Code geass เป็นอนิเมะที่เราเคยเห็นผ่านตาบ่อยมากในสมัยเด็ก แต่ว่าด้วยความที่ไม่เข้าใจบริบทของเนื้อเรื่องเราจึงไม่เคยดูจนจบเลยสักครั้ง
แต่พอรู้สึกว่าตัวเองอายุเยอะขึ้น ก็อยากจะเริ่มกลับไปดูใหม่อีกรอบ แล้วก็พบว่าอนิเมะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องราวของการต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั่วๆไป แต่เป็นเรื่องราวการต่อสู้อันแสนยิ่งใหญ่ของเด็กหนุ่มที่อยากจะเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อคนที่ตัวเองรักต่างหาก
Code geass มีเวอร์ชั่น TV Series ทั้งหมด 2 ซีซั่น ซีซันละ 25 ตอน ดูกันจนตาแฉะ
มี The movie อีกมากมายก่ายกองที่ทำต่อจากภาคหลัก โดยหากอยากดูให้เริ่มจากเดอะมูฟวี่สามภาค+ภาคบทสรุป ซึ่งเป็นเรื่องราวของโลกคู่ขนานที่แตกต่างจากภาคหลัก
1. Code Geass: Hangyaku no Lelouch I – Koudou แต่ไม่ต้องดูก็ได้ เพราะเดอะมูฟวี่นี้แค่เอาตอนของทีวีซีรี่ส์ของภาคแรกมาสรุปรวม
2. Code Geass: Hangyaku no Lelouch II – Handou ภาคนี้ก็ควรดู เพราะว่าฉากที่เพิ่มเติมมาจากทีวีซีรี่ส์ทำให้เนื้อเรื่องเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
3. Code Geass: Hangyaku no Lelouch III – Oudou ภาคนี้ควรดูอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นการปูเนื้อเรื่องไปสู่จุดเริ่มต้นของเดอะมูฟวี่ภาค Code Geass: Lelouch of the Re;surrection การคืนชีพของลูลูช
4. Code Geass: Lelouch of the Re;surrection การคืนชีพของลูลูช ก็ตรงตามชื่อเรื่องเลย (หากดูภาคหลักจนจบก็จะเข้าใจ) ถือว่าเป็นแฟนเซอร์วิสของการครบรอบ 10 ปีก็ว่าได้
และภาคเสริมอีกมากมาย เช่น
Code Geass: Boukoku no Akito 1-6 เรื่องราวของตัวละครใหม่ อากิโตะ ที่มีไทม์ไลน์ในช่วงระหว่างภาคหลักทั้งสองภาค รวมถึง OVA อื่นๆที่ขอไม่พูดถึง
เนื้อเรื่องของ Code geass เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวบริททาเนียที่เป็นเชื้อสายของราชวงศ์นามลูลูช วี บริททาเนีย ที่ต้องการแก้แค้นและนำโลกอันแสนสงบสุขมาให้น้องสาวของตนเอง นานาลี่ โดยใช้พลังกีอัส (Geass) ที่ได้รับมาจากหญิงสาวลึกลับมาเป็นเครื่องมือในการบรรลุไปถึงจุดประสงค์ที่ตัวเองต้องการ เป็นอนิเมะออริจินอลจากค่าย Sunrise ที่สร้างอนิเมะกันดั้มอันเลืองชื่อ ออกแบบตัวละครโดย CLAMP (เราชอบการออกแบบตัวละครอนิเมะเรื่องนี้มาก)
Genre : สงคราม แอ็คชั่น หุ่นยนต์ ไซไฟ แฟนตาซี ดราม่า โรแมนติก ประวัติศาสตร์ จิตวิทยาและปรัชญา (มันมีเยอะเหลือเกินนน)
Code geass ไม่ใช่อนิเมะแนวหุ่นยนต์และการต่อสู้แบบผิวเผิน มันแฝงไปด้วยประเด็นทางการเมืองและจิตวิทยาที่นำเสนอออกมาได้น่าสนใจและลงตัว แต่ด้วยความที่เราไม่มีความรู้ละเอียดมากขนาดนั้นจึงไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ทั้งหมด
จริงๆแล้วมีคนพูดถึงอนิเมะเรื่องนี้เยอะมาก มีทั้งคนสรุป วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆนานา เราเลยไม่อยากจะพูดถึงในจุดที่ใครหลายคนพูดถึงกันไปแล้ว ประกอบกับอนิเมะเรื่องนี้ก็เพิ่งจะฉลองครบรอบ 15 ปีไปหมาดๆ ดังนั้นหลักๆเราจะพูดถึงข้อดีข้อเสีย และวิเคราะห์ตัวละครหลักๆของเรื่องเท่านั้น แน่นอนว่ามีการพูดถึงเนื้อเรื่องในบางส่วนด้วย จึงไม่อยากเรียกว่าการรีวิวสักเท่าไหร่
