ณ กาลครั้งหนึ่ง เราได้เป็นเด็กฝึกงานแล้ววววววววว เย่!
ต..ตะ...แต่ก่อนหน้าที่เราจะได้ไปฝึกงานนั้น เป็นอะไรที่เครียดและกังวลมาก ๆ TT (โอ๊ยยยยยยย!!!!!!!!!!) เพราะคำว่า "ฝึกงาน" เป็นอะไรที่เรากลัวมาตลอดตั้งแต่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยและรู้ตัวว่าจะต้องฝึกงานตอนอยู่ชั้นปี 3 เลยล่ะ และถ้าถามว่าทำไมเราถึงต้องเครียดขนาดนั้นก็ต้องบอกก่อนเลยว่าเราน่ะเป็นคนที่กลัวไปซะทุกอย่าง กังวลไปซะทุกสิ่ง ชอบเครียดอะไรต่อมิอะไรล่วงหน้าอยู่ตลอดโดยเฉพาะตอนที่ต้องออกไปเผชิญหน้ากับอะไรใหม่ๆ มันเป็นอะไรที่ยากสำหรับเรามาก ๆ เราเลยต้องคอยบอกตัวเองไว้ตลอดเวลาว่า "ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี เราต้องทำได้ เราดวงดี (เอ๊ะ! อันหลังนี่ไม่น่าใช่ละ 555)" แต่ว่าเรื่องนี้มันดีมาก ๆ เลยนะ การที่เราลองให้กำลังใจตัวเองและพยายามคิดแต่เรื่องบวกๆ มันช่วยเพิ่มแรงฮึกเหิมให้เราได้จริงๆ แม้บางครั้งจะช่วยเพิ่มได้นิดนึงก็ตาม แหะๆ
ก่อนที่จะได้ที่ฝึกงานนั้น เราขอเล่าย้อนสักนิดนึงถึงช่วงเวลาที่เราไม่ได้ลอยคอรอคอย ซึ่งก็คือช่วงที่เราจะต้องเริ่มหาที่ฝึกงานให้กับตัวเองนั่นเอง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราคิดเยอะและถามตัวเองเยอะมากว่าชอบอะไรมากที่สุด เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการหาที่ฝึกงานให้เหมาะกับตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาเราคิดมาตลอดเลยว่าคงจะไปฝึกงานที่โรงเรียนไม่ก็น่าจะพวกห้องสมุดต่างๆ หรือที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่สายกราฟิกเป็นพอ เพราะด้านกราฟิกนี่ไม่ใช่ทางเราเลยจริงๆ TT ดังนั้นเราจึงลองยื่นสมัครฝึกงานกับทางห้องสมุดหนึ่งไป แต่ก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ มาทั้งสิ้นอยู่เป็นเวลาที่เราคิดว่านานพอสมควร เล่นเอาใจเราแป้วไปอยู่พักนึงเลย เพราะอยากฝึกงานที่นี่มากกกกกก แต่สุดท้ายเราจึงตัดสินใจลองยื่นสมัครไปอีกหนึ่งที่นั่นก็คือที่หอศิลป์ ซึ่งคราวนี้เราก็ไม่ต้องรอนานเมื่อมีเมลตอบกลับมาไวมาก และทำให้เราประหลาดใจมาก เพราะเนื้อความในเมลไม่ใช่การคอนเฟิร์มว่าจะรับเราเข้าฝึกงาน แต่กลับเป็นคำถามหนึ่งว่า "งานกราฟิกน่ารักดี ถ้าฝึกงานกราฟิกที่ไม่เกี่ยวกับเด็กได้มั้ยคะ เผื่อกราฟิกหอศิลป์จะรับเด็กฝึกงาน" และจากประโยคนี้นี่เองที่ทำเราสตั๊นไป 3 วิ แต่ความกลัวว่าจะไม่มีที่ฝึกงานจึงทำให้เรารีบเมลตอบกลับไปว่า "ได้ค่ะ" ทันที ทั้งๆ ที่เคยบอกตัวเองแล้วว่าไม่อยากฝึกงานทางสายนี้
และแล้ว...ไม่ชอบอะไร มักได้อย่างนั้นก็ได้เกิดขึ้นกับตัวของเราแล้วล่ะ55555 เพราะทางหอศิลป์ได้ตอบรับเราเข้าฝึกงานแล้ว ณ ตอนนั้นคือน้ำตาไหลพรากไม่หยุดเลยจ้าาา แต่น้ำตาไม่ได้ไหลเพราะดีใจเท่าไรหรอกนะ มันไหลเพราะได้ฝึกงานทางด้านที่ไม่ถนัดต่างหาก ฮือ~~~
สุดท้ายด้วยแรงยุจากแม่และเพื่อน ๆ ก็ทำให้เราตัดสินใจว่าจะลองออกจาก comfort zone ของตัวเองดูสักครั้ง เพราะแม่เคยบอกเราว่าบางทีการทำในสิ่งที่ไม่ถนัด ก็มีข้อดีตรงที่จะทำให้เรามีทักษะและท้าทายตัวเองมากขึ้น ทั้งยังดูน่าสนุกอีกด้วย ซึ่งเราก็หวังว่าการฝึกงานครั้งนี้จะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และหวังว่าการได้เผชิญหน้ากับอะไรใหม่ๆ จะท้าทายและน่าสนุกอย่างที่แม่ได้บอกไว้ ซึ่งเราจะสามารถไปได้รอดจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายหรือไม่ก็คงต้องลองพยายามดูสักตั้งแล้วล่ะ สู้ๆนะตัวเรา!!!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in