจ้าเคยใฝ่ฝัน และเรื่องดวงตาสีน้ำตาลดุจเครื่องแก้วของเพื่อน แต่เพราะข้าพเจ้าโตพอที่จะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้ว จึงคิดว่า โลกจินตนาการที่ข้าพเจ้าเคยใฝ่ฝันทั้งหมดเหล่านั้น ล้วนเป็นอดีตที่ไม่อาจหวนคืน เป็นเส้นทางโลกคู่ขนานที่ข้าพเจ้าไม่ใฝ่ฝันอีกต่อไป
ข้าพเจ้าเป็นเพียงมนุษย์สตรีคนหนึ่ง มิได้มีดวงตาสีน้ำตาล แต่เป็นสีดำสนิทมืดหม่น เส้นผมยาวสยายสีดำขลับเงา ข้าพเจ้าเคยนึกอยากจะตัดผมเช่นกัน และทาปากสีแดง แต่ข้าพเจ้าเลือกที่จะมัดผมอันแสนยาวนี้ด้วยปิ่นปักผมจีน มีหลุดร่วงตามกาลเวลา มิได้ทาปากสีแดงสด เพียงแต่เป็นสีของผลเชอร์รี ไม่ได้เติบโตมาประกอบอาชีพหมอเพื่อรักษาคนบาดเจ็บ แต่เป็นนักเขียนสวมแว่นสายตา เป็นผู้สรรค์สร้างเรื่องราวนับไม่ถ้วนให้ผู้อ่านได้อ่าน แม้ว่าการเป็นนักเขียนของข้าพเจ้าไม่อาจช่วยเพื่อนที่บาดเจ็บในตอนนั้นได้ และไม่อาจรักษาคนบาดเจ็บได้ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่า การเป็นนักเขียนของข้าพเจ้านั้น สามารถช่วยให้ผู้อ่านมีความสุขผ่านตัวอักษรที่ข้าพเจ้าตั้งใจและบรรจงเขียนมันออกมาได้ แม้มิได้ช่วยผู้อ่านที่กำลังบาดเจ็บเพราะบาดแผลได้โดยตรง แต่จิตใจผู้ใดที่กำลังท้อหรือกำลังเศร้า ข้าพเจ้าอาจช่วยได้ ไม่มากก็น้อย ข้าพเจ้าหวังเช่นนั้น มิได้มีรอยยิ้มเปี่ยมสุขในวันงานแต่งงาน เพียงแต่ใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้มกับสุนัขขี้ซนหนึ่งตัว
ข้าพเจ้า ผู้เคยมีโลกจินตนาการอันสวยงามราวกับนิทานในโลกเทพนิยาย ทว่า เรื่องราวเหล่านั้น ได้กลายเป็นโลกคู่ขนานเมื่ออดีต มิอาจหวนคืน และก็มิอาจบรรจบพบเจอกันอีก แม้เป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้ากลับไม่รู้สึกเศร้าเลยสักน้อย ข้าพเจ้ามีความสุขกับชีวิตประจำวันของข้าพเจ้ามาก ได้ทานของอร่อยๆ แต่หากวันใด เจออาหารไม่ถูกปากถูกลิ้นนัก ก็ไม่เป็นไร เมื่อรุ่งเช้าวันใหม่มาถึง ข้าพเจ้ายังสามารถทานของอร่อยได้อีกตั้งมากมาย เพียงแค่ข้าพเจ้าไม่กลับไปทานอาหารจานไม่อร่อยนั้นอีกเป็นหนที่สอง เท่านั้น ก็เพียงพอ ข้าพเจ้าอยากบอกว่า เส้นทางเหล่านี้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้ข้างหน้าของทุกคน อาจมีมากมายให้เลือกเดิน เมื่อทุกท่านมีเป้าหมายซึ่งชัดเจน ทุกท่านก็เดินตามเส้นทางที่ทุกท่านประสงค์ แต่หากท่านรู้สึกเหนื่อยและท้อ เป้าหมายที่เคยชัดเจนก็เลือนราง ท่านก็แค่ถอยกลับมายังจุดเริ่มต้น หาเก้าอี้นั่งพักสักหน่อย แล้วเริ่มต้นใหม่ก็ไม่มีอันใดสาย อย่าเสียดายอดีตเสียจนเกินไป ทุกท่าน ยังมีอีกหลายร้อยหมื่นแสนล้านวัน ที่จะได้มีความสุขกับเส้นทางอื่นๆ ข้าพเจ้าเอง ก็เคยมีอดีตเช่นกัน แม้ว่าบางสิ่งบางอย่างไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แต่อย่างน้อย มันก็เคยเป็นความสุขช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งของข้าพเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าจะกล่าวเป็นสิ่งสุดท้าย คือ ณ ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าพอใจกับสิ่งที่ตนเลือก ข้าพเจ้าพอใจกับตาสีดำที่ข้าพเจ้ามี แต่ข้าพเจ้าก็ดีใจที่ข้าพเจ้าเคยมีวัยกระโดดยาง ได้ใฝ่ฝัน ได้เติบโตเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ข้าพเจ้าไม่ทิ้งอดีต แต่ข้าพเจ้าก็จะยังคงเดินต่อไป
ลงนาม
SHEISBREATHING.
Twitter: @sheisbreathing
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in