ข้อดี
1. งานภาพสวยมาก สำหรับอนิเมะปี 2006 งานภาพถือว่าทำออกมาดีมาก เก็บรายละเอียดดีและยิ่งเห็นพัฒนาการของงานภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆในภาคหลังๆด้วย ทั้งฉากหลังที่อลังการ ดีไซน์หุ่นยนต์หรือตัวละครที่แปลกตา แต่เป็นเอกลักษณ์มากจริงๆ
2. การลำดับเนื้อเรื่อง ไม่ลำดับเนื้อเรื่องให้เข้าใจยาก กระชับรวดเร็ว มีการตัดสลับฉากเพื่อให้เนื้อเรื่องมีความตื่นเต้นน่าสนใจ เช่น เล่าสลับฉากระหว่างฝั่งบริททาเนียกับฝั่งของลูลูช แล้วสลับไปฝั่งของโรงเรียนอีกทีเพื่อตัดอารมณ์ นอกจากนี้ยังเกลี่ยบทให้ตัวละครได้ดีพอสมควร เป็นอนิเมะที่ใช้ตัวละครคุ้มค่ามาก อาจจะมีติดนิดหน่อยตรงที่บางฉากดำเนินเรื่องเร็วเกินจนตามไม่ทัน
3. คาแรคเตอร์ของตัวละคร ตัวละครในอนิเมะเรื่องนี้ต่างก็มีที่มาที่ไปและมีพัฒนาการกันทั้งนั้น ตัวละครทุกตัวมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ไม่มีใครดีและชั่วทั้งหมด ตัวละครจึงออกมามีมิติและทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วม
4. เนื้อเรื่อง จุดนี้พลาดไม่ได้เลย เป็นอนิเมะออริจินอลที่ทำเนื้อเรื่องออกมาดีมาก โดยเฉพาะตอนจบที่ตราตรึงสุดๆ หลายครั้งที่เนื้อเรื่องมีจุดหักมุมและจุดที่ทำให้เรารู้สึกคาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ สเกลเนื้อเรื่องอลังการมาก เพราะเป็นเรื่องของสงคราม กลยุทธ์และเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่างๆ ซึ่งทั้งหมดผสานรวมกันได้ค่อนข้างลงตัว แต่ว่าก็มีจุดที่บกพร่องอยู่บ้างเหมือนกัน
5. เพลงประกอบ อันนี้เราชอบเป็นการส่วนตัวเลย แต่ว่าทุกเพลงประกอบดีหมด ถึงเพลง Opening 2 ของภาคแรกจะแค่เอาฉากของ op แรกมากรอกลับหลังเท่านั้นเอง555 ไม่เปลืองงบดี
6. คู่ชิปเยอะมาก ถ้าใครชอบความโรแมนติก อยากจะชิปลูลูชกัับสาวๆคนไหนก็เลือกเลย คู่ชิปอื่นก็มีอีกมากมาย อยากจะชิปแบบชาย/ชายก็ได้ หรือไม่ชิปใครเลยก็สบายใจ เน้นไปที่เนื้อเรื่องก็พอ แต่เรื่องนี้ถือว่าเซอร์วิสได้พอสมควร
ข้อเสีย
1. ช่องโหว่หรือจุดบอดของเนื้อเรื่อง ถึงแม้เราจะบอกว่าเนื้อเรื่องโดยรวมของ Code geass ดีมาก แต่ว่าก็มีจุดบกพร่องด้านรายละเอียดบางจุดที่สังเกตได้ในภาคที่สอง ฉากที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีช่องโหว่คือหลังจากที่ลูลูชเสียภาคีอัศวินดำให้กับชไนเซลไปแล้ว แต่ภายในเวลาอันสั้น เขากลับสามารถไปดึงเอากองกำลังมาเอาชนะทัพของชาร์ลสได้อย่างไรด้วยตัวคนเดียว มันรวดเร็วเกินจนรู้สึกเอะใจไม่ได้ และฉากที่อธิบายถึงการสร้างโลกใหม่ของชาร์ลสที่ชวนงงสุดๆ เพราะขาดรายละเอียดในหลายๆส่วนเนื่องด้วยเวลาจำกัดต่อตอน
2. ปมที่ยังไม่คลี่คลาย เรื่องต้นกำเนิดของกีอัส เงื่อนไขในการได้รับพลังโค้ดหรือปมตัวละครบางตัวที่ไม่ได้การเปิดเผยอย่างชัดเจน เช่น คาเรนหรือเรื่องชื่อจริงของ C.C. ซึ่งมองในอีกแง่หนึ่งผู้กำกับอาจจะจงใจไม่เปิดเผยข้อมูลตรงส่วนนี้ก็เป็นได้
