เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ประตูสีน้ำเงินBlue door
Blue sky forever
  • ห้องนี้, กลิ่นนี้, ผิวสัมผัสนี้, ความหม่นหมองแกมสุขนี้, ถนนนี้, สถานที่นี้, เพื่อนกลุ่มนี้…ความเยาว์วัยนี้

    รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง

    ฉันเป็นคนที่ขี้หวง โดยเฉพาะกับเรื่องอดีตและความทรงจำ มันเป็นไม่กี่ครั้งที่ฉันรู้สึกเปล่าเปลี่ยวหัวใจเหมือนมันถูกรัดกุมไว้ด้วยน้ำแข็ง ฉันรู้สึกถึงความสั่นคลอนของอดีต ใครๆต่างก็รู้ว่าทุกอย่างคือการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจนบางทีการเปลี่ยนแปลงที่เงียบงันนั้นมันทำให้เราไม่รู้ตัว จนกระทั่งเราเพิ่งจะพบความไม่เหมือนเดิมในสิ่งที่เราเคยมี 

    วันนั้นในขณะที่ฉันกำลังนั่งอบู่บนรถสาธารณะ แม้จะบนถนนสายเดิม เส้นทางเดิม แต่พาหนะที่ฉันนั่งมันกลับไม่ใช่ประเภทเดิมเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ฉันเห็นเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง เดาว่าน่าจะเป็นเด็กนักเรียนมอปลาย มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องของตัวเองตอนที่ฉันกำลังอยู่มอปลาย ความทรงจำที่แสนพิเศษ มีหลายสิ่งที่ต่อเอาเงินมากมายสักแค่ไหนฉันก็ไม่มีวันยอมแลก มิตรภาพที่ดี ความใฝ่ฝันที่แรงกล้า รวมไปถึงความรักที่ยังคงทำให้ใจฉันเจ็บเสียดมาถึงตอนนี้ มันเหมือนภาพต่างๆมากมายที่ทำให้ฉันยิ้มไปกับมันพุ่งตรงเข้าสู่ความคิดของฉันและฉายวนอยู่อย่างนั้น จนฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่าตอนนี้ฉันอายุ 23 ปีแล้ว และปีหน้าฉันก็กำลังจะเรียนจบ

    ฉันรู้สึกใจหายขึ้นมาทันทียามที่ฉันกลับมาสู่ปัจจุบัน มันทำให้ฉันตระหนักได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันกำลังจะผ่านไปตลอดกาล ฉันกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของชีวิตที่ฉันไม่รู้เลยว่าสิ่งใดที่กำลังรออยู่บ้าง มีหลายสิ่งที่เป็นสัญญาณบอกให้ฉันรู้ว่าทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เพื่อนในอดีตที่เปรียบเสมอบ้าน ยามที่ฉันรู้สึกอ่อนล้า คิดถึง ฉันจะกลับไปที่บ้านหลังนั้น อยู่ในอ้อมกอดของมิตรภาพที่รู้ว่าบ้านหลังนั้นจะไม่มีวันทำอันตรายกับฉัน แต่พอในวันนี้มีเพื่อนหลายคนที่หายไปจากชีวิตของฉันโดยเหตุผลใดๆก็ตาม หรือบางทีพวกเขาก็ไปมีชีวิตของตัวเอง มีคนรักเป็นของตัวเอง เหลือฉันคนเดียวที่พยายามยื้อทุกอย่างไว้ พยายามทำให้ตัวเองไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงแต่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเหงามากกว่าเดิม

    ความฝันที่เคยโชติช่วง ฉันกับเพื่อนต่างวิ่งตามมันเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังวิ่งตามผีเสื้อในอากาศอบอุ่น ต่างจากตอนนี้ที่ฉันไม่รู้สึกอยากจะวิ่งตามผีเสื้อตัวนั้นอีกแล้ว ฉันหยุดยืนอยู่กับที่และกำลังคิดถึงสิ่งที่ทำทั้งที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันจะไม่มีวันสงสัยกับสิ่งนั้นเลย 

    ความรักที่บ้าคลั่ง แม้ในตอนนี้ฉันยังคงรู้สึกกับคนคนเดิม แต่ฉันก็รู้ดีว่ามันไม่เหมือนเดิม ฉันคิดถึงตอนได้ตกหลุมรักในตอนเด็ก มันเหมือนเราตกไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่มีทุกอย่างที่เราคาดคิดและไม่คาดคิด แต่อย่างน้อยเราก็ไม่เคยกลัวที่เข้าไปในดินแดนแห่งนั้น มันต่างจากตอนนี้ที่ไม่มีใครสามารถทำให้ฉันตกไปในดินแดนนั้นอีกรอบได้ และฉันก็มั่นใจว่าต่อให้ฉันเจอคนคนนั้น เขาก็ไม่สามารถที่ทำให้ฉันแค่รักอย่างเดียวโดยไม่คิดถึงอะไรนอกจากคำว่ารักได้เหมือนในตอนเด็ก

    เท้าของฉันยังคงก้าวลงบันไดของสถานีที่เป็นทางกลับบ้านต่อไป ในขณะที่หัวของฉันยังคงแล่นไปกับคำถามต่างๆมากมาย “แล้วหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ”

    ฉันยังไม่อยากโตเลย ฉันอยากจะเป็นเด็กต่อไปอย่างนี้ ฉันไม่สนใจว่าใครจะคิดว่าฉันเป็นคนอย่างไร…ฉันอาจจะกลัวกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า แต่ฉันก็ไม่อยากจากช่วงเวลานี้ไป การได้อยู่ในห้องเดิมแต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเจ็บปวดสำหรับฉัน มันคงจะเหมือนกับการที่ฉันพยายามยื้อทุกสิ่งที่เคยมี ทั้งๆที่รู้ว่ายิ่งเยื้อเท่าไรมันก็ยิ่งเหมือนกับการที่ฉันอยู่ในห้องนี้…ห้องเดิมแต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม

    ท้องฟ้ายังคงสีครามอยู่เหมือนเดิม ฉันอยากจะนั่งมองอยู่อย่างนั้น เหมือนเมื่อก่อน เหมือนอดีต เหมือนเธอ เหมือนความฝัน เหมือนว่ามันยังคงเป็นเหมือนเดิมต่อไป…อย่างน้อยขอให้ฉันได้มองมันอยู่อย่างนั้นเหมือนเดิม 


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in