เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#fictober2017somnambulist_97
Day2 - Divide
  • DAY 02 : Divide

    by somnambulist

    #fictober2017 #linwoo

    pairing; Lai guanlin x Park woojin


    การแบ่งแยกระหว่างเด็กเรียนสุดเนิร์ดกับเด็กนักกีฬาเกเร เป็นเรื่องที่พัคอูจินคิดเสมอว่าไร้สาระ จนกระทั่ง เด็กต่างด้าวนั่นย้ายเข้ามา

    เขาว่าเขาเริ่มจะเห็นด้วยแล้วละ

    รองเท้าสตั๊ดคู่โปรดถูกยัดเข้าล็อคเกอร์อย่างลวกๆ ตามด้วยบานประตูล็อคเกอร์ที่ถูกกระแทกปิดอย่างแรง อารมณ์ฉุนเฉียวของเจ้าตัวไม่มีท่าทีจะลดลงเลยแม้แต่น้อย พัคอูจินใส่ผ้าใบสีขาวคู่เก๋าด้วยความหงุดหงิด หลังจากทนซ้อมฟุตบอลจนเลิกในที่สุด ฟุตบอลคือกีฬาที่เขารักและถนัดมาตลอด แต่วันนี้เขากลับภาวนาให้ถึงเวลา 2 ทุ่มไวๆ จะได้เลิกซ้อมแล้วหนีเจ้าเด็กต่างด้าวนั่นให้พ้นๆไปซะที วันนี้เป็นวันซวยอะไรของเขานักหนาถึงได้เจอหน้าไอ้เด็กเอ๋อนั่นทั้งวัน ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด วันนี้เลยพาลให้เขาไม่มีสมาธิซ้อมบอลเอาซะเลย

    "วันนี้มึงดูหัวร้อนนะ ไอ้เขี้ยว" พัคจีฮุน เพื่อนร่วมทีมของเขาทักพร้อมเอาแขนตันๆนั่นมาพาดไหล่เขา มองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามันทักเพื่อจะกวนตีนเขาเหมือนทุกวัน

    "เออ เรื่องของกู..ไอ้เด็-ก"

    "พี่อูจินจะกลับแล้วเหรอครับ" ตายยากชะมัด ไอ้เด็กผีนี่

    เด็กตาโหลภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะนั่น ส่งยิ้มให้เขาประหนึ่งว่าโลกตรงหน้าเป็นสีชมพูพาสเทลอย่างนั้นแหละ เห็นแล้วมันขัดใจจริงๆ

    “เสือก!” เขาด่าใส่หน้ามันแรงๆทีนึงก่อนจะผลักมันแล้วหนีออกมาโดยไม่หันไปมอง

    เห็นหน้ามันแล้วเท้ากระตุก อยากจะเตะ อยากจะซัดหน้าเอ๋อๆนั่นสักเปรี้ยง เป็นเด็กเนิร์ดห้องคิงแล้วทำไมมันไม่รีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือฮะ มาลอยหน้าลอยตาอยู่แถวนี้ได้ยังไง

    “พี่อูจินรอผมด้วยสิครับ ทำไมเดินไวจังเลย แล้วนี่กระบอกน้ำครับ ลืมตลอดเลย” สงสัยไอ้เด็กนี่จะเป็นเปรตตามส่วนสูงมันจริงๆ วิ่งตามมาขอส่วนบุญไว้เหลือเกิน

    “เออ ยุ่งน่า!”

    “แล้วตามมาทำไม มาขอส่วนบุญรึไง” ยังอีก ยังจะยิ้มอีก ไอ้เด็กเปรตนี่

    “พี่อูจินเนี่ย ใจร้ายจังเลยนะครับ”

    “กูไม่เคยใจดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับมึง เฮ้! กระเป๋ากู เอาไปทำไม” แขนยาวๆนั่นคว้ากระเป๋าเขาไปถือหน้าตาเฉย แถมเจ้าตัวยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อีก

    “พี่ซ้อมกีฬามาเหนื่อยๆ ผมช่วยดีกว่า แล้วก็กลับถึงหอ รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดนะครัับ เดี๋ยวผมอ่านหนังสือรออยู่ม้านั่งข้างล่าง”

