รีวิวเว้ย (453) ใครสักคนเคยบอกเอาไว้ว่า "ชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง ผูกโยงกับใครอีกคนหนึ่งด้วยอาหาร" ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นการผูกโยงแม่กับลูกเข้าด้วยกันผ่านอาหารที่แม่กินนับตั้งแต่ครั้งที่ลูกยังเป็นเพียงตัวอ่อนในท้องที่ต้องอาศัยสารอาหารผ่านสายรกที่จะคอยทำพาอาหารมาหล่อเลี้ยงตัวอ่อนจนกระทั่งเติบใหญ่ จนวันที่ตัวอ่อนคลอดออกมาและอยู่รอดเป็นทารก ความผูกพันธ์และการผูกโยงของแม่และลูกผ่านอาหารอย่างน้ำนมจากอกก็ดูยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อขยับช่วงเวลาออกมาอีกเล็กน้อย เราจะพบว่าการผูกโยงกันผ่านอาหารมิได้เกิดกับแม่และลูกแต่พียงเท่านั้น หากแต่อาหารยังทำหน้าที่ผูกโยงความทรงจำของคนหลาย ๆ คนเข้าไว้ด้วยกัน อย่างอาหารมื้อแรกที่เราได้กินร่วมกับแฟน กระทั่งวันหนึ่งที่เขาจากไปและเหลือทิ้งเอาไว้เพียงความทรงจำ แน่นอนว่าเมื่อเราผ่านร้านอาหารเดิม ๆ หรือเผลอที่จะสั่งเมนูที่เขาชอบมากิน เราจะพบกับความทรงจำเก่า ๆ แบบไม่ทันได้ตั้งตัว หรือแม้กระทั่งการทานอาหารครั้งสุดท้าย (มื้อสุดท้าย) กับใครสักคน แน่นอนว่าอาหารมื้อนั้นจะติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกแสนนาน ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า "อาหารมิได้ช่วยเพียงให้ร่างกายอิ่ม" หากแต่ในหลายครั้งอาหารยังช่วยเติมเต็ม "ความสัมพันธ์" แลร่วมไปจนถึง "ความทรงจำ" อาหารทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการผสานสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี
หนังสือ : My Chefs
โดย : อนุสรณ์ ติปยานนท์
จำนวน : 320 หน้า
ราคา : 300 บาท
"My Chefs" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของอาหารและความทรงจำของผู้เขียน นับตั้งแต่ความทรงจำครั้งแรกเริ่มของตัวเข้ากับอาหารที่ถูกสร้างสรรค์และปรุงแต่งขึ้นโดยคนในครอบครัวด้วยความรักที่อยากจะส่งมอบความสุขให้กับคนในครอบครัวผ่านรสชาติของอาหารในแต่ละมื้อ นอกจากรสชาติของอาหารในความทรงจำแล้ว อาหารของครอบครัวยังสร้างความทรงจำอื่น ๆ ให้กับใครหลายคนได้อีกมากมาย ไม่ต่างอะไรกับที่เรื่องราวของอาหารในหนังสือกระทำต่อตัวผู้เขียน อย่างเรื่องของการทำครัวในสมัยเมื่อเราเป็นเด็ก การหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ การก่อไฟสุมกองฟืนด้วยขี้ใต้หรือยางในรถจักรยาน การถูกใช้ให้ไปซื้อของจากร้านชำหน้าปากซอยเพื่อนำกลับมาใช้ประกอบเมนูอาหารที่กำลังดำเนินไป
รวมไปถึง "My Chefs" ยังบอกเล่าถึงเรื่องราวของวงการอาหารในประเทศอังกฤษ ผ่านประสบการณ์ของผู้เขียนที่ได้รับจากการทำงานในหลากร้านอาหารในลอนดอนอีกด้วย
นอกจากนี้ "My Chefs" ยังชักชวนให้เราตั้งคำถามกับความทรงจำในเรื่องของอาหาร การทำอาหาร การกินอาหาร และเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายที่มีอาหารเข้าไปเป๋นส่วนสำคัญ หรือถ้าจะให้ใช้ภาษาของการทำอาหารอาจจะเรียกได้ว่า อาหารต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและความทรงจำของเรา มันคงคล้ายกับการทำหน้าที่เป็นเครื่องปรุงรสชาติให้กับชีวิตและความทรงจำของเรา เพื่อช่วยให้รสชาติของชีวิตและความทรงจำไม่ชืด ไม่เผ็ด ไม่ขม ไม่เค็มและไม่หวาน จนเกินไปนัก ก็คล้ายกับอาหารและวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ที่บางบ้างชนิดก็รสชาติแย่เมื่อกินมันโดด ๆ แต่กลับรสชาติดีขึ้นอย่างเยี่ยมยอดเมื่อกินคู่กับของบางอย่าง หรือเมื่อนำมาผ่านบางกระบวนการ
ความทรงจำของคนแต่ละคน ในแต่ละช่วงเวลาก็เฉกเช่นเดียวกัน หากเราเลือกที่จะบริโภค (จำ) ความทรงจำบางแบบมากกว่าบางความทรงจำ ในท้ายที่สุดมันอาจจะก่อโรคบางอย่างให้กับเราก็เป็นได้ คล้ายกับการที่เราเสะติดความหวานหรือเค็มของอาหารที่มากจนเกินไป ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วการเสพติดรสชาติบางแบบมากจนเกินไป มันอาจจะนำเราไปสู่ "อาหารมื้อสุดท้าย" ของชีวิตก็เป็นได้ ใครจะรู้ บางครั้งลองลิ้มรสชาติ ฝาด ขม เปรี้ยว บ้างจะเป็นไรไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in