เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทุกปัญหา thesis มีทางแก้Looktan Looktann
0% - 30%






  • 0% - 10%


    เราคิดมาตลอดว่าอยากทำหนังสือภาพสำหรับเด็ก จนตอนนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่อยากทำอยู่

    การเริ่มต้นทำ Thesis ในครั้งนี้ เราเคยคิดว่าอยากเอานิทานเก่า ๆ ที่เขียนไว้ตอนปี 2 มาทำเป็น Thesis แต่พอคิด ๆ ดูแล้วกลับรู้สึกว่าไม่ได้ชอบนิทานเรื่องนั้นเท่าเดิมแล้ว เราเลยหาหัวข้อใหม่โดยที่ไม่ได้มีหัวข้อในใจเลยสักอัน ซึ่งหลังจากถกเถียงกับตัวเองหลายวันก็ได้หัวข้อมา 2 หัวข้อ คือ ประเด็นเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกของผู้ปกครองในยุคโซเชียล และประเด็นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง จึงเริ่มหาข้อมูลของทั้งสองหัวข้อนี้และมีการคิดพล็อตเรื่องไว้คร่าว ๆ 

    แต่ผลที่ออกมากลับไม่น่าพอใจสำหรับตัวเราเองนี่สิ 


    สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าลองหาหัวข้อใหม่แล้วกันเพราะยังมีเวลาให้คิด แต่ปัญหาก็คือ แล้วจะเอาหัวข้อเกี่ยวกับอะไร คิด ๆ ไปก็คิดไม่ออก แล้วจู่ ๆ เราก็นึกถึงประโยค “ไม่เป็นไร ทุกปัญหามีทางแก้” เป็นประโยคติดปากที่เราพูดอยู่บ่อยครั้งเวลาที่เจอสถานการณ์ลำบาก และได้มาย้อนนึกถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของเด็ก ๆ ที่เราสังเกตในระหว่างทำงาน เราเลยคิดว่า เราน่าจะทำอะไรต่อจากประเด็นนี้ได้ จึงลงมือหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการนำเสนอ My Ideas for Thesis  ทันที 






    11% - 20%


    หลังจากได้คำแนะนำจากคณาจารย์ทุกท่าน เราก็เดินหน้าคิดต่อว่าอยากจะนำเสนอเรื่องราวออกมาแบบไหน ในแบบฉบับที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน ซึ่งได้ออกมาเป็นไอเดียที่ว่า ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้ปัญหาที่เป็นนามธรรมนี้กลายเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ดูมีชีวิตขึ้นและสนุกขึ้นสิ ฉันจึงคิดประโยคที่เป็นคีย์เวิร์ดสั้น ๆ  เก็บไว้ก่อนเพื่อลองดูว่าเรื่องจะเป็นไปในทิศทางไหน และลองศึกษาข้อมูลและการนำเสนอเรื่องราวของหนังสือภาพหลาย ๆ เล่มที่เล่านำเสนอเรื่องนามธรรมเช่นเดียวกัน พอเห็นหนังสือที่สนุก ๆ เราก็อยากเขียนให้เรื่องของเราสนุก ๆ บ้าง 

    นี่ละปัญหาใหญ่เลย


    แต่ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน เราเริ่มจากสรุปข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาที่หามา เพื่อนำมาประกอบเป็นคาแรคเตอร์ ปัญหาที่มีชีวิต เช่น ปัญหาเกิดมาจากอะไร ปัญหามีผลอย่างไรต่อเรา ขนาดของปัญหา รูปร่างหรือรูปแบบของปัญหา อายุขัยของปัญหา ปกติปัญหาอยู่ที่ไหน ปัญหาชอบอยู่กับคนแบบไหน วิธีที่จะทำให้ปัญหาหายไปจากเรา ปัญหาให้อะไรกับเรา 

    หลังจากนั้นได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรึกษาคุณครูที่ปรึกษา และได้รับคำแนะนำว่าข้อมูลเยอะและดูโต จึงคิดว่าน่าจะปรับอายุขึ้นสักหน่อยหรืออาจเปลี่ยนไปนำเสนอเป็นกราฟิกโนเวลเพื่อที่จะได้ใส่ข้อมูลได้ทั้งหมด และได้ตัวอย่างหนังสือที่นำเสนอสิ่งที่เป็นนามธรรมคล้าย ๆ กันมา คือ อารมณ์นี้ สีอะไรนะ นิทานชุด ถ้วยฟูชวนหนูรู้จักอารมณ์


    เรานำคำแนะนี้มาคิดดูอีกครั้งในเรื่องของการเปลี่ยนรูปแบบเป็นกราฟิกโนเวล ลองคิดการนำเสนอแต่ละตอน แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าไม่ดีเท่าที่ควร ดูเข้าใจยากขึ้นกว่าเดิม และเราไม่ถนัดวาดกราฟิกโนเวลด้วย เราจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะทำเป็นหนังสือภาพเช่นเดิมแต่ปรับอายุของกลุ่มเป้าหมายเป็นอายุ 10 ปีขึ้นไปแทนจากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายเป็นอายุ 7-9 ปี






    21% - 30% 


    เนื้อเรื่อง 

    ในส่วนของเนื้อเรื่อง เรานำคีย์เวิร์ดสั้น ๆ ที่คิดไว้มาลองร้อยเรียงเป็นเรื่องราวดูก่อน ซึ่งแรก ๆ ก็ค่อนข้างติดขัด ทำให้กินเวลาเพราะช่วงนี้ไปพอสมควร 


    มีช่วงหนึ่งที่คิดว่าถ้าพล็อตนี้มันไปต่อไม่ได้ก็เปลี่ยนพล็อตไปเลย เราจึงไปคิดอีกพล็อตเพิ่มและเราก็ประสบปัญหาเดิมคือไปต่อไม่ได้ สุดท้ายก็ย้อนกลับมาที่พล็อตแรก แต่เราเปลี่ยนวิธีทำงานไปเป็นการพยายามคิดภาพประกอบควบคู่กันไปกับเนื้อเรื่องเพื่อให้เกิดการปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องราวแทนการจมอยู่กับการเขียนเนื้อเรื่องอย่างเดียว 




    ภาพประกอบ

    ภาพประกอบแรกของเรื่องยังไม่มีรายละเอียดอะไรมากเพราะลองคิดแค่เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไรและเป็นช่วงที่กังวลกับเนื้อเรื่องอยู่ แต่หลังจากที่เนื้อเรื่องผ่านแล้วก็จะพัฒนาภาพและองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ละเอียดมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับเนื้อเรื่องควบคู่กันไปด้วย




    ตัวละคร 

    ตัวละคร ปัญหา เป็นตัวละครที่เรารู้สึกว่าถ่ายทอดออกมายากที่สุด เรามีภาพในหัวว่า ปัญหาเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ดูยุ่งเหยิงและมีนิสัยขี้แกล้ง มีภาพที่ลองวาดไว้ และได้รับคำแนะนำจากคุณครูที่ปรึกษาว่าตัวแบบนี้ยังทำให้ดูแล้วนึกถึงตัวการ์ตูนอื่นอยู่ ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับเรามาก 




    แต่ไม่เป็นไร ทุกปัญหามีทางแก้ 






















เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in