เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
There's Always Spring เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน By iLaw และคณะ
  • รีวิวเว้ย (1144) "คนโบราณสอนว่า ถ้าดอกไม้ยังตูมอยู่ เราก็อย่าเพิ่งไปคลี่มัน สรรพสิ่งบนโลกเรานี้ล้วนขึ้นอยู่กับเวลา ไม่เร็วก็ช้า ทุกอย่างย่อมดำเนินไปตามวิถีทางของมัน" (น. 247 | วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ | เมื่อถึงเวลา ดอกไม้จะบานเอง) ข้อความจากนักเขียนที่เขียนหนังสือที่ชื่อว่า "เมื่อถึงเวลา ดอกไม้จะบานเอง" (https://minimore.com/b/Us3Wj/121) ซึ่งหนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับหนังสือเล่มที่กำลังจะรีวิวโดยตรงเท่าไหร่นัก หากแต่ถ้าเราเคยอ่านหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ เราจะพบว่าจุดร่วมหนึ่งของหนังสือทั้ง 2 เล่ม คือ เรื่องของชีวิต ความหวัง ความฝัน ที่หนังสือทั้ง 2 เล่มกำลังบอกเราว่า "เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน" และ "เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบานเอง"
    หนังสือ : There's Always Spring เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน
    โดย : iLaw และคณะ
    จำนวน : 180 หน้า

    "There's Always Spring" ในชื่อภาษาไทยว่า "เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน" หนังสือที่ทำหน้าที่เป็นบันทึกประวัติศาสตร์การเมืองและการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนในช่วง พ.ศ. 2562 - 2565 ภายใต้การเคลื่อนไหวและการเติบโตของขบวนการของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ละเลยและทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายใต้ขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ในช่วงเวลาดังกล่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ปรากฏคือการบรรจบกันของ "คนรุ่นใหม่" และ "คนรุ่นก่อน (คนเสื้อแดง)" ที่ออกมาต่อสู้และยืนเคียงกันในสนามของการเรียกร้องประชาธิปไตย ให้ระบอบการปกครองที่ "อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน" กลับคือสู่สังคมไทย

    "There's Always Spring" ได้รวบรวมเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว มาบอกเล่าผ่านรูปแบบของบันทึกที่ผู้อ่านวามารถอ่านเพื่อทำความเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และข้อมูลใน "There's Always Spring" ก็ยังสามารถถูกหยิบไปต่อยอดในการศึกษา วิจัย หรือเล่นกับข้อมูลการเมืองไทยสำหรับนักเรียน นักศึกษา นักวิจัย ที่ศึกษาการเมืองไทยได้ด้วยอีกทางหนึ่ง ด้วยความที่หนังสือ "There's Always Spring" ถูกเขียนขึ้นจากกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกันในนามของกลุ่ม Mob Data Thailand ที่ได้มีการรวบรวมข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ที่น่าสนใจเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการใช้งานต่อไปในภายหน้า

    สำหรับเนื้อหาของ "There's Always Spring" ถูกแบ่งออกเป็น 7 กลุ่มเนื้อหา ที่บอกเล่าถึงพัฒนาการของการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมือง อีกทั้งมีภาพที่ถูกคัดสรรสำหรับการขยายข้อความหรือเหตุการณ์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การแบ่งเนื้อหาของ "There's Always Spring" ออกเป็นบทต่าง ๆ นั้นยังถูกกำกับชื่อของแต่ละบท ด้วยชื่อที่สะท้อน ความหวัง ความฝัน และการต่อสู้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยเนื้อหาถูกแบ่งออกเป็นดังนี้

    (1) The Spring Has Come เมื่อคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นสู้

    (2) The Rainbow of Hope เมื่อหลากความฝันมาบรรจบ

    (3) The Sounds of Seasons เมื่อฤดูกาลขับขาน

    (4) The Cloudy Days เมื่อมีแดดก็มีฝน

    (5) The Mist on the Way เมื่อเส้นทางไม่ได้สดใส

    (6) The Rain Fall From Gun Barrel เมื่อห่าฝนตกจากปลายกระบอกปืน

    (7) Winter Never Lasts Forever ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป (บทส่งท้าย)

    เมื่ออ่าน "There's Always Spring" จบลง นอกจากเราจะได้เข้าใจ และได้เรียนรู้ถึงเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เราจะยังได้รับรู้ถึงการต่อสู้แห่งยุคสมัย ที่มันไม่ใช่แค่การเรียกร้อยให้เกิดารเปลี่ยนแปลงในระดับรัฐบาล หากแต่ "There's Always Spring" แสดงให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการเมืองไทยได้เริ่มขึ้นแล้ว และแน่นอนว่า "เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน" ไม่ว่ามันจะต้องใช้เวลาสักแค่ไหน แต่เมื่อฤดูกาลของประชาชนมาถึง เมื่อนั้นดอกไม้แห่งความเปลี่ยนแปลงจะเบ่งบานเพื่อตอบรับผลของการยืนยันต่อสู้ของคนรุ่นใหม่

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in