เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บทเรียนนักท่องเที่ยวArmmie Born TobeBrave
บทเรียนจากลาดักห์ : อย่านินทาคนอื่นเป็นภาษาไทย


  • เคยดูหนังเรื่องกวน มึน โฮ ไหมคะ
    ที่พระเอกบอกนางเอกว่า มาต่างประเทศ เราจะทำตัวยังไงก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้จักเรา 
     
    ยิปมีเรื่องเล่าเรื่องนึงมาเล่าให้ฟังค่ะ
    ปีกลาย ตอนไปเที่ยวเลห์ ลาดักห์ ประเทศอินเดีย
     วันสุดท้ายของทริป พวกเราตั้งใจ จะไปจับภาพพระอาทิตย์ตกดิน ที่บริเวณ  Sunti Stupa ที่เค้าว่า สวยนักสวยๆหนา และตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุฝนก็โหมกระหน่ำซัดใส่เลห์จน ดวงตะวันไม่ได้โงหัวออกมาทักทายพวกเราเลย วันสุดท้ายนี้ เลยตั้งใจจะเอารูปพระอาทิตย์ตกมาให้ได้

    ที่สันติสตูปาวันนั้น ทุกคนคงคาดหวังกับดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหมือนกับยิปและเพื่อนๆ
    คนมากมายจากทุกชาติ ขึ้นมารอชมกันอย่างล้นหลาม ทั้งฝรั่ง เอเชีย แอฟริกัน 
    แต่ดูเอเชียน่าจะเยอะ เสียงดังโช้งเช้งเป็นภาษาต่างๆ ดังระงมทั่วลานนั้น

    ตอนนั้นยิปเดินขึ้นไปกับเพื่อนสามคน
    คนแรก  นิว เป็นผู้ชายขึ้เล่น แล้วเหมือนเครื่องจักรผลิตมุกตลกลามกความไวแสง ออกมาตลอด 
    คนสอง  บรีส ที่ผู้ชายอบอุ่นที่ คอยเสริมทุกมุกของนิว บรีสออกจะเงียบๆนิ่งๆ แต่ถ้าพูดทีก็จะมีอะไรเด็ดๆห่ามๆ ออกมาตลอด
    คนที่สาม กรูฟ เด็กผู้ชายขี้โวยวาย โวยวาย โวยวายกับทุกเรื่อง สัตว์เลื้อยคลานหลุด ออกมาจากปากทุกคำ ยังกับมันใช้ปิดท้ายประโยคแทนคำว่า ครับ

    เอาจริงๆเมื่อทั้งสามรวมตัวกัน ด้วยระดับความโวยวายของอีกรูฟ เสียงการพูดคุยของพวกเราจึงดังมาก มีทั้งความลามก เสื่อม ห่าม สถุน และสัตว์เลื้อยคลานออกมา ตลอด 

    ถ้ารวมกลุ่มตอนอยู่ไทยคงโดด วิถีประชา สายตาอาฆาต ตัดสินประหารชีวิต จากสังคมรอบๆข้างไปแล้ว แต่พอมาต่างประเทศพวกนาง ก็เลยไม่ค่อยระวังกับเรื่องนี้ ปล่อยพลังออกมาเต็ม

    กรูฟ ผู้มีขาตั้งกล้อง จึงไปหาจุดตั้งกล้องที่ได้มุมสวยที่สุด เหมือนเอาขาไปจองที่ไว้ก่อน ก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกตั้งนานสองนาน เวลาว่างเหลือขนาดนั้น พวกนางก็เลยใช้เวลาว่าง ในการนินทาคนโน้นคนนี้ที่เดินผ่าน ไปมา 



    ด้วยว่าจุดที่ กรูฟตั้งกล้อง นั้นเป็นจุดที่สวยที่สุดที่จะถ่ายภาพ เลยมีคนมากมาย มาแซะมาเบียด อยู่ตลอด เริ่มที่ เด็กผู้หญิงยิมนาสติกหัวทองชาวรัสเซีย(มั้ง) ที่ถือกล้องเล็กๆ แล้วแหกขากว้างระดับโอลิมปิก เพื่อมาเล็งเอารูปจุดนั้น โดยไม่ชนขาตั้งกล้อง  ยอมใจในความยืดหยุ่นของจุดซ่อนเร้นน้องมาก

    ตามมาด้วยกลุ่มพี่แผ่นดินใหญ่ ที่มาเป็นกลุ่ม ค่อยๆเคลื่อนตอดถ่าย เบียดเข้ามาทีละเล็กละน้อย  เพื่อเข้าใกล้ขาตั้ง หวังใจให้เราหลบที่ให้ แต่พวกเรารักษาที่มั่นกันอย่างดี จนต้องถอยร่นออกไปแต่ กลุ่มแผ่นดินใหญ่นั้นถูกพวกนางนินทาไปตามระเบียบ

