เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
เมือง กิน คน By พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์
  • รีวิวเว้ย (256) ต้องขอบคุณข่าวของ "ป้าทุบรถ" ที่เกิดขึ้นแถว ๆ สวนหลวง ร.9 ที่เป็นข่าวดังกระหึ่มโลกออกไลน์แย่งหน้าสื่อจากทั้ง "เปรมชัย เสือดำ" กับ "ป้อม ยืมนาฬิกาเพื่อน" ไปได้อย่างสวยสดงดงาม ที่ทำให้เราต้องมาค้นหาหนังสือจากกองหนังสือที่ทับทนกันจนเข้าใกล้การเกิดเป็นชั้นของหินตะกอน เพราะจำได้ว่าได้หนังสือเล่มหนึ่งมาจากพี่นักวิจัยที่มำงานด้วยกัน เป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของเมือง สังคมเมือง การเติบโตขึ้นของเมือง และการพัฒนาเมือง กับโจทย์ใหญ่ของคำถามที่ว่า "แท้จริงแล้วเมืองส่งผลอย่างไรต่อคนบ้าง และในมิติใดบ้าง รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากเมือง และจากคนเมืองมีผลอย่างไรในสังคมเมือง (กรุงเทพฯ/ไทย)" ในชื่อหนังสือ "เมือง กิน คน" ของ "ผศ.ดร. พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่เป็นหนึ่งในนักรัฐศาสตร์ที่มุ่นเน้นในเรื่องของการศึกษาเมือง และเรียนจบในเรื่องของเมืองมาโดยตรง 
    หนังสือ : เมือง กิน คน
    โดย : พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์
    จำนวน : 184 หน้า
    ราคา : 220 บาท

    "เมือง กิน คน" อย่าที่เกริ่นไปแล้วนิด ๆ หน่อย ๆ ในย่อหน้าก่อน ว่าหนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องของ "เมือง" ที่มีความเกี่ยวข้องและผูกโยงอยู่กับชีวิตของ "คน" เป็นหลัก โดยให้มุมมองในเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องของ การพัฒนาเมือง สุขภาวะของคนเมือง สุขภาวะของเมือง รวมไปถึงรูปแบบของเมืองที่กำลังกลืนกินชีวิตคน

    หลายครั้งหลายหน ใครหลายคนมักเข้าใจว่า "เมือง" เป็นเพียงผลผลิตของการเติบโตทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ การจ้างงาน แหล่งทรัพยากรในการทำงาน รวมไปถึงเป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการสร้างให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดการจ้างงานในระบบทุนนิยม เมืองหลาย ๆ เมือง จึงกลายเป็นภาพแทนของความรวย เงินทุน การจ้างงาน ฯลฯ ที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมของระบบทุนนิยมได้อย่างลงตัว

    ในช่วงเวลาปัจจุบัน เมืองมีบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ทั้งบทบาทหน้าที่ของพื้นที่ในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ พื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถและชนชั้นของบุคคลในแต่ละเขตพื้นที่ของการอยู่อาศัยภายในเมือง รวมถึงเมืองกลายเป็นพื้นที่ที่สร้างความรุ่นแรงและก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยภายในเมือง อันเนื่องมาจากการเจริญเติบโตของเมืองที่เป็นผลพวงจากเศรษฐกิจและการจ้างงาน ยังผลให้คนบางกลุ่มใช้เมืองเป็นพื้นที่ในการหากินในรูปแบบของการก่อความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ขโมย รวมถึงเหตุความรุ่นแรงต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการก่อการร้ายที่ในช่วง 10-20 ปีผ่านมานี้ เราวามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมืองใหญ่ กลายเป็นพื้นที่สำคัญของการก่อความไม่สงบในหลายพื้นที่ทั่วโลก