    “รอทำไม มึงรีบกลับหอตัวเองไปเลย หอมึงอยู่ฝั่งนู้นมายุ่งอะไรกับกูฮะ! แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มึงบอกด้วย” เริ่มจะหงุดหงิดอีกแล้วนะ ไอ้เด็กนี่อยู่เกาหลีมาก็หลายเดือนแล้วมันยังพูดไม่รู้เรื่องอีก ไหนว่าเป็นเด็กแลกเปลี่ยนสุดเก่ง เหอะ มันฟังกูพูดยังไม่เห็นจะเข้าใจกูเลยเนี่ย

    “…” อยู่ๆไอ้เด็กเปรตมันก็เดินช้าลงหันมาจ้องตาเขาเขม็งซะงั้น คิดว่าคนโซลอย่างพัคอูจินจะกลัวรึไง

    “มองกูทำไม ไม่พอใจรึไง ไอ้เด็กเนิร์ดอย่างมึงแค่นี้ไม่เข้าใจหรอวะ”

    “…” เงียบได้เงียบไปให้ตลอดนะไอ้ควานลิน ทำมาหน้านิ่ง กูสิต้องนิ่งใส่มึง!

    “ยังจะยืนนิ่งอีก ถึงหอกูแล้ว มึงกลับหอมึงไปได้แล้ว กลับช้าเดี๋ยวรูมเมทมึงก็คอยหรอก”

    “หึ ไอ้ซอนโฮมันหนีไปเล่นฟีฟ่ากับพี่ฮยอนบินตั้งแต่ซ้อมเสร็จแล้วครับ” ไอ้เด็กนี่ ทำไมตอนนี้มันหายหน้าตึงแล้วอมยิ้มนิดๆละ เป็นอะไรของมัน เห็นแล้วยิ่งหงุดหงิดว้อย

    “งั้นมึงก็กลับหอไปเลย มาอยู่นี่เดี๋ยวเขาจะหาว่ากูลักพาตัวเด็กเรียนดีเด่นมาแกล้งหรอก กลับหอมึงไป๊ อ้อ กลับไปติวหนังสือกับสาวๆของมึงก็ได้ เหอะ”

    “อ้อ..” ยิ้มอะไรของมัน แล้วจะเดินมาใกล้ๆเขาทำไมเนี่ย

    “พี่หมายถึงพวกเยจินน่ะหรอ” เด็กตัวสูงค่อยเดินต้อนพี่ชายหน้าดุเข้ามุมต้นไม้โดยที่คนพี่ไม่ทันรู้ตัว แถมมุมปากยังยกยิ้มอย่างมีเลศนัย พี่อูจินเนี่ยน้า

    “จะเยจินหรือใครก็เรื่องของมึง ออกไปเลย กลับไปติวหนังสือกับแก๊งเนิร์ดของมึงนู่น”

    “แต่ผมอยากอยู่กับพี่อูจินนี่ครับ...”

    “ไม่ต้องมาพูดเลย! ทีเมื่อวานนะ..หึ” ไม่รู้ว่าควานลินเดินเข้าประชิดอูจินตั้งแต่เมื่อไร แต่ตอนนี้หลังของเขากลับชนเข้ากับต้นไม้เข้าซะแล้ว แถมจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ ไอ้เด็กยักษ์นี่มันยกแขนมากั้นไว้ทุกด้านเลย

    “เมื่อวาน? อ้อ..” ไลควานลินหุบยิ้มไม่ลงเลยจริงๆ พี่อูจินของเขาเนี่ย น่ารักจริงๆเลยนะ

    “ยิ้มอะไรของมึง จะไปตายที่ไหนก็ไป ถอย” ยังจะมายิ้มอีกไอ้เด็กเวร หน็อย มันน่าโมโหจริง

    “พี่อูจินเนี่ยหึงได้น่ารักดีนะครับ” ไม่พูดเปล่าไอ้เด็กเอ๋อนี่ยังฉีกยิ้มจนปากจะถึงหูอยู่แล้ว

    “หึงอะไร ใครเขาหึงมึง ประสาท” เห็นหน้ามันแล้วอยากจะต่อยให้คว่ำ แล้วจะยื่นหน้ามาใกล้ๆทำไมเนี่ย

    “หึงแล้วโหดจังเลยนะครับ โอ๊ะ อย่าใช้ความรุนแรงสิครับ” มือของเขาถูกคว้าไว้ทันก่อนที่จะได้เสยเข้าหน้าโง่ๆของเด็กยักษ์ตรงหน้า ไอ้เด็กนี่ก็แรงเยอะเหลือเกิน สะบัดมือเท่าไรก็ไม่หลุด

    “พี่อูจิน..เมื่อวานพวกนั้นแค่ขอให้ช่วยสอนภาษาอังกฤษเอง ซอนโฮก็อยู่เป็นพยานได้”

    “อ้อเหรอ แล้วทำไมยัยเด็กนั่นไม่ให้ไอ้แซมมันสอนละ”

    “อีกอย่างพวกนั้นก็เป็นเด็กกีฬา กล้าข้ามตึกไปให้มึงสอนได้ยังไง เหอะ ใจดีเหลือเกินนะพ่อเด็กแลกเปลี่ยน”

    “ไม่รู้สิครับ แต่ผมก็สอนแค่แปปเดียวเองนะ เหนื่อยจะตาย ขี้เกียจด้วย” กล้าพูดนะไลควานลิน เห็นตอนสอนละยิ้มระริกระลี้เชียว

    “หึ ตอนสอนละหน้าระรื่นเชียวนะ แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนอีก ไหนจะเมื่อวันนั้น..” ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

    อูจินได้แต่บ่นงึมงัมเป็นหมีกินผึ้ง ยิ่งพูดยิ่งขุดเรื่องความฮ็อตของไลควานลินออกมาไม่หวั่นไม่ไหว คนเด็กกว่าได้แต่ยิ้มและมองด้วยความเอ็นดู เวลาพี่อูจินบ่นแล้วขมวดคิ้ว พองแก้มนี่น่ากด..ไม่สิ น่าฟัดแก้มจริงๆเลย

    “พี่อูจินเนี่ย หึงแล้วน่ารักจริงๆเลย” 

    “อะไรของมึ--ง” พูดยังไม่ทันจบดี ริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยปากของเจ้าเด็กที่เขาด่าว่าเอ๋ออยู่ตลอด ริมฝีปากนุ่มถูกขบเม้มแผ่วเบา เหมือนตั้งใจจะหยอกล้อก่อนจะถอนออกไปอย่างอ้อยอิ่ง 

    พัคอูจินตั้งตัวไม่ทันกับสถานการณ์เบื้องหน้า ความอบอุ่นยังหลงเหลืออยู่บนริมฝีบากอย่างเบาบาง เมื่อกี้ไอ้เด็กนี่มัน-- จูบเขาหรอ เมื่อเริ่มตั้งสติได้ อูจินก็เริ่มรู้สึกถึงความร้อนที่เห่อลามทั่วใบหน้า ตาเรียวเล็กไ่กล้าสบตาคมที่จ้องตนเองอยู่

    “เวลาพี่บ่น ผมอดใจไว้ไม่ได้ทุกที ขอโทษนะครับ” ไม่รู้ว่าควานลินถอดแว่นสายตาออกตอนไหน แต่จังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเจ้าเด็กต่างด้าวนี่ก็พบใบหน้าไร้กรอบแว่นปกปิดเช่นทุกที เผยให้เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาและรอยยิ้มร้ายกาจน่าต่อยนั่น

    “ไอ้..”

    “ฟังผมก่อนนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจไปอ่อย ใช้คำนี้ถูกมั้ยครับ แต่เขามาขอผมเลยไม่กล้าปฏิเสธ อีกอย่างทุกครั้งที่ติวให้ก็จะมีซอนโฮไม่ก็เพื่อนคนอื่นตลอดเลยนะครับ สบายใจได้”

    “อีกอย่าง ผมไม่ได้อยากติวให้พวกนั้นซะหน่อย พี่ก็รู้”

    “คนเดียวที่ผมอยากติวให้ก็มีแต่พี่อูจินนั่นแหละครับ” มือหนาเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าออกให้คนพี่ที่ตอนนี้ดูจะเสียสตินึกคิดไปแล้ว

