Yuri!!! On ice บทสรุปของจิตวิญญาณ ความรักและความฝัน
**เพราะเป็นบทวิเคราะห์รวมเลยสปอยล์ตอนที่1-12 ครบถ้วน**
หลังจากที่พักการดูอนิเมะไปเกือบปีกว่าหลังจากได้หวนกลับมาดูยูริออนไอซ์เป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกที่ทำให้เราร้องไห้เงียบๆไปกับฉากจบที่ถือว่าประทับใจมากกับการตัดสินใจของทีมงาน แต่มันไม่ใช่น้ำตาที่มาจากการจากลาของตัวละครเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันแล้วก็ร่วมลุ้น ร่วมรู้สึกไปกับตัวละครเอกทั้งสอง วิกเตอร์นิกิฟอรอฟและคัตสึกิ ยูริ คำถามที่ได้แต่ถามซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวคือความรักที่ยูริมีให้วิกเตอร์มันมากพอที่จะทำให้เขาละทิ้งความรักในกีฬาสเกตที่เป็นเหมือนหัวใจของตัวเองมาตลอดช่วงชีวิต24ปีจริงๆหรือ แล้วเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะทิ้งมันจริงๆ ...
เพื่อคนที่เป็นแรงบันดาลใจของเขามาตลอด24 ปี
วิกเตอร์ นิกิฟอรอฟ
ปฐมบทของความฝัน
“คนที่ไม่มีแรงบันดาลใจก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว”
—ยูริ พลีเซตสกี้
ย้อนกลับไปในวันแรกที่ได้เริ่มสัมผัสถึงความสนุกสนานของกีฬาสเกต ด้วยความที่ไร้พรสวรรค์ ยูริสนุกกับกีฬาตรงหน้าก็จริงแต่ในใจลึกๆก็ยังไม่สามารถหาความหมายของชีวิตได้ จนกระทั่งวันที่เขาได้เห็นวิกเตอร์ นิกิฟอรอฟผ่านจอทีวีท่วงท่าของวิกเตอร์ช่างสง่างามและเต็มไปด้วยพลังจนทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจในการเล่นสเกตมาตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยมุมมองนี้ เราจะเห็นว่าวิกเตอร์เป็นเหมือนไอดอลของยูริมาตั้งแต่นั้นยูริสะสมรูปภาพ เลี้ยงพุดเดิ้ลเหมือนวิกเตอร์ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาเวลาคลั่งไคล้อะไรสักอย่างแต่ยูริไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นเขาใช้พลังที่ได้จากวิกเตอร์เป็นเหมือนบันไดในการก้าวไปข้างหน้า ฝึกฝนสเกตจนได้เข้าไปในแข่งขันในGrand Prix แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถค้นหาแรงบันดาลใจที่แท้จริงได้และตัดสินใจจะวางมือจากสเกต
ยูริที่ปราศจากวิกเตอร์คอยนำทาง ได้เดินออกห่างจากความฝันในชีวิตไปไกลเรื่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่งวิกเตอร์ผู้ซึ่งเปรียบเหมือนไอดอลในฝันก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแล้วบอกว่าจะเป็นโค้ชให้นับตั้งแต่วันนั้นเองที่ยูริเหมือนได้แสงไฟกลับคืนมาเขาหวนกลับเข้าสู่วงการพร้อมกับพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวพร้อมที่จะทำให้ผู้ชมทั้งหลายได้ตะลึง
มนตราที่จะเปลี่ยนหมูน้อยให้กลายเป็นเสือ