    "เมือง กิน คน" ชักชวนให้เราตั้งคำถามกับเรื่องของเมือง และสุขภาวะของคนที่อยู่ในเมือง รอบเมือง และได้รับผลกระทบจากเมืองต่อให้อยู่ห่างออกไปหลายร้อยหลายพันกิโลเมตรก็ตามแต่ การขยายตัวหรือการเติบโตของเมืองมนช่วงหลายปีที่ผ่านมาของไทย หลายครั้งมันได้สร้างบาดแผลและความขุ้นข้องหมองใจให้กับผู้อยู่อาศัยเดิมก็ดี หรือผู้อยู่อาศัยใหม่ก็ตาม ในช่วงหลายปีมานี้มักได้รับผลกระทบจากการเติบโตขึ้นของเมือง ทั้งเรื่องของความเปลี่ยนแปลงของย่านเก่าบ้านเดิม หรือการขาดแคลนทรัพยากรอาหารอันเกิดจากการขยายตัวเพิ่มขึ้นของอาคารพักอาศัยในเขตพื้นที่ชุทชนเดิม ที่ปริมาณร้านค้าร้านอาหารเท่าเดิม แต่ปริมาณผู้พักอาศัยในย่านดังกล่าวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวภายในระยะเวลา 1-2 ปี หลังมีการสร้างคอนโด

    นอกจากนี้ "เมือง กิน คน" ยังชักชวนให้เรามองภาพของเมืองไปในอนาคตอีก 50-70 ปีข้างหน้าที่เหล่าบรรดาอาคารชุด คอนโด ในเมืองหมดสภาพการใช้งานอาคาร คำถามที่สำคัญประการต่อมาของ "เมือง กิน คน" คือ เมื่ออาคารเหล่านี้หมดอายุการใช้งานในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน อันเนื่องมาจากการสร้างอาคารอยู่ในช่วงเวลาที่ใกล้กัน และเมื่ออาคารหมดอายุการใช้งานลงในเวลาใกล้เคียงกัน เมืองจะรับมือกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอาคารมนระดับ 100-1,000 ห้องพัก น่าจะใีค่าใช้จ่ายที่สูงพอ ๆ กับการสร้างขึ้นใหม่ รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ที่อาจจะตามมา เช่น การถือครองกรรมสิทธิ์ห้องพัก ที่อาจจะมีเจ้าของห้องบางรายมีปัญหาเมื่อถึงเวลาที่ต้องจัดการกับอ่คารที่เสื่อมสภาพการใช้งาน

    รงมถึง "เมือง กิน คน" ยังชวนให้เราตั้งคำถามต่อไปว่า นอกจากเรื่องของเมืองแล้ว เรื่องของ "ระบบนิเวศวิทยา" ของเมืองที่กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป ก็กำลังมีปัญหาและมีโจทย์ใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขและต้องตอบให้ได้อยู่เหมือนกันว่าแท้จริงแล้ว นิเวศวิทยาของเมืองที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นควรมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไร อย่างในหนังสือก็มีการพูดถึงตัวอย่าง ในเรื่องของการกำจัด "เหี้ย" ที่สวนลุม ว่าในท้ายที่สุดแล้วนั่น คือ วิธีการจัดการนิเวศวิทยาเมืองที่ดีแล้วหรือยัง และยังขาดขั้นตอนและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาเรื่องนี้หรือไม่

    อาจกล่าวได้ว่า "เมือง กิน คน" กำลังพาเราไปหาคำตอบในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมือง ที่นับวันเมืองก็มีแต่จะขยายตัวขึ้นทุก ๆ วัน และมันก็ค่อย ๆ กลืนกินทั้งคนในเมืองและคนนอกเมืองอยู่ทุกวันเช่นกัน หากเราไม่หาทางรับมือและหาวิธีแก้ไข มนท้ายที่สุดวันหนึ่งที่เราลืมตาตื่นขึ้นมา วันนั้นเมืองอาจจะกลืนกินผู้คนจนไม่เหลืออะไรไว้อีกเลย 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in