เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย By แอนเนท ลาฟไร์เซน แปล อณรรฆวีร์ เติมสินสุข
  • รีวิวเว้ย (825) "การไม่ทำอะไรเลย = ขี้เกียจ" และการขี้เกียจเป็น "บาป" ในหลายศาสนา และเป็นสิ่งที่ไม่ถูกใจใครหลาย ๆ คน ในหลาย ๆ สังคม เพราะการไม่ทำอะไรเลย หรือการขี้เกียจย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ โดยเฉพาะในสังคมและโลกยุคปัจจุบันที่เรียกร้องให้เราต้องมี Productivity อยู่ตลอดเวลา และเมื่อเราเลือกไม่ทำอะไรเลยนั่นแปลว่าเรากำลังท้าทายความเชื่อและขนบของสังคมทุนนิยมอย่างร้ายแรง ซึ่งในหลายครั้งมันก็ก็ผลลบที่กลายมาเป็นผลกระทบอย่างมากต่อใครคนหนึ่งที่ตัดสินใจว่าตัวเองจะไม่ทำอะไรสักอย่างหนึ่งในเวลาต่อมา และการเรียกร้องให้คนต้อง Productivity ทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาวะที่คาดไม่ถึงตามมาอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งความเครียด การลดทอนคุณค่าของตัวเอง กระทั่งในท้ายที่สุดมันกลายไปเป็นโรคร้ายที่ฆ่าชีวิตของหลาย ๆ คนไป ทั้งที่ในความเป็รจริงแล้วเราทุกคนพึงมีสิทธิที่จะ "ไม่ทำอะไรเลย" หรือพึงมีสิทธิที่จะ "ขี้เกียจ" โดยที่ไม่ควรได้รับผลกระทบใด ๆ
    หนังสือ : NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย
    โดย : แอนเนท ลาฟไร์เซน แปล อณรรฆวีร์ เติมสินสุข
    จำนวน : 146 หน้า
    ราคา : 245 บาท

    "NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของปรัชญาการใช้ชีวิตของชาวดัตช์ (เนเธอร์แลนด์) ที่ว่าด้วยเรื่องของ "นิกเซน" หรือ "การไม่ทำอะไร" ที่เป็นหนึ่งในปรัชญาสำคัญที่ขับเคลื่อนวิธีชีวิตของคนเนเธอร์แลนด์ และช่วยให้ดินแดนแหน่งนี้ติดอันดับประเทศที่น่าอยู่ และประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในเกือบทุกปีที่มีการจัดอันดับ

    "NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย" ว่าด้วยเรื่องของ "นิกเซน" ที่ผู้เขียนพาเราไปทำความรู้จักกับมันตั้งแต่ในระดับต้นของความหมายว่า "นิกเซน" มันหมายความว่าอย่างไร อีกทั้ง "NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย" ยังบอกเล่าถึงวิธีการ แนวทาง และขั้นตอนการปฏิบัติที่ช่วยให้เราเข้าถึง "นิกเซน" ได้ด้วยแบบฝึกหัดในบทต่าง ๆ ที่พอลองอ่านดี ๆ เราก็จะพบว่านิกเซนอาจจะเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่าการปล่อยวางและช่างแม่ง ที่หลายครั้งการเลือกหนทางของการใช้ชีวิตในลักษณะนี้ก็ช่วยให้เรามีความปลอดโปร่งกับการใช้ชีวิตที่มากขึ้น รวมถึงหากเราลองยอมให้ตัวเอง "ไม่ทำอะไรเลย" ดูบ้างในท้ายที่สุดมันอาจจะช่วยคลายปมบางอย่างที่เราพยายาใจะแก้ไขมันอยู่ตลอดเวลาได้ก็ได้ หรือถ้าไม่ได้อย่างน้อย ๆ มันก็บอกเล่าว่าลองปล่อยวางและช่างแม่งดูบ้างก็ดีนะ








เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in