แท้จริงแล้วมนตรานั้นไม่ใช่แค่ความสามารถของวิกเตอร์แต่ยังรวมไปถึงความรักของวิกเตอร์วิกเตอร์ไม่เพียงแต่ดึงอีกด้านในตัวยูริออกมาแต่ยังเหมือนความฝันที่กลับกลายเป็นจริงของยูริก็ใครจะนึกกันเล่าว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองหลงใหลมาตลอดพูดตามตรงแล้วเหมือนยูริจะแอบรักวิกเตอร์ตั้งแต่ที่ได้เห็นในจอทีวีด้วยซ้ำไปเหมือนกับคนรักและกีฬาที่รักผสานกันเป็นหนึ่งเดียวอยู่ในตัววิกเตอร์ที่ยังเหนี่ยวรั้งให้ยูริแสดงพลังในตัวต่อไป
ตัดกลับมาที่มุมมองของวิกเตอร์เอง จากมุมมองที่เราได้เห็นคงเหมือนว่าวิกเตอร์เป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยคาริสม่า มีความสามารถสูงและมั่นใจในตัวเองตลอดเวลาแต่ความจริงแล้วเขาก็มีความกดดันที่ซ่อนอยู่ ว่ากันว่าคนเรายิ่งสูงก็ยิ่งโดดเดี่ยวการที่ได้แชมป์ห้าสมัยติดกันเหมือนเป็นหินที่ถ่วงแรงบันดาลใจของวิกเตอร์ให้จมลึกลงไปเรื่อยๆลองนึกภาพชัยชนะที่คว้ามาได้ง่ายๆมองไปก็ไม่มีใครอยู่ข้างหน้าเพราะตัวเองเป็นคนนำหน้ามาตลอดคนเราบางทีก็อยากที่จะได้แรงจูงใจจากคนอื่นบ้าง แต่วิกเตอร์ไม่สามารถที่จะหาสิ่งนั้นได้จากใครเพราะในสายตาของผู้ชมและคนส่วนใหญ่เขาคืออันดับหนึ่งที่ยากจะโค่นลง
การผันตัวมาเป็นโค้ชให้ยูริเป็นดาบสองคมสำหรับวิกเตอร์ในใจของยูริ มันเหมือนเป็นความผิดที่เขาขโมยตัววิกเตอร์มาจากเวทีอันรุ่งโรจน์วิกเตอร์ยังมีอนาคตอีกไกลและไปต่อได้มากกว่านี้ แต่กลับต้องมาหยุดลงเพราะเขาอีกด้านหนึ่งที่ยูริเองก็ไม่เคยรู้ว่ามีหลายสิ่งที่วิกเตอร์ได้เรียนรู้จากตัวเขาไม่ว่าจะเป็นชีวิต(Life)ความรัก(Love) และบ้าน(Home)
มันคงจะดีมากที่ได้ล้มตัวในอ้อมกอดของใครสักคนแล้วรู้สึกว่านี่แหละคือบ้านของเราสังเกตดูจะเห็นว่ายูริกับวิกเตอร์กอดกันบ่อยมากๆ เหมือนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ส่งผ่านกำลังใจให้แก่กัน(ถึงในเรื่องจะไม่ได้บอกชัด แต่การที่ยูริไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านกับจูบจากวิกเตอร์หรือเวลาที่วิกเตอร์มานอนทับบนตัวก็คะเนได้ว่าน่าจะเคยจูบกันมาก่อนแล้วหรือการที่ยูริยอมรับว่าชอบวิกเตอร์นั่นแหละ)ที่เมืองฮาเซ็ตสึ วิกเตอร์มองออกไปยังเวิ้งทะเลกว้างและบอกกับยูริว่าไม่เคยมีความคิดที่จะจากบ้านมาเลยการผันตัวออกมาเป็นโค้ชให้ยูริเป็นเหมือนการเปิดโลกใหม่สำหรับวิกเตอร์เช่นกัน
ทุกคนล้วนไม่ได้ต่อสู้อยู่เพียงลำพัง
