เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ความรู้เกี่ยวกับการเสริมจมูกKriangkrai Edd
เสริมจมูกโอเพ่นกับเสริมจมูกแบบธรรมดาต่างกันอย่างไร?
  • เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่เรียวสวยดูหวานละมุน เสริมใบหน้าให้มีมิติและโดดเด่นยิ่งกว่าใครๆ นอกจากจะต้องเลือกทรงจมูกที่สวยรับกับรูปหน้าแล้วนั้น การเลือกวิธีเสริมจมูกก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันปัจจุบันเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกมีให้เลือกด้วยกัน 2 วิธีคือ การเสริมจมูกแบบปิด(Close Rhinoplasty) และการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) การเสริมจมกแบบปิดและแบบโอเพ่นแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากันควรเลือกเสริมจมูกแบบไหนดี? มาดูคำตอบในบทความนี้กันได้เลย


    การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty)

    เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด เป็นวิธีการเสริมจมูกที่ใช้ในวงการศัลยกรรมจมูกมาอย่างยาวนานวิธีนี้แพทย์จะทำการกรีดแผลที่มีขนาดเล็กภายในจมูก ซึ่งอาจจะกรีดเพียง 1 ข้างหรือกรีดทั้ง 2 ข้างตามความเหมาะสมในแต่ละเคสจากนั้นทำการเสริมจมูกด้วยการดแท่งซิลิโคนที่ได้เหลาตกแต่งทรงไว้แล้วเข้าไปทางรอยแผลที่กรีดไว้ซึ่งวิธีนี้สามารถเสริมซิลิโคนได้ตั้งแต่ช่วงสันจมูกถึงปลายจมูก


    ข้อดี-ข้อเสีย การเสริมจมูกแบบปิด

    ข้อดี

    1. สังเกตเห็นรอยแผลได้ยาก เพราะเป็นการกรีดด้านในของจมูก
    2. ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เวลาในการผ่าตัดเพียง 60-90 นาที
    3. แผลบวมน้อย ใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
    4. ค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่แพง

    ข้อเสีย

    1. วิธีนี้แพทย์จะไม่เห็นโครงสร้างภายในจมูก ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจมูกที่มีความซับซ้อนได้ เช่น จมูกสั้น จมูกเบี้ยวหรือเอียง จมูกงุ้ม ฯลฯ
    2. ไม่สามารถเสริมจมูกให้ดูโด่ง หรือทำให้ปลายดูเชิดสูงมากๆ ได้
    3. หากเสริมเกินกว่าเนื้อจมูกจะรับไหว หรือแพทย์ไม่มีความชำนาญ มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจมูกทะลุ จมูกเอียงหรือเบี้ยวในอนาคต

    การเสริมจมูกแบบปิดเหมาะกับใคร

    เพราะเป็นการเสริมจมูกด้วยการกรีดเพื่อเปิดแผลเล็กๆ จากด้านในจมูก ทำให้แพทย์ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างโดยรวมของจมูก การเสริมจมูกแบบปิดจึงเหมาะกับคนที่จมูกมีปัญหาน้อย ไม่ซับซ้อนฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้ว สันโด่ง มีเนื้อปลายจมูกค่อนข้างเยอะ แต่อยากเพิ่มความสูงของจมูก หรือยืดปลายจมูกให้ดูยาวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


    การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty)

    การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น เป็นการผ่าตัดเพื่อเปิดโครงสร้างของจมูกทั้งหมด นิยมใช้เพื่อการแก้จมูก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลตั้งแต่ปีกจมูกซ้าย ไปจนถึงบริเวณปีกจมูกขวา ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างและปัญหาที่ต้องแก้ไขภายในจมูกได้อย่างชัดเจน เมื่อผ่าตัดเปิดแผลเรียบร้อยแล้วแพทย์จะทำการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาของจมูกอย่างตรงจุด เช่น เสริมจมูกและปลายจมูกให้ยาวมากขึ้นด้วยการใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นต้น ในเคสที่จมูกมีฮัมพ์สูง แพทย์ก็จะทำการตะไบฮัมพ์ หรืออย่างในเคสที่มีปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยว แพทย์ก็จะทำการตอกฐานจมูก หรือผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นจมูกเพื่อปรับให้จมูกดูตรงสวยมากยิ่งขึ้น


    ข้อดี-ข้อเสีย การเสริมจมูกแบบโอเพ่น

    ข้อดี

    1. เหมาะกับการแก้ไขปัญหาจมูกที่มีความซับซ้อน เช่น จมูกสั้น จมูกเอียงหรือเบี้ยว จมูกมีฮัมพ์ จมูกทะลุ รวมจนถึงในเคสของการแก้ทรงจมูกหลังการเสริมจมูก
    2. สามารถเสริมจมูกให้ดูสูงโด่ง และมีปลายเชิดมากๆ ได้
    3. ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาจมูกเอียง จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอยและปัญหาจมุกทะลุในอนาคต

    ข้อเสีย

    1. สังเกตเห็นรอยแผลได้ง่ายกว่า เพราะเป็นการกรีดแผลด้านนอกจมูก
    2. อาจมีอาการบวม หรือรอยเชียวช้ำเกิดขึ้นได้ใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ  7-14 วัน
    3. ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง

    การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเหมาะกับใคร?

    เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นการเสริมจมูกที่แพทย์สามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด จึงเหมาะกับการเสริมจมูกทุกเคส ไม่ว่าจะเป็นเคสเสริมจมูกใหม่ หรือเคสแก้ทรงจมูกเหมาะกับคนที่มีปัญหาจมูกสั้น จมูกเอียงหรือเบี้ยว ปลายจมูกงุ้มผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยก็สามารถใช้วิธีการเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้


    ความแตกต่างระหว่างการเสริมจมูกแบบปิดและแบบโอเพ่น

    จากข้อมูลที่ได้กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดสามารถสรุปความแตกต่างของการเสริมจมูกแบบปิดธรรมดา และการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ได้ดังนี้

    1. การเสริมจมูกแบบโอเพ่นช่วยแก้ไขปัญหาทรงจมูกได้ครอบคลุมมากกว่าแพทย์สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาจมูกได้ละเอียดกว่าการเสริมแบบปิดใช้ได้กับทุกเคสไม่ว่าจะเป็นเคสใหม่ หรือเคสแก้ทรงจมูกเดิม
    2. การเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะช่วยเสริมทรงจมูกให้โด่งขึ้นและเพิ่มปลายให้เชิดได้มากกว่าการเสริมแบบปิด
    3. การเสริมจมูกแบบปิดใช้เวลาในการรักษาและการพักฟื้นน้อยกว่าการเสริมแบบโอเพ่น
    4. การเสริมจมูกแบบปิดมีค่ารักษาน้อยกว่าการเสริมแบบโอเพ่น
    5. การเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาหลังการเสริมจมูกได้ดีกว่าเช่น จมูกเอียง จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอย หรือซิลิโคนทะลุ

    ควรเลือกเสริมจมูกด้วยวิธีไหนดี?

    การตัดสินใจเลือกว่าจะเสริมจมูกด้วยวิธีแบบปิดหรือแบบโอเพ่น หรือจะแก้จมูกที่ไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับโครงสร้างเดิม และปัญหาของจมูกของในแต่ละเคส หากมีปัญหาจมูกไม่เยอะ ฐานจมูกเดิมของคนไข้ดีอยู่แล้วก็อาจจะใช้การผ่าตัดแบบปิดเพื่อปรับเสริมจมูกให้ดูดีมากขึ้น หรือในเคสที่มีปัญหาจมูกค่อนข้างเยอะ คนไข้มีเนื้อจมูกค่อนข้างน้อยแบบนี้ก็จะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่นมากกว่า ทั้งนี้แพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้ประเมินสภาพปัญหาจมูกร่วมกับความต้องการของคนไข้ และเลือกใช้วิธีการเสริมจมูกที่เหมาะสมมากที่สุด

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in