เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น By ใบพัด นบน้อม
  • รีวิวเว้ย (1019) โดยส่วนตัวถ้าให้เลือกระหว่าง "แมว" กับ "หมา" เราคงเลือกหมา เพราะเติบโตมาในบ้านที่แทบไม่เคยวางเว้นจากการเลี้ยงหมามาเลยตลอดชีวิต และด้วยความที่ไม่ชอบอารมณ์เท่าสุดแสนจะยากคาดเดาของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมว เมื่อเป็นเช่นนั้นสำหรับเราแล้วเวลาที่มีคนชวนไปคาเฟ่แมว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับแมวเรามักจะเฉย ๆ ต่อให้มีแมวมานินให้จกพุงเราก็ยังคงเฉย ๆ หากแต่เปลี่ยนจากแมวเป็นหมาอาจเรียกได้ว่าแทบเสียอาการณ์ทันที แต่การที่ใครสักคนจะชอบหรือไม่ชอบอะไรไม่ใช่เรื่องแปลก และมันก็เป็นสิทธิ์ที่เขาจะรักชอบของเขาด้วย แต่สิ่งสำคัญสำหรับหมาแล้วแมวที่แทรกอยู่ตามช่องวางชีวิตของเรา ๆ ท่าน ๆ หลายครั้งทั้งหมาและแมวก็ทำหน้าที่เป็นพี่พักพิงใจหลังจากต้องเผชิญเรื่องแย่ ๆ ที่มีอยู่มากมายในประเทศนี้ หลายครั้งกลับมาถึงบ้านแค่มีหมา แมว สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ หรือใครสักคนรออยู่ที่บ้านเท่านั้นหลายครั้งมันก็ช่วยกอบเอาเศษที่แตกสลายของตัวเรามาประกอบใหม่ เพื่อจะพบว่าวันพรุ่งนี้การออกไปเผชิญโลกก็อาจจะทำมห้เราแตกสลายอีก แต่อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เรายังรู้ว่าถึงแตกสลายก็ยังประกอบใหม่ได้ถึงมันต้องแตกสลายซ้ำ ๆ อีกหลาย ๆ ครั้งก็ตามที
    หนังสือ : แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น
    โดย : ใบพัด นบน้อม
    จำนวน : 120 หน้า

    "แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น" หนังสือที่บอกเล่า 30 เรื่องราว เรื่องเล่าและภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับ "บทสนทนาว่าด้วยรอยขีดข่วนของยุคสมัย" ผ่านภาพแทนของคนและแมว ที่ตัวเดินเรื่องหลักของเรื่องเล่าแต่ละตอนประกอบไปด้วยคนและแมว ที่แมวถูกใช้เป็นภาพแทน (metaphor) ของคน และคนถูกใช้เป็นภาพแทนของแมวที่ทั้ง 2 สิ่งต่างเติมเต็ม ตกแต่ง ประกอบสร้าง ให้ชีวิตของสิ่งทั้ง 2 มีต่อกัน

    "แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น" นอกจากจะบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนกับแมว แมวกับคนแล้ว "แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น" ยังหยิบเอาเรื่องรอบตัวรวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นแล้ว และกำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย มาใช้เป็นบทสนทนาของการเดินเรื่องระหว่างสิ่งทั้ง 2

    เมื่อเราอ่าน "แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น" ในหลาย ๆ ตอนเราจะพบว่า เรื่องที่ปรากฏในหนังสือ หลายเรื่องก็ดูคล้ายจะเป็นเรื่องของเรา เรื่องของเพื่อนเรา หรืออย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีสัก 1-2 เรื่องคล้ายกับเป็นสิ่งที่เราเคยเผชิญหรือเคยพบเจอ และบางเรื่องก็เป็นเรื่องหยิกแกมหยอกที่หยิบเอาเรื่องเล่าของสังคมมาใช้เป็นบทสนทนาระหว่างคนกับแม่ อย่างเรื่องของคนที่ชวนบางคน "ไปดูแมวที่ห้องเราไหม" บางครั้งแมวก็อยากจะชวนแมวบางตัวว่า "ไปดูคนที่ห้องเราไหม" เหมือนกันนะ และอีกหลาย ๆ เรื่องที่ผู้อ่านคงรู้สึกได้ว่ามันคือการหยอกล้อกับบางสิ่งบางอย่างในสังคมแห่งนี้ ที่เรียกร้องและยัดเยียดให้คนเรา "มีชีวิตที่ดี" แต่รูปแบบและโครงสร้างของสังคมก็เอื้ออำนวยเวียเหลือเกิน ทำให้หลาย ๆ ครั้งทั้งคนและแมวต่างก็ไม่ต่างกันกับชื่อของหนังสือเล่มนี้ "แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น" เหมือนคำพูดของรุ่นน้องคนหนึ่งที่ว่า "ชีวิตเราแตกสลายในทุกวัน ถึงเวลาก็หยิบมันขึ้นมาประกอบใหม่ เพื่อจะพบว่าอีกไม่กี่นานต่อมาแม่งก็แตกสลายอีกรอบ"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in