นอกจากคู่หลักอย่างวิกเตอร์และยูริยูริออนไอซ์ได้นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือเรื่องนี้พยายามที่จะบอกเราว่าทุกคนล้วนแต่มีปัญหามีการต่อสู้ในแบบของตัวเองและก็สำคัญไม่แพ้คู่หลักที่เรื่องพยายามจะนำเสนอเราจะเห็นว่ายูริโอะก็มีความหลังกับปู่ของตัวเองเวลาอยู่กับปู่จะเป็นเหมือนเด็กน้อยสงบเสงี่ยมแต่เมื่อขาดกำลังใจจากปู่ไปเขาก็ไม่สามารถที่จะแสดงพลังออกมาได้เต็มร้อย มิกกี้ ผู้ชายติดน้องน้องสาวของเขาเองก็รู้ตัวว่าถ้ายังปล่อยให้ยึดติดกันไปเรื่อยๆพี่ชายก็จะไม่สามารถก้าวข้ามเธอได้ และถ้าวันไหนไม่มีเธออยู่คอยให้กำลังใจแล้วเขาจะพังทลายลงมาหรือเปล่า พิชิตผู้ที่มีความฝันว่าจะทำให้สเกตเป็นกีฬาที่มีคนรู้จักมากขึ้นในไทยเจเจที่ตั้งมั่นไว้ว่าจะขอคู่หมั้นแต่งงานหลังจากที่เขาได้เหรียญทอง ทั้งๆที่ เหมือนจะมีความมั่นใจในตัวเองมากขนาดนั้นเขายังต้องแพ้ให้กับความกดดันในการแข่ง ความฝันที่จะเป็นที่หนึ่งความฝันที่จะไขว่คว้าในสิ่งที่ตัวเองรักมาเป็นเรื่องที่สาหัส ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นกีฬาสเกตไม่ว่าความฝันนั้นจะเป็นอะไร ทุกคนบนโลกกำลังต่อสู้เพื่อที่จะได้มันมาทั้งสิ้น
และคุณไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง
เจเจมีพ่อแม่และคู่หมั้นคอยให้กำลังใจอยู่ข้างสนามขนาดซึงกิลซึ่งดูเหมือนเป็นคนหยิ่งๆ เงียบๆ ยังมีสุนัขอยู่ข้างกายตัวของยูริเองถึงครอบครัวจะไม่ได้มาเชียร์ติดขอบสนามแต่ก็ส่งกำลังใจผ่านทางจอทีวีในทุกรอบของการแข่งขันซึ่งในตอนแรกยูริเองได้หลงลืมไปว่าเขามีสิ่งนี้อยู่
ความล้มเหลวทำให้ยูริมองข้ามสิ่งเล็กน้อยรอบตัวครอบครัว วิกเตอร์ สเกต..จนกระทั่งที่ได้สติกลับคืนมาเขาถึงค้นพบว่าแท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้อยู่เคียงข้างมาตลอดขอเพียงแค่เขายื่นมือออกไปสัมผัสมัน
ชัยชนะเหนือเหรียญทองและเลขหนึ่ง
ชื่อของตัวละครหลายตัวไม่ว่าจะเป็นยูริ วิกเตอร์ พิชิตต่างมีความหมายว่าชัยชนะ ชัยชนะในที่นี้ไม่ได้หมายถึงที่หนึ่งแต่เป็นการค้นพบตัวเองและสามารถที่จะไล่ตามความฝันต่อไปได้อย่างที่อนิเมชั่นได้เปิดตอนแรกๆ ไว้ด้วยคติที่ว่าคนที่ไม่มีแรงบันดาลใจก็เหมือนคนที่ตายไปแล้วตอนแรกตัวละครเหล่านี้ต่างขาดซึ่งแรงบันดาลและเหมือนคนที่ตายไปแล้วแต่เมื่อพวกเขาได้ค้นพบแรงบันดาลใจในการเล่นสเกตก็สามารถทำให้เขาก้าวไปข้าวหน้าได้อย่างมีความสุข
History Maker & Yuri On ice
Yuri!!! On ice มาจากชื่อที่ยูริใช้ตั้งชื่อเพลงในการแข่งขันของเขาและเป็นเพลงที่บรรเลงของการแข่งขันในตอนที่12 ให้รู้ว่าความรู้สึกที่ยูริมีต่อวิกเตอร์นั้นทรงพลังมากแค่ไหนธีมของเพลงนี้คือความรัก ความรักที่เขามีให้กับสเกต คนรอบข้างและ..วิกเตอร์เรื่องราวดำเนินผ่านตัวของยูริ แต่กลับไม่ใช่แค่โลกของยูริอย่างเดียว Yuri!!! On iceเหมือนอนิเมชั่นที่รวมหลายความฝันถักทอเรียงร้อยเข้าด้วยกัน ผ่านคราบน้ำตา เลือดหยาดเหงื่อของนักสู้สเกตและนำไปสู่บทสรุปที่แตกต่างกัน หลายคนนั้นยังต้องเก็บประสบการณ์ต่อไปส่วนตัวยูริเองจากที่ตั้งมั่นว่าจะยอมปล่อยมือวิกเตอร์ไป กลับเปลี่ยนใจที่จะรั้งตัววิกเตอร์ไว้ต่อแต่ไม่ใช่แค่ในฐานะโค้ชเพียงอย่างเดียว (น่าจะเป็นทั้งเพื่อนร่วมวงการ พี่ชายคนรัก คู่แข่งและโค้ช)
เพลงOP และ ED เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจกับอนิเมชั่นเรื่องนี้มากๆเพราะเนื้อหาทุกอย่างถูกตีความได้ไปในทางเดียวกัน นั่นก็คือตามล่าฝันมีความฝันแล้วตามมันให้สุดทาง ให้มันยิ่งใหญ่ให้เป็นประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึกไว้เพราะคนเราใช้ชีวิตได้แค่ครั้งเดียว (และเรื่องก็ยังไม่ลืมที่จะแทรกความรักระหว่างตัวละครเอกและเรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆเข้าไปด้วย)
โลกที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
สำหรับตัวเราเอง ยูริออนไอซ์ไม่ใช่วาย หรือ Yaoi จริงอยู่ที่มีคู่รักชายชายในเรื่องแต่พวกเขาก็เป็นเพียงสัญลักษณ์ของ LGBT หรือคนรักเพศเดียวกันตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจะเริ่มเห็นการรณรงค์ของคนกลุ่มนี้ที่ออกมาสร้างบทบาทและอยากให้สังคมยอมรับพวกเขาไม่ว่าจะเป็นกฎหมายการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันทัศนคติเปิดกว้างผ่านเซเลปบริตี้หลายคนที่ไม่รังเกียจและมองว่าLGBTคือเรื่องธรรมชาติ สำหรับเรายูริออนไอซ์ปูเนื้อเรื่องได้มีเหตุผลและละเอียดลออได้มากกว่าเรื่องไหนๆที่เคยดูมา นอกจากนี้เราจะเห็นการยอมรับ LGBT ผ่านตัวละครต่างๆในเรื่องแน่นอนว่าบางคนก็ทำหน้าช็อกตอนที่เห็นแหวนคู่ของวิกเตอร์กับยูริแต่มันไม่ใช่ความรังเกียจ ส่วนมากแล้วมีแต่คนยินดีด้วยซ้ำไป(พิชิตคนไทยนี่ตัวนำเลย เห็นผ่านๆ ในทวิตเตอร์ว่าการที่พิชิตตะโกนออกมาว่าเพื่อนผมแต่งงานแล้วหรือการที่พิชิตได้เป็นเพื่อนสนิทยูริอาจจะเพราะในสายตาชาวต่างชาติประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและมีความยอมรับที่ยืดหยุ่นซึ่งเราก็เห็นด้วยนะน่าภูมิใจจัง) อีกอย่างหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือความรักของตัวละครเอกที่เอนเอียงไปทางจิตวิญญาณมากกว่าความสัมพันธ์ทางกาย มีการแตะต้องสัมผัสตัวกัน แต่ก็แค่สกินชิปไม่ใช่การสนองความใคร่ เหมือนสองคนนี้มาเติมเต็มที่สิ่งขาดหายให้แก่กันและกันสุดท้ายก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน (ไม่ว่าจะเป็นฉากที่วิ่งมาหากันโดยมีกระจกคั่นที่สนามบินฉากสวมแหวนคู่ที่นิ้วนาง ฉากร้องไห้ฉากปรับความเข้าใจ ทุกอย่างทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันถูกปูเรื่องไว้อย่างนุ่มนวลทำให้เราค่อยๆรู้สึกเข้าใจและอินไปความแน่นเฟ้นของความสัมพันธ์)
ตัวเอกไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป
ถึงเนื้อเรื่องจะพอเดาได้ว่ายูริต้องได้เข้ารอบถัดไปเรื่อยๆแต่เขากลับไม่ได้ที่หนึ่งเลยในแต่ละครั้ง ความเด่นเองถ้าเทียบกับการเต้นสเกตของคนอื่นๆเราว่าก็ไล่เลี่ยกัน เลยรู้สึกชอบที่เรื่องนี้นำเสนอได้อย่างเท่าเทียมไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวเอกเป็นพวกผิดมนุษย์มนา ถึงจะรู้สึกว่าเก่งแค่ไหนก็ยังล้มยังลื่นจนหันไปฟาดขอบสนามได้ (ใครน้า—) แสดงว่าพวกเขาก็ยังเป็นมนุษย์ปถุชนทั่วไปนี่เองที่มีได้ทั้งชัยชนะความสำเร็จและความล้มเหลว มองภาพรวมแล้วรู้สึกเหมือนกำลังตามเชียร์กลุ่มนักกีฬาหนึ่งที่มีความฝันร่วมกันไม่ได้รู้สึกว่าควรจะเอนเอียงไปทางใครคนใดคนหนึ่งเพราะแต่ละคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองเพียงแต่ด้วยเวลาที่น้อยทำให้ของบางคนนำเสนอออกมาได้ไม่เท่าที่ควรจะเป็น(แต่ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่งเลยนะสำหรับจำนวน12ตอน)
บทสรุปที่ยังไม่มีบทสรุป
บทสรุปที่ยูริตัดสินใจจะปล่อยมือวิกเตอร์ไปทั้งๆที่ตลอดเวลาพรที่เขาอยากได้มากที่สุดคือขอเวลาอยู่กับวิกเตอร์ให้มากกว่านี้แต่เพราะอยากให้วิกเตอร์หวนเข้าสู่วงการอีกครั้งเขาเลยยอมวางมือ(อีกอย่างหนึ่งที่ยูริรู้สึกผิดก็คือการที่เห็นวิกเตอร์มองการแสดงของเพื่อนร่วมวงการด้วยรอยยิ้มและความโหยหาการที่วางมือออกมา สำหรับคนที่เป็นที่หนึ่งมาตลอด มองเห็นตำแหน่งที่ถูกโค่นไปเรื่อยๆมันก็น่าเจ็บใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน) การที่เขาไม่ได้เหรียญทองในครั้งนี้ทำให้บทสรุปถูกตัดสินใหม่อีกครั้งด้วยตัวของพวกเขาทั้งสองเอง วิกเตอร์จะยังอยู่เป็นโค้ชให้เขาและก็จะเป็นผู้เข้าแข่งขันไปด้วย(เดาได้ว่าน่าจะมีต่อภาคสอง) เมื่อเทียบกับเหรียญทองที่พลาดไป กลับกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลย
แต่เมื่อเรื่องเดินทางมาถึงตอนจบเนื้อหาก็ยังไม่ได้จบจริงๆ มีหลายปมที่ยังไม่ได้ถูกเฉลย (เช่นจะแต่งงานกันจริงไหม)จบแบบมีการวางรอภาคสองซึ่งก็ลุ้นกันว่าจะได้เห็นบ้านแตกหรือไม่(ยูริกับวิกเตอร์แข่งกันงี้) ได้แต่หวังว่าออฟฟิเชี่ยลจะเมตตา สร้างผลงานดีๆอีกสักภาคออกมาให้เราหายค้างคาใจ... T_T
แต่จริงๆไม่ได้หมายถึงจบแบบข้างบนหรอกนะ(อันนั้นแค่อยากดูต่อ lol) ยังไม่จบในที่นี้คือถึงการแข่งขันจะจบไปแล้วแต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไปยังมีความฝันที่ต้องไล่ตาม ยังมีคนรักที่ต้องเอาใจ..(?)ยังมีหลายอย่างในชีวิตที่อยากทำและให้เวลากับมันเป็นตอนจบที่ถือว่าจบได้ไม่ค้างคาใจสำหรับเรา เพราะรู้สึกว่าถ้าเป็นยูริในตอนนี้ล่ะก็คงไปต่อได้โดยไม่หลงทางเหมือนในอดีตอย่างแน่นอน
แด่ความรักและความฝันที่ไม่จีรังแต่สวยงามเหลือเกิน
�
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in