เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กาลครั้งหนึ่ง ฉันเป็นเด็กฝึกงานSASAPRAEW
วันนี้มีประชุมนะ
  •           23 มิถุนายน 2564

               หลังจากที่หอศิลป์กลับมาเปิดอีกครั้งแล้วนั้น เราและเพื่อนๆ ที่ทำงานฝ่ายกราฟิกจึงต้องเข้าทำงานที่ออฟฟิศตามปกติแล้ว คือเข้าออฟฟิศตั้งแต่วันอังคาร - วันเสาร์ และหยุดเพียง 2 วัน คือวันอาทิตย์และวันจันทร์ แต่ด้วยเหตุที่คอมของเรานั้นไปต่อไม่ไหวแล้ว เราเลยคิดว่าพรุ่งนี้คงจะต้องขอลางานกับพี่ไนซ์เพื่อไปซื้อคอมเครื่องใหม่แล้วล่ะ แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้ทักไปขอลาเลยก็มีข้อความจากพี่ไนซ์เด้งขึ้นมาแจ้งเตือนในกลุ่มเสียก่อนว่า  "พรุ่งนี้ีประชุม เดี๋ยวพี่จะให้แนะนำตัวเองนะ" และทันทีที่อ่านข้อความจบ เราก็คิดได้ว่าคงไม่ลาแล้วล่ะ เพราะหากไม่ได้อยู่แนะนำตัวในวันพรุ่งนี้อาจจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่แน่ๆ วันนี้เราเลยมาทำงานแบบมีอุปกรณ์ไม่พร้อมเสียเท่าไหร่ TT แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่เราหยิบไอแพดติดมือมาด้วยจึงพอจะทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง ไม่อย่างนั้นก็คงดูว่างและได้แต่นั่งมองเพื่อนๆ ทำงานแน่เลย 

              ซึ่งเราก็นั่งออกแบบโปสการ์ดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพี่ไนซ์เดินมาสะกิดและบอกกับพวกเราว่ากำลังจะประชุมแล้วนะ และใจของเราก็วูบลงไปอยู่ตาตุ่มทันทีเพียงได้ยินคำว่าประชุม 55555 และเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น พวกเราจึงหยุดมือเพื่อนั่งฟังการประชุม โดยมีพี่ๆ หลายฝ่ายนั่งล้อมกันเป็นวงกลมและยังมีบางส่วนที่ยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของตนตามเดิม ซึ่งพวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ด้วยที่โต๊ะของพวกเราอยู่ห่างจากพี่ๆ พอสมควร ทำให้พวกเราได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง ทั้งๆ ที่พวกเราพยายามตั้งใจฟังกันมากแต่ก็จับใจความไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แหะๆ และทันทีที่พวกพี่ๆ ประชุมกันเสร็จ คุณสืบแสง แสงวชิระภิบาล หัวหน้าฝ่ายนิทรรศการหอศิลปกรุงเทพฯ หรือที่เราได้ยินพี่ไนซ์เรียกว่า อาจารย์ก้อง ก็เดินมาแซวพี่ไนซ์ว่าให้แนะนำน้องๆ ได้แล้ว และหลังจากนั้นก็ถึงช่วงการแนะนำตัวของเด็กฝึกงาน ซึ่งก่อนที่จะออกไปนั้นพวกเราก็ได้มีการเกี่ยงกันเล็กน้อยว่าใครจะเป็นคนเปิด ซึ่งสุดท้ายหวยก็มาตกที่เรา55555
     
               พวกเราทั้ง 3 คนลุกเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางที่พวกพี่ๆ นั่งประชุมกัน บรรยากาศในตอนนั้นให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับตอนที่เราจะต้องออกไปรายงานหน้าชั้นเรียนมากๆ เพราะทุกๆ สายตาหันมองมาที่พวกเราเป็นจุดเดียว จนเราอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้และพยายามทำให้เสียงตัวเองไม่สั่น แต่สุดท้ายการแนะนำตัวของพวกเราก็ผ่านไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ยังมีเพื่อนๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากรมาฝึกงานที่นี่เหมือนกันอีกด้วย เพียงแต่อยู่คนละฝ่ายกับพวกเราเท่านั้นเอง 
     
              เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง ก็ได้เวลากินข้าวพอดี ซึ่งในวันนี้พวกเราก็ไม่ต้องออกไปหาร้านอาหารให้เหนื่อยและเสียเวลา เพราะเราได้ซื้ออาหารมาจากแถวบ้านแล้ว จึงทำให้มื้ออาหารของวันนี้ราบรื่นไปได้ด้วยดีและยังมีเวลาเหลือพอให้พวกเราได้ผ่อนคลายก่อนเริ่มทำงานในช่วงบ่ายต่อไปอีกด้วย แต่ด้วยที่เราต้องรีบไปซื้อคอมใหม่ เราเลยต้องขอกลับเร็วกว่าเวลาเลิกงานปกติ แต่ด้วยความเกรงใจเราเลยขอกลับก่อนเวลาเพียง 1 ชั่วโมง แม้พี่ไนซ์จะใจดีและบอกให้เรากลับได้เลยตั้งแต่ตอนที่ขอลาก็ตามล่ะนะ^^


               เพราะกลับก่อนทุกคน วันนี้เราเลยต้องเดินทางคนเดียวแบบเหงาๆ ซึ่งเราได้มารู้ทีหลังว่าพี่ไนซ์ก็ได้ให้เพื่อนๆ กลับหลังจากเราออกจากออฟฟิศไปแล้วเพียงไม่กี่นาที ซึ่งทำให้เรากลับมาคิดว่า ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกคงไม่ขอลาเพราะจะได้กลับพร้อมกันกับเพื่อนๆ และจะได้ไม่ต้องเดินทางกลับคนเดียวอย่างนี้555


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in