    ก็บอกแล้ว พัคอูจินตอนหึงน่ะ น่ารักสุดๆไปเลย

    “ควานลิน นาย มึง ว้อย” ผลักไอ้เด็กตัวโย่งออกไปเต็มแรงหวังจะคลายความเขิน ไม่สิความโมโห แต่เด็กมันก็เกาะแกะไม่หยุด คว้ามือเขากุมไว้ไม่ปล่อย

    “ผมมีแค่พี่อูจินคนเดียว เชื่อผมสิ”

    “เนี่ย พี่เป็นคนเดียวเลยนะที่ทำให้ผมไม่สนเรื่องการแบ่งแยกฝั่งเนิร์ดกับพวกกีฬา”

    “ผมน่ะ..อยากจะติวกับทำการบ้านแค่กับพี่อูจินเท่านั้นแหละ อยากทำกับพี่ทุกวันทุกคืนเลย”

    ไลควานลินอาศัยจังหวะที่พัคอูจินยังตั้งตัวไม่ทัน ปล่อยมือที่กุมไว้แล้วค่อยๆโอบรอบเอวของอีกฝ่าย อีกมือกอบกุมใบหน้าคนพี่ให้เงยขึ้นและค่อยๆโน้มตัวเข้าหา


    แปะ

    ฝ่ามือของพัคอูจินตบเข้าที่ริมฝีปากของไอ้เด็กยักษ์ได้ทันก่อนที่เขาจะโดยขโมยจูบรอบที่สอง ให้ตายเถอะ ใครบอกว่ามันเป็นเด็กเนิร์ดกัน ไอ้เด็กนี่ มัน ตอแหล ชัดๆ

    “พอเลย ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้เนี่ย แล้วคำพูดอีกไปจำมาจากไหนฮะ” นับวันคลานลินชักจะเรียนรู้ภาษาเกาหลีเร็วกว่าที่คิดไว้ซะแล้ว แถมยังไปเรียนอะไรแปลกๆมาอีก ต้องไปเอามาจากพวกคนในชมรมเขาแน่ๆ

    “ใครจะสอนก็ไม่สำคัญหรอกครับ.. สำคัญแค่ผมจะเอาไว้ใช้กับอูจินคนเดียวก็พอ”

    ก็บอกแล้วว่าพัคอูจินน่ะ น่ารักจะตาย ไลควานลินละอยากจะติวให้ทั้งคืนจริงๆ เชื่อสิ


    พัคอูจินเริ่มจะต้องคิดแล้วล่ะ เกี่ยวกับการแบ่งแยกสายการเรียนของโรงเรียน สงสัยต้องไปถามผู้อำนวยการแล้วว่าทำไมเจ้าเด็กเนิร์ดปลอมเนี่ยถึงเข้ามาลุกล้ำได้ ไหนโรงเรียนย้ำนักย้ำหนาว่าทั้งสองสายแยกกันอย่างชัดเจน แล้วไอ้เด็กนี่มันมาลอยหย้าลอยตาอยู่อย่างนี้ได้ยังไง

    ฟ้อง พัคอูจินจะฟ้องร้องผู้อำนวยการ


    แต่ขอเขาเอาตัวรอดจากอ้อมแขนของไลควานลินให้ได้ก่อนนะ!


    -------------------------------

    TALK;

    พยายามปั่นแต่ก็ไม่ทัน คราวนี้ขอมาคู่หลินอูบ้าง มีความรู้สึกว่าไม่ค่อยตรงโจทย์เท่าไร ภาษาก็งงๆหน่อย ต้องขออภัยจริวๆ แอบอู้อ่านหนังสือมาแต่ง ก็จะมึนๆหน่อย (เรามันไม่มีคนติวให้แบบอูจินนี่เนาะ)

    ยังไงก็พูดคุยกันได้ที่ @somnambulist_97 และแท็ค #somnamxfictober ค่า

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
rena_960912 (@rena_960912)
ไปไหนไม่รอดแล้วล่ะยัยคนขี้หึง ทำมาเป็นบอกว่ารำคาญ จริงๆคือโมโหหึงอยู่สินะเนี่ยะ 555