เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
Dear World โลกที่รัก By Bana Albabed แปล พลอยแสง เอกญาติ
  • รีวิวเว้ย (993) ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะเปิดหัวรีวิวของเล่มนี้ด้วยข้อความของ แอนน์ แฟรงก์ ที่ว่า "ที่ไหนมีความหวังที่นั่นก็มีชีวิต มันเติมความกล้าหาญใหม่ ๆ ให้เรา และทำให้รู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง" แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้ไปกระทั่งถึงบทสุดท้ายของหนังสือ ย่อหน้าแรกของข้อความที่ปรากฏในบทสุดท้ายของบันทึกของหนังสือเล่มนี้ เราคิดว่าเป็นข้อความสำคัญที่ทุกวันนี้เราควรตั้งคำถามและตอบคำถามในย่อหน้านี้ให้จงได้ เพราะสงครามที่เราเคยเชื่อว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกนั้น "ไม่เป็นความจริง" และมันพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ กับใครและที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น อย่างกรณีล่าสุดดรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน และไม่มีอะไรที่จะรับรองได้ว่าสงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย เราเลยเลือกยกเอาข้อความในหน้า 177 มาให้ทุกคนได้ลองอ่านดู

    "คุณรู้ไหมว่าสงครามในซีเรียฆ่าคนไปประมาณห้าแสนคนแล้ว แถมทุกวันก็ยังมีคนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายต่อหลายครอบครัวเป็นเหมือนครอบครัวของหนู คือไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหนีออกนอกประเทศที่รักไปเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศอื่น บางคนในประเทศอื่นก็ไม่อยากรับผู้ลี้ภัยไว้ในประเทศตัวเอง บางคนอยากให้ผู้ลี้ภัยกลับบ้านทั้งที่พวกเขาไม่มีบ้านให้กลับแล้ว บางคนอยากส่งผู้ลี้ภัยไปอยู่ที่อื่นทั้งที่คนที่อื่น ๆ ก็อาจไม่ต้อนรับเหมือนกัน ผู้ลี้ภัยไม่มีที่ไปแล้วจริง ๆ ถ้าคุณไม่มีประเทศอยู่ หรือพ่อแม่ลูกหลานกำลังจะถูกฆ่าคุณจะทำอย่างไรคะ" (นี่คือความหวังของหนู//น. 177)
    หนังสือ : Dear World โลกที่รัก
    โดย : Bana Albabed แปล พลอยแสง เอกญาติ
    จำนวน : 184 หน้า

    "Dear World โลกที่รัก" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของชีวืตของเด็กผู้หญิงชาว "ซีเรีย" ที่ลืมตาดูโลกได้เพียง 4 ปี สงคราม ความตาย เาบงปืนและระเบิดได้กลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของชีวิตของเด็กหญิงคนนี้ กระทั่งเธออายุ 12 ปี ถึงได้เดินทางออกนอกประเทศซีเรีย

    "Dear World โลกที่รัก" นับเป็นบันทึกความทรงจำของเด็กหญิงที่คล้ายกับบันทึกของ "แอนน์  แฟรงก์" เด็กหญิงที่เผชิญสภาะของสงครามและความตายในลักษณะใกล้เคียงกับบานา แต่แตกต่างกันตรงที่ "แอนน์ แฟรงก์" ไม่มีโอกาสได้บอกเล่าเรื่องราวของเธอในตอนที่เธอยังมีชีวิต

    "Dear World โลกที่รัก" บอกเล่าความคิด ความทรงจำ และความรู้สึกของเด็กหญิงต่อประเทศของเธอ ครอบครัวของเธอ ชีวิตของเธอและสงครามที่เธอต้องเผชิญ การที่เด็กอายุ 10 ขวบต้องได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด และเห็นการเสียชีวิตของคนในระแวกบ้าน เพื่อนสนิทของเธอและคนในครอบครัวที่ต้องเสียไปเพราะความรุนแรงและสงคราม

    "Dear World โลกที่รัก" กำลังบอกกับเรากลาย ๆ ว่า "สงคราม" ไม่ได้มีแค่เรื่องของใครชนะหรือใครแพ้ หากแต่สิ่งหนึ่งที่สงครามทิ้งเอาไว้ข้างหลัง คือ พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ญาติ ของใคาบ้างที่ต้องเสียไปในสงคราม และความสุข ความทรงจำของทุกคนที่สงครามต้องพรากจาก

    มองกลับมาในปัจจุบัน เราจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นดีเห็นงานกับสงคราม "รัสเซีย-ยูเครน" หลายครั้งนั่งอ่านความเห็นของคนกลุ่มนี้ในสื่ออนไลน์ เราก็ได้แต่คิดว่า "พวกนี้เป็นเหี้ยอะไร ถึงเห็นดีเห็นงามกับความตาย" คงเป็นไปได้ว่าคนพวกนี้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก และเป็นเพียง "เดียรัจฉาน" ที่ห่มคลุมด้วยผิวหนังของมนุษย์ที่มันขโมยมาดังปีศาจจากนรกที่เคยปรากฏในเรื่องเล่าของพระคัมภีร์ต่าง ๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in