ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาลองหาอะไรสร้างสรรค์ในพันทิปอ่านจนไปเจอกระทู้ทำนองว่า
"ฆ่าตัวตายอย่างไรให้ไม่ทรมาน" ล้ำหน้าไปอีก ...
คนยุคนี้แม่งโคตรเท่อยากตายแต่นึกไม่ออกว่าจะตายยังไงก็ถามชาวเน็ตได้ คอมเม้นที่ตอบออกแนวสร้างสรรค์ ช่วยกันหาหนทาง แต่มันจะมีคอมเม้นท์ประเภทแบบ บาป / ธรรมะประโลมใจ / ฆ่าตัวตายคือกรรมหนัก ฯลฯ มันเลยทำให้เกิดคำถามว่าอะไรคือตัวกำหนดว่าการฆ่าตัวตายของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ตัวละครหลักที่ถูกนำมาอ้างอิงถึงคือ บุพการีหรือพ่อแม่ ทำไมคนเหล่านี้ถึงเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดว่าเราไม่ควรตายวะ?
คิดเองเออเองว่าคำตอบที่ดีที่สุดคือคำตอบที่เป็นรูปธรรมมีคำอธิบายที่เห็นภาพเข้าใจง่าย ถ้าชาวธรรมะบอกว่ามนุษย์ไม่ควรฆ่าตัวตายเพราะเป็นบาปที่ทำลายชีวิตที่พ่อแม่สร้างมา นั้นแสดงว่ามนุษย์ 1 คนมีมูลค่า (Value) ซึ่งมุบค่าของบุคคลนั้นถูกกำหนดขึ้นจากตัวแปรหลักคือพ่อแม่ เทียบเป็นสมการคงประมาณ
บาปจากการค่าตัวตาย ∝
1/มูลค่าของบุคคลนั้นที่มีต่อบุคคลอื่นๆ
ยิ่งถ้าบุคคลนั้นเป็นคนสำคัญ / คนดี / คนรวย / คนมีชื่อเสีย การจากไปของเขายิ่งมี effect ต่อการแปรผกผันของค่า 2 ข้างสมการนี้ (ง่ายๆคือคนดังที่เป็นคนดีฆ่าตัวตายคนวิจารณ์เป็นบาปน้อยกว่า/ได้รับข้อคิดเห็นด้านบวกมากกว่า Homeless ซักคนผูกตายข้างถนน)
Thomas Malthus ตัวแทนจากสำนัก Classic เจ้าของผลงาน Eassay on the principle of population มีงานชิ้นเล็กๆชื่อว่า Theory of value (ทฤษฎีมูลค่าของ) ว่าด้วยมูลค่าของสิ่งๆหนึ่งจะถูกกำหนดด้วยอุปสงค์และอุปทาน การที่สิ่งนั้นจะมีมูลค่าสูงหรือไม่ขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิต ซึ่งมีข้อแม้ว่ามูลค่าของสิ่งนั้นจะต้องสูงกว่าต้นทุนการผลิตเพื่อกลายร่างสู่การเป็นกำไรและคืนสู่กระเป๋าของผู้ผลิต
บาป vs. กำไรจากต้นทุน
หรือแท้ที่จริงแล้วการฆ่าตัวตายเป็นบาปเพราะเรายังไม่ได้สร้างกำไรให้กับผู้ผลิตได้มากพอหรือมากกว่ามูลค่าของเรากันแน่ ? แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะรู้ว่าเราสร้างกำไรได้คุณต้นทุนการผลิตแล้วหรือยัง?
หากเราสร้างกำไรได้คุ้มทุนแล้วเราสามารถฆ่าตัวตายได้ไม่ผิดบาปหรือไม่?
มีวิธีลัดในการสร้างกำไรให้คุ้มทุนไหม?
กลับมาที่กระทู้พันทิปการฆ่าตัวตายแบบไม่ทรมาน คอมเม้นท์ที่เข้าทางการจับแพะชนแกะ เอาทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายบุญบาปแบบงงๆข้างบน เด้งขึ้นมา 2-3 อัน
ค่ะ, คุณไม่ได้ไปต่อนะคะ เพราะคุณยังสร้างกำไรได้ไม่คุ้มทุนที่พ่อแม่ลงทุนกับคน บาปกรรมจะแปรสภาพเป็นหนี้สินตามติดคุณไปทุกชาติ ทุกโลก ทุกช่วงเวลาเลยทีเดียว
ค่ะ, ถ้าคุณอยากจะตายแบบที่บาปไม่แปรสภาพเป็นหนี้คุณจำเป็นจะต้องวางแผนการฆ่าตายในแบบที่เอื้อประโยชน์สูงสุดแก่สังคม เพื่อที่จำนวนด้านบาปของคุณจะลดน้อยลงตามสมการมั่วๆที่เราเขียนขึ้นมาด้านบน หรือพูดง่ายๆคือ การบริจาคอวัยวะหรือทำประกันคือเครื่องรางในการลดความบาป (ที่สังคมเป็นคนกำหนดมูลค่า) ของการฆ่าตัวตายของเรา
สุดท้ายแล้วการฆ่าตัวตายของบุคคลหนึ่งก็เป็นเรื่องปัจเจกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว (อาจจะไม่ถึง 1 นาทีสำหรับเคสที่ยิงระเบิดหัวตัวเอง) เอาจริงๆถ้าเราตายไปแล้วมูลค่าบุญบาปที่เราจะต้องเจอหรือได้รับก็ไม่มีใครตอบได้ว่าจริงเท้จแค่ไหน บุคคลที่กำหนดมูลค่าหลังการตายของเราก็คือคนที่ยังหายใจอยู่ ตัวเราหลังจากที่หยุดหายใจไปแล้วคงไม่มีเวลามาสนใจบาปหรือมูลค่าอะไรอีกต่อไปหรอก
"อย่าสงสารคนตายเลย, แฮร์รี่
สงสารคนที่ยังมีชีวิตอยู่ดีกว่า ..."
เพราะคนที่ยังคงจะต้องต่อสู้กับมูลค่าทางสังคมคือคนที่ยังหายใจอยู่ล้วนๆ วิ่งให้เร็วขึ้นเพื่อสร้างกำไรให้คุ้มต้นทุนเร็วขึ้น ทาปากให้เข้มขึ้นเพื่อเพิ่มอุปสงค์ให้ตนเอง ต่อสู้กับการถูกตีค่าแบบมองไม่เห็นตัวเลขต่อไปเรื่อยๆจนกว่สที่วันหนึ่งจะทำกำไรคุ้มต้นทุนและสามารถตายจากโลกนี้ไปได้อย่างถูกต้องในสายตาคนในสังคม (ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ ?!?)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in