เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[SF] The Sun | NOMINPrimroseYellow
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน 2/3
  • ***คำเตือน เนื้อหาดังต่อไปนี้มีความรุนแรงทางเพศและการทารุณกรรมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน จะมีทั้งการคุกคาม เลือดหากไม่สามารถรับเนื้อหาดังกล่าวได้กรุณากดปิดบทความค่ะ***

     

    Title : The Sun

    Genre : Fantasy

    Rate : PG-15

    Couple : Jenox Jaemin

    Part : 2/3

    Hash tag : #sunnomin

     

     

     

     

    เส้นทางตรงทุกข้าวโพดทอดยาวสุดลูกหูลูกตาเด็กหนุ่มใช้มือแหวกทางต้นข้าวโพดที่สูงเลยศีรษะไปมากเพื่อให้ง่ายต่อการวิ่งเสียงหอบหายใจดังสลับกับเสียงฝีเท้าที่ดังสม่ำเสมอขายาวสับกันเป็นจังหวะเพื่อให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่จุด ใบหน้าแดงก่ำมีเม็ดเหงื่อเกาะพราวอยู่เต็มไปหมดเมื่อวิ่งมาจนสุดไร่เขาก็พบกับกระท่อมหลังเล็ก สีหน้าที่หวาดกลัวในตอนแรกเริ่มคลายลงแจมินนั่งพิงกำแพงอยู่ด้านนอกเพื่อรอเจโน่

     

     

    ด้วยความร้อนใจเขายกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูบ่อยครั้งกว่าสองชั่วโมงแล้วที่เจโน่ยังไม่โผล่มาแม้แต่เงาคนที่รออยู่ทั้งเป็นห่วงทั้งกังวลใจกลัวอีกฝ่ายจะเป็นอันตรายสายตาที่เลื่อนลอยมองท้องฟ้ากลับต้องเปลี่ยนมาจ้องที่พุ่มไม้ใกล้ ๆ แทนเสียงของความเคลื่อนไหวดึงความสนใจให้เขาจ้องสิ่งนั้นอยู่นานหลายนาทีใจก็ภาวนาว่าให้เป็นเจโน่หรือถ้าไม่ใช่อย่างน้อยก็ขอให้เป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ ก็พอแต่ดูเหมือนสิ่งที่เรากลัวมักจะรู้เวลาปรากฏตัวเสมอ

     

     

    อสูรกายขนาดยักษ์โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ มันค่อย ๆขยายตัวใหญ่ขึ้นจนสามารถบดบังแสงจากดวงจันทร์ ความมืดคืบคลานเข้ามาจนแทบสติแตกความกลัวเริ่มกัดกินจิตใจ ก็อย่างที่ปีศาจสาวได้พูดไว้ว่าพลังของพวกเขายังไม่แกร่งพอที่จะสู้กับพวกที่สะสมวิชามารมานับพันปีได้

     

     

    แจมินมองซ้ายขวาเพื่อหาทางวิ่ง แต่กว่าเขาจะตัดสินใจได้ตัวของเขาก็ถูกจับเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะยกขึ้นลอยเหนือพื้นเขาพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดออกมาแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นแค่ไหนก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงบีบอัดเท่านั้นอสูรกายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขยะแขยงแสยะยิ้มจากนั้นมันก็โยนเขาขึ้นไปในอากาศแล้วใช้กรงเล็บอันแหลมคมตะปบเข้าที่กลางหน้าอกทันที

     

     

    แจมินตกลงมาบนพื้นดิน แรงกระแทกทำให้เขาต้องนิ่วหน้าเลือดสีแดงสดไหลออกมาไม่ขาดสายเขายกฝ่ามือขึ้นมาไว้เหนือแผลที่หน้าอกเพื่อทำการรักษาด้วยพลังเวทแต่ก็ไม่ทันที่จะได้ทำเขาก็ถูกอสูรกายตะปบเข้าที่หน้าอกซ้ำรอยแผลเดิมจนมันเปิดกว้างออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่กำลังเต้นรัวอยู่

     

     

    “พลังเวทแห่งการรักษางั้นเหรอ น่าสนใจดีนี่ข้าขอรับพลังเจ้าไปแล้วกันนะ”

     

     

    แจมินถูกสอนมาเสมอว่าสิ่งที่พวกเขามีมันคือพรสวรรค์หาใช่คำสาปไม่แม้มันจะสำคัญยิ่งกว่าชีวิตก็ตามเขาก็ไม่เคยมองว่ามันมีประโยชน์จนกระทั่งเขาได้เจอเข้ากับเจโน่เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่ปรากฏตัวในบ้านเด็กกำพร้าหลังจากที่เขามาถึงได้เพียงแค่ห้าวันแจมินถูกชะตากับเจโน่และแน่นอนว่าอีกฝ่ายก็คิดแบบนั้นเช่นกัน

     

     

    พวกเขาวาดฝันว่าจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปมีกันและกันจนถึงบั้นปลายชีวิต ต่างคนต่างรู้ว่ามันไม่ง่าย พวกเขาถูกองค์กรขอซื้อตัวมาเพื่อร่วมงานเก็บกวาดขยะแรกเริ่มก็เข้าแค่ว่าเป็นคนงานเก็บขยะทั่วไปแต่แท้จริงแล้วพวกเขาต้องใช้พลังที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเพื่อทำให้บ้านเมืองนี้มันเข้าที่เข้าทางใครต่อใครต่างมองว่าพวกเขาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยแต่ใครจะสนเพราะในเมื่อทำงานนี้แล้วแลกกับอิสรภาพพวกเขาก็ยินดี

     

     

    ความทรงจำต่าง ๆ มักย้อนมาให้นึกถึงในวินาทีใกล้ตายเสมอแจมินไม่มีทางสู้ได้และเขาก็รู้ชะตากรรมดีว่าคงไม่มีใครมาช่วยเขาได้ทันเวลา แต่ก่อนที่มันจะควักหัวใจเขาออกไปใครบางคนก็มาทันเวลาพอดีเจโน่ใช้ดาบสองเล่มปักเข้าไปที่กลางกระดูกสันหลังก่อนจะดึงออกแล้วแทงมันเข้าไปที่ขมับทั้งสองข้างจนทะลุไปอีกฝั่งความโกรธมักทำให้คนเราน่ากลัวเสมอและสายตาของเจโน่ในตอนนี้ก็ไม่เหมือนกับสายตาที่เขาใช้มองแจมินเลยสักนิด

     

     

    อาการโกรธจนตัวสั่นเป็นอย่างไรวันนี้เจ้าตัวรู้แล้วเขาดึงดาบออกอีกครั้งแล้วปักมันลงไปที่ข้อเท้าของอสูรกายทะลุไปถึงพื้นดินเพื่อให้มันเป็นตัวยึดเหนี่ยวเอาไว้สายฝนโปรยปรายลงมาชำระล้างเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยรอยเลือด แจมินรีบรักษาตัวเองก่อนจะกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น

     

     

    “ขอโทษที่มาช้า” มือหนาลูบกลุ่มผมอย่างห่วงหา

     

    “ไม่หรอก ยังไม่ช้า”

     

    “แต่นายเจ็บ”

     

    “ฉันรักษาได้ นายล่ะเป็นอะไรไหม”

     

    “ไม่” พวกเขากอดกันอยู่นานกลางสายฝน  “ฝนน่าจะตกอีกนานเข้าไปข้างในเถอะ”

     

     

    ทั้งสองคนเข้ามาหลบฝนภายในกระท่อมหลังเล็กที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยแอบหนีจากบ้านเด็กกำพร้ามานั่งเล่นกันแต่ตอนนั้นมันคือกลางวันส่วนนี่น่ะกลางคืนแถมบรรยากาศยังชวนให้หัวใจมันเต้นแรงเล่นๆ แม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญมาหมาด ๆ แต่ร่างกายมันห้ามกันได้ที่ไหน

     

     

    “เสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว ถอดเอาไว้แล้วกันเดี๋ยวไม่สบาย”  ข้ออ้างโง่ ๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ทั้ง ๆที่รู้ว่าแจมินมีพลังแห่งการรักษาหากไม่สบายเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้หายได้

     

    “อื้ม” พยักหน้ารับทั้ง ๆ รู้ว่ามันก็แค่การทำให้ตัวเองไม่มีเสื้อผ้าใส่

     

     

    บนโซฟาตัวยาวมีสองร่างเปลือยเปล่าผลัดกันมอบสัมผัสเปียกชื้นอยู่ไม่ยอมหยุดลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดกันราวกับโหยหาความหวานมือหนาขยำส่วนนุ่มหยุนด้านล่างแจมินที่นั่งบนตักเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกเพื่อตักตวงเอาอากาศเข้าผอดจนเต็มจากนั้นก็ประกบจูบกันอีกครั้งอย่างเร่าร้อน

     

     

    ของเหลวใสไหลซึมออกมาตามมุมปากโดยที่ไม่มีใครสนใจที่จะเช็ดมันแม้แต่น้อยเจโน่จับเอวบางอีกฝ่ายให้ยกขึ้นแล้วจับแท่งร้อนของตัวเองจ่อที่ปากทางแจมินกดลงเล็กน้อยเพื่อให้แตะกันก่อนจะขยับเพื่อให้สองสิ่งได้เสียดสีกันเจนโน่กันกรามแน่น เขาออกแรงกดอีกง่ายลงมาเพื่อสอดใส่ทิ้งคามันเอาไว้แบบนั้นครู่นึงก่อนจะค่อย ๆ ขยับและเพิ่งจังหวะเข้าไป

     

     

    มือบางลูบไล้ยอดอกของตัวเองส่วนมืออีกข้างก็จับไหล่อีกฝ่ายเอาไว้แน่นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวคนด้านบนขยับสะโพกเป็นจังหวะที่ตนพอใจก่อนจะปรายตามองคนด้านล่างที่มีเพียงเสียงหายใจออกมาเบาๆ เท่านั้น มือบางลูบไปตามสันกรามของเจโน่ก่อนจะประคองมันไว้แล้วมอบจูบแสนซุกซนไปแหย่เสือ

     

     

    เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นเมื่อเจโน่เป็นคนคุมจังหวะให้มันเร่าร้อนมากกว่าเดิมเสียงครางต่ำหลุดออกมาจากในลำคอของแจมิน พวกเขามอบสัมผัสให้กันอยู่นานจนกระทั่งร่างกายกระตุกเกร็งน้ำสีขาวขุ่นถูกปล่อยใส่ภายในของอีกฝ่ายสายตาหวานเยิ้มของแจมินยิ่งยั่วให้เจโน่มีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้งและแล้วก็เปลี่ยนคืนที่แสนหนาวเหน็บจากสายฝนให้กลายเป็นคืนที่ร้อนแรงอีกครั้งจวบจนฟ้าสาง

     

     

    2/3

    #sunnomin

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in