เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
มิใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย III จากเจ้าพระยาถึงสาละวิน By รวมศิลปิน
  • รีวิวเว้ย (1018) หลังการรัฐประหารของเมียนมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 สังคมไทยและคนหลายกลุ่มในประเทศนี่ดูจะไม่สนใจและละเลยเรื่องที่เกิดขึ้นในปนะเทศเพื่อนบ้าน อาจจะด้วยผลพวงของการศึกษาแบบชาตินิยมในแบบเรียนไทยที่เมื่อสมัยก่อนประเทศเพื่อนบ้านได้รับบทเป็น "ตัวร้ายในแบบเรียน" และหนัง ละคร ก็ดูจะผลิตซ้ำความเป็นตัวร้ายในคำบอกเล่าของประวัติศาสตร์ชาตินิยมแทบตลอดเวลา ปัญหาดังกล่าวทำให้ในหลายครั้งเราพลาดเรื่องสำคัญหลาย ๆ อย่างไป โดยเฉพาะปัญหาของเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน แน่นอนว่าปัญหาของเพื่อนบ้านในหลายครั้งมันกลายเป็นปัญหาของเราด้วย นี่ยังไม่นับเรื่องที่รัฐบาล ปยอ. ยอมรับสถานะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารของมินอองลายเป็นรัฐบาลแรก ๆ ของโลกที่รับสถานะดังกล่าวด้วยซ้ำไป (แน่นอนว่าพวกทหารที่รัฐประหารยึดอำนาจคยอื่นมาก็ย่อมห่วงใบกันเป็นธรรมดา) การรัฐประหารดังกล่าวผ่านมา 1 ปีกว่า ๆ (2565) การลุกขึ้นสู้ของประชาชนในเมียนมายังดำเนินต่อไป หลายคนต้องหนีออกนอกประเทศเพื่อเอาชีวิตรอด คนรุ่นใหม่หลายคนต้องเข้าป่าจับปื่นเพื่อสู้กับรัฐบาลทหาร แต่แปลกที่ผ่านมาเป็นปี คนในประเทศเพื่อนบ้านก็ดูจะไม่รู้สึกถึงปัญหาใด ๆ ขนาดปัญหาในประเทศตัวเองหลายคนยังมองว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลย
    หนังสือ : มิใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย III จากเจ้าพระยาถึงสาละวิน
    โดย : รวมศิลปิน
    จำนวน : 310 หน้า

    "มิใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย III จากเจ้าพระยาถึงสาละวิน" หนังสือรวมบทกวี ภาพเขียน และเรื่องราวจากนักคิด นักเขียน ศิลปิน และ "นักข่าวชายขอบ" ที่ถ่ายทอดเรื่องเล่าและเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างประลาชนในเมียนมากับรัฐบาลทหาร โดยบทกวีที่ปรากฏใน "มิใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย III จากเจ้าพระยาถึงสาละวิน" นอกจากกวีของนักคิด นักเขียนคนไทยแล้ว เนื้อหาภายในเล่มยังมีการแปลบทกวีของกวีและนักเขียนชาวเมียนมา ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและเรื่องเล่าที่ว่าด้วยเรื่องของ "การต่อสู้และสูญเสีย" ในประเทศของพวกเขาด้วย

    บทกวีและข้อเขียนของนักเขียนชาวเมียนมาหลาย ๆ ชิ้นที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ มันคือการส่งสารและบอกกับโลกว่านี่ "มิใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย" ต่อให้พวกเขาต้องสูญเสียกระทั่งชีวิตของตัวเองนี่ก็มิใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย เพราะเมล็ดของต้นประชาธิปไตยได้ถูกปลูกลงแล้วในหัวใจของคนเมียนมา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in