ธันวาคมคือเดือนที่มาพร้อม December wish เดือนแห่งเทศกาล 108 ประการและวันหยุดยาวที่รอคอยมาทั้งปี ตอนเด็กๆสงสัยมาตลอดว่าทำไมถึงเรียกเดือนนี้ว่า "เดือนแห่งความสุข" เข้าใจว่าคงเป็นเพราะได้ของขวัญมั้ง หรือไม่ก็เพราะวันหยุดเยอะคนเลยมีความสุข
ตอนเด็กฝันมาตลอดว่าอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ในบ้านจะมีต้นคริสต์มาสใหญ่ๆที่เป็นต้นสนของจริงตั้งกลางบ้าน มียอดต้นสนเป็นดาวประกายสีทองสว่าง คือมี Christmas dream มาเต็มยิ่งกว่าหนัง Home alone ที่เคยดูตอนเด็กๆ แต่ก็ไม่เคยมีเลยตั้งแต่เด็กยันโต
เขาว่ากันว่าพอโตแล้วเรามักจะหมดเงินไปกับของไร้สาระเพื่อตอบสนองความต้องการวัยเด็กที่ไม่ได้ซื้อ แน่นอนว่าต้นคริสต์มาสคือ Wish list แรกที่รอมาทั้งปีเพื่อซื้อมาตั้งในห้องที่สมมติเองว่าเป็นบ้านที่แสนอบอุ่น ซื้อต้นคริสต์มาสสูงประมาณไม้บรรทัดกว่าๆมา นั่งมองมันซ้ำแล้วซ้ำอีก มองใบสีเขียว มองของตกแต่งมากมายที่ประโคมลงไป ยอดต้นที่ไม่มีดาวสีทองแต่เป็นโบว์สีทอง (กล่อมแกล้มไปก่อนเพราะต้นมันเล็กมาก) มองมันซ้ำๆมาเกือบ 2 อาทิตย์ มองจนตกผลึกความคิดบางอย่างได้เกี่ยวกับความฝันของตัวเอง
สมัยเด็กเราวาดฝันไว้มากมายเกี่ยวกับตัวเราเองในอนาคต เช่นเดียวกับภาพของต้นคริสต์มาสในฝัน เราอยากเป็นดาวบนยอดที่เปล่งประกายสีทองอร่าม เป็นคนสำคัญ เป็นคนที่หน้าที่การงานดี เป็นคนที่มีแต่คนรัก ...
เราวาดภาพความฝันไว้สวยงามเพราะมันอยู่ไกลออกไปจนเราต้องสร้างมโนภาพขึ้นมาเอง
เห้ย ... แล้วไงวะ? แล้วทุกวันนี้ได้เป็นดาวบนยอดแบบที่ตัวเราเองวาดฝันไว้ตอนเด็กๆแล้วรึยัง หรือ แท้จริงแล้วเรายังไม่ได้เข้าใจการจะเป็นดาวดวงนั้นซักนิดเลยกันแน่
การจราจรติดขัดตอนเย็น นั่งกินข้าวราคาถูกๆคนเดียวในร้านอาหารฟาร์สฟู๊ดโง่ๆในห้าง มองกลับไปฝั่งตรงข้ามเป็นบาร์ซูชิ ถามตัวเองในใจว่าตอนเด็กๆตัวเราเห็นภาพตัวเราเป็นคนไหนกันแน่ คนต๊อกต๋อยที่นั่งกินข้าวราคาถูกๆเพียงลำพังในวันน่าเบื่อ หรือ คนที่ส่องประกายด้วยอำนาจเงินและหน้าที่การงานที่กำลังกินข้าวเย็นอย่างสนุกสนานกับเพื่อนฝูงในบาริซูชิ ตัวเราเองตอนเด็กจะผิดหวังกับเราในตอนนี้ไหม ขนาดแค่เรื่องต้นคริสต์ยังมีปัญญาซื้อได้แค่ต้นเล็กๆที่ประดับดาวประกายแสงไม่ได้ด้วยซ้ำ
ความจริงที่โหดร้ายคือเราไม่ได้โตขึ้นมาเป็นดาวบนยอดต้น ห่างไกลมากด้วยซ้ำ เหมือนเป็นได้แค่ไฟประดับที่ส่องแสงริบหรี่ เจ็บปวดหัวใจแต่ก็ต้องยอมรับว่าความจริงมันโหดร้ายอย่างนี้เสมอในชีวิตคนเรา
ถือสวิตท์เปิด/ปิดไฟบนต้นคริสต์มาสข้างทีวีในขณะที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง เราไม่มีความสุขจริงๆหรือตัวเราเองตั้งเส้นแบ่งความสุขสูงเกินไปกันแน่ เราไม่มีความสุขจริงหรือเรามัวแต่จับจดกับความสุขแบบมโนคติที่คิดเองวาดฝันเองว่าแบบนี้เท่านั้นถึงจะเรียกว่าความสุข หรือเราเองที่บังคับให้ตัวเองทุกข์
ยิ้มให้ตัวเองแบบแห้งๆ โอเคแหละถึงทุกวันนี้จะยังไม่ได้ขึ้นไปเป็นดาวประกายบนยอดต้นคริสต์มาส แต่อย่างน้อยเราก็พยายามอย่างหนักหน่วงเข้าใกล้เป้าหมาย ถึงจะเป็นแค่ไฟประดับต้นคริสต์มาย แต่อย่างน้อยใน IKEA ไอ้ไฟประดับก็จัดอยู่ในหมวดของตกแต่งเทศกาลเหมือนกับไอ้ดาวประกายแหละวะ!!
สักวันจะเติบโตจากหลอดไฟไปเป็นดาว ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in