เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
ฮาจิโกะ By หลุยส์ พรัทส์ แปล รัศมี กฤษณมิษ
  • รีวิวเว้ย (736) ที่มุมหนึ่งบนปกหน้าของหนังสือเล่มนี้มีข้อความสั้น ๆ เขียนเอาไว้ว่า "การรอคอยอาจมีความหมายสำหรับใครบางคนมากกว่าที่คุณคิด" แน่นอนว่า "การรอคอย" มันมีความหมายกับคนทุกคน แต่สำหรับแต่ละคนความสามารถในการ "อดทนเพื่อรอ" มันมีได้ไม่เท่ากัน และในทุกวันนี้ความสามารถในการรอคอยของหลาย ๆ คนในบ้างด้านก็กำลังลดลงทุกวัน โดยเฉพาะการรอคอยให้หน้าเว็บโหลดให้เสร็จ การรอคอยให้โทรศัพท์เปิดโปรแกรมบางอย่าง และรวมไปถึงการรอคอยร้านอาหารให้ทำอาหารและส่งอาหารให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น อาจจะเรียกได้ว่าในยุคปัจจุบันความอดทนของคนเราลดลงมาก มากเสียจนไม่รู้ว่าเราจะสามารถทนรออะไรสักอย่างได้นานแค่ไหนกัน โลกมันเปลี่ยนไปแล้วคนเราไม่จำเป็นต้องรออะไรอีกแล้ว และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในสังคมไทย อาจารย์ของเราเคยบอกเอาไว้ว่า "ตั้งแต่หนุ่ยอำพล ร้องเพลง บอกมาเลยว่าคิดยังไง จะอยู่หรือไปก็บอกมา มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมไทยอย่างไม่มีวันหวนกลับ" และเมื่อคิดดูให้ดี ยิ่งในปัจจุบันการที่เราบอกให้ใครสักคน "บอกมาเลยว่าคิดยังไง" แต่เขายังอิดออดไม่ยอมบอกสักที เท่านั้นคสามอดทนของเราก็แทบหมดลงและบอกเขาออกไปว่า "มึงจะเอาไงไอ้สัสกูไม่ได้ว่างรอมึงทั้งวัน"
    หนังสือ : ฮาจิโกะ
    โดย : หลุยส์ พรัทส์ แปล รัศมี กฤษณมิษ
    จำนวน : 126 หน้า
    ราคา : 195 บาท

    "ฮาจิโกะ" หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของหมาที่ชื่อว่า "ฮาจิโกะ" ทึ่ทุกวันนี้เรายังสามารถเห็นรูปปั้นของมันได้ที่สถานีโตเกียว และหลายคนน่าจะเคยได้ยินตำนานและคำบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของ "ฮาจิโกะ" มาบ้างไม่มากก็น้อย ในฐานะของหมาที่เฝ้ารอเจ้าของของตัวเองให้กลับมาจนชั่วชีวิตของมัน

    สำหรับหนังสือ "ฮาจิโกะ" นับว่าเป็นนิยายที่หยิบเอาเรื่องจริงมาสวมทับด้วยความเป็นนิยาย และจำลองรูปแบบของการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นภายในหนังสือ โดยเฉพาะการบอกเล่าเรื่องราวของการ "เฝ้ารอ" ที่หมาตัวหนึ่งจะสามารถเฝ้ารอการกลับมาของเจ้านายของตนได้ตลอดชีวิตของมัน อาจจะเรียกได้ว่า "ฮาจิโกะ" ช่วยให้เราเห็นความงดงามของการรอคอยอะไรบางอย่าง ถึงแม้ว่าการรอคอยนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในโลกแห่งความเป็นจริงอีกแล้วก็ตามที

    แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องตระหนักคือ "ฮาจิโกะ" คือการบอกเล่าเรื่องราวของสังคมญี่ปุ่นในช่วง ค.ศ. 1920 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รูปแบบของสังคมยังไม่เปลี่ยนเข้าสู่ยุคแห่งความรวดเร็ว สงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่เกิดขึ้น และหนุ่ยอำพล ยังไม่ได้ร้องเพลง "บอกมาเลย" ถ้าลองคิดดูเล่น ๆ หาก "ฮาจิโกะ" มาอยู่ในยุตปัจจุบัน "ฮาจิโกะ" ยังจะคงเฝ้าคอยรอเจ้าของของมันจนชั่วชีวิตอยู่รึเปล่านะ (?)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in