    สักพักมีตากล้องคนนึง ท้วมๆ ขนเยอะๆ ออกแขกหน่อย สะพายกล้องพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ดูก็รู้ ว่า พี่คนนี้เป็นตากล้อง มืออาชีพสาย อีควิปแน่นอน พี่แกก้าวสามขุม มาที่ขาตั้งกล้องของอีกรุฟ ยืนข้างๆไม่รบกวนเรา แล้วถ่ายรูปอย่างไม่ยั้ง พวกเราทั้งหมดๆได้แต่มองพี่แก ตะลึง อ้าปากค้าง มาดเมิดพี่แกนั้น ครบเครื่องจริงๆ ลั่นชัตเตอร์ ป๊าปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ประหนึ่งนักรบสปาตันที่ฟาดดาบฟันลงใส่อริราชศัตรูในสนามรบโบราณ เท่ห์ชะมัด

    ด้วยความ จันรี ของพวกนาง แม้พี่แกจะเท่ห์แค่ไหน ก็ยังอดนินทาพี่แกไม่ได้
    คำลามก ห่ามๆ สัตว์เลื้อยคลานต่างๆนานา หลุดออกมา แบบไม่ยัง พี่แกนิ่งๆ ก็เดาว่า พี่แกฟังภาษาไทยไม่ออกแน่เทียว การนินทาก็หนักข้อขึ้นไปอีก เสียงดังขึ้นไปอีก หัวเราะหนักเข้าไปอีก พวกนางช่าง จันรี จริงๆ 

    จุดพีคมันอยู่ตรงที่ ถ่ายไปสักพัก พี่แกงัดเอา เลนส์เทเลอันเขื่อง ออกมาจากกระเป๋า แล้วกดรัวชัตเตอร์ต่อเนื่องแบไม่ยั้ง 

    นิว : เชี่ย แม่งกล้องหรือปืนกลวะ
    บริส : เออ แม่งรัวชิบหาย
    กรูฟ : ระวังเค้าฟังภาษาไทยรู้เรื่องนะเว้ยย เฮ้ยยยย
    บรีส : มึงพี่เค้าเป็นคนไทยป่าววะ 
    นิว : คงไม่เพราะ........
    พี่ตากล้อง : พี่เป็นคนไทยครับ
    นิว: !!!!!!
    บรีส: !!!!!
    กรูฟ:!!!!!

    ความเงียบงันกินหัวเราอยู่ชั่วสองนาที ทุกคนตะลึงกับกริยาของพี่ตากล้อง ที่เอียงคอมาบอกเขินๆว่าเป็นคนไทยครับ ความอึ้งถูกแทนที่ด้วย ความรู้สึกหยาบช้าบาปหนา ที่ได้พูดจาบจ้วงล่วงเกิน พี่เค้าไปซะเต็มสตรีม หน้าพวกเราแดงเหมือนตูดลึง จากเลือดร้อนๆ จากความอายแทบซุกแผ่นดินหนี

    บทสนทนากอบกู้สถานการณ์จากอีนิวผู้สมองไว เปลี่ยนเป็นถามสารทุกข์สุขดิบพี่เค้าซะงั้น มากับใคร ไปไหนต่อ อากาศดีไหม ค่ะ ดีออกกกกก ไม่ทันแล้ว พี่เค้ายังแนมพวกเราว่า กลุ่มน้องเสียงดังดีเนอะ นั่นแสดงว่าพี่แกได้ยินทุกอย่างของพวกเรามาตั้งแต่เดินขึ้นมาที่แล้ว โอ๊ยยยยยยยย อยากเอาหน้าไปซุกกองขี้จามรีหิมาลัย 

    เริ่ดเลยค่ะ หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งรอพระอาทิตย์ตกอย่างสงบเสงี่ยม เรียบร้อยเป็นนักเรียนคอนแวนต์
    ในปีนัง ฟังเสียงรัวชัตเตอร์พี่เค้าเงียบๆ 

    เป็นบทเรียนอย่างนึงนะคะ ว่า เวลาไปต่างประเทศ เราอาจจะเผลอตัวเผลอใจ คิดไปว่าคนรอบข้างไม่เข้าใจเราแล้วจะพูด หรือ ทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะไปเป็นกลุ่มใหญ่ ก็ยิ่งต้องระวังค่ะ พลังกลุ่มจะทำให้เรารู้สึกเป็นตัวเองมากๆอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเผลอทำอะไรไม่ดีไม่งาม จนเป็นที่ระอาของคนอื่นได้ เหมือนนักท่องเที่ยวบางประเทศที่มาบ้านเรา แล้วเรารู้สึกอึดอัด นั่นแหละค่ะ เค้าคงอาจคิดแบบเดียวกันกับเราอยู่ก็ได้ ต้องขอบคุณพี่ตากล้องคนนั้น ที่เตือนสติเราทางอ้อม 
    พวกเราต้องกราบขอโทษทุกคน มา ณ ที่นี้ค่ะ

    ปล.เราเจอพี่ตากล้ิงอีกในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อบินไฟล์ทเดียวกันกลับนิวเดลี แม้เราจะชวนคุย ชวนมานั่งด้วยกัน  แต่พี่แกขอปลีกไปอยู่คนเดียวเงียบๆ ดีกว่า ปฏิเสธอย่างมีมารยาท ปฏิเสธแบบผู้ดี 

    อ่านบทเรียนก่อนหน้าได้ที่นี่
    เข้าไปเมาท์มอยกันต่อได้ที่นี่

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in