วิเคราะห์ตัวละครหลัก+สปอยเนื้อเรื่องแบบเข้มข้น
***ยังไม่ได้ดูควรข้าม
ลูลูช วี บริททาเนีย หรือ ลูลูช แลมเพอร์รูจ
แกงลู่โดยการเลือกรูปที่หน้าตาดูชั่วร้ายมา555
เป็นรัชทายาทลำดับที่ 11 ของอาณาจักรบริททาเนีย เป็นคนฉลาดหลักแหลม ภาวะความเป็นผู้นำสูง เจ้าเล่ห์และรักน้องสาวยิ่งชีพ (ซิสค่อนนี่เอง555) ตัวตนที่ลูลูชแสดงออกมีความหลากหลายมาก ทั้งด้านที่เขาปฏิบัติกับน้องสาวอย่างอ่อนโยน ด้านที่เขาเป็นซีโร่ ผู้สวมหน้ากากเพื่อผดุงความยุติธรรมให้แก่ชาวญี่ปุ่น และด้านที่เขาเป็นจักรพรรดิแห่งบริททาเนียผู้ชั่วร้าย หากจะถามหาว่าด้านไหนกันแน่ที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา ลองคิดอีกด้านดูว่ามนุษย์ทุกคนต่างก็มีบุคลิกที่หลากหลาย ปฏิบัติตัวต่างกันไปตามหน้าที่ สถานการณ์ ชนชั้นทางสังคมและอื่นๆ ดังนั้นตัวตนทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นการแสดงออกของลูลูชเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน มนุษย์ก็ล้วนแต่มีความดีและชั่วอยู่ในตัว ลูลูชจึงเป็นตัวละครที่ดูมีมิติอย่างมาก เขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อน้องสาวของตัวเอง แม้กระทั่งโกหก หลอกใช้และเข่นฆ่าผู้คนมากมาย อีกสิ่งหนึ่งขับเคลื่อนลูลูชให้เดินหน้าต่อไปคือความแค้น เขาต้องการรู้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของแม่ของเขา และเขายังรู้สึกโกรธแค้นพ่อของตัวเอง หรือจักรพรรดิบริททาเนียที่ไม่สนใจใยดีแม่ของเขา ทั้งยังนำเขากับน้องสาวไปทิ้งไว้ที่ญี่ปุ่นในฐานะเครื่องมือทางการทูตอีก
รูปของจักรพรรดิชาร์ลสและมารีแอนน์ พ่อแม่ของลูลูชและนานาลี่
จะเรียกลูลูชว่าตัวร้ายก็ไม่แปลก แม้ว่าเขาจะเป็นตัวละครหลัักของอนิเมะเรื่องนี้ แต่ในแง่นึงเขาก็เป็นตัวร้ายที่มีคุณธรรมเป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาทำจะนำไปสู่การนองเลือดก็ตาม คุณธรรมในแบบของลูลูชคือการทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก (ซึ่งฟังดูเห็นแก่ตัวมาก เพราะมันหมายความว่าเราสามารถทำร้ายใครก็ได้ที่ไม่ใช่คนที่เรารัก แต่มนุษย์เราก็มีทั้งด้านดีและชั่วอยู่ในตัวเสมอ) การกระทำของเขาก็ทำร้ายผู้คนมากมาย รวมถึงการทำลายอาณาจักรบริททาเนียของผู้เป็นพ่อด้วย แนวคิดที่ทำลายทุกอย่างและสร้างมันขึ้นมาใหม่ทำให้สุซาคุไม่เห็นด้วยอย่างมาก และแน่นอนว่านานาลี่เองก็ไม่เห็นด้วย เพราะมันเป็นการกระทำที่ไม่ได้ถามความสมัครใจของเธอเลย ฉากนี้แสดงให้เห็นว่าลูลูชเป็นพวกเผด็จการ ไหนจะการที่ใช้กีอัสสั่งคนให้ทำตามที่ตัวเองต้องการอีก
ในโลกที่เต็มไปด้วยสงคราม ความขัดแย้งและการกดขี่ เราค้นพบว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้วิธีสันติและถูกต้อง (เฉพาะในโลกของอนิเมะเรื่องนี้เท่านั้นนะ) พวกคนที่มีอำนาจและชั่วร้ายต่างก็เล่นนอกกฎกติกากันทั้งนั้น ลูลูชจึงเชื่อว่าโลกที่ความโหดร้ายไม่มีทางสิ้นสุดลงง่ายๆ การต่อต้านขัดขืนย่อมดีกว่าการยอมจำนนอยู่อย่างสงบเป็นไหนๆ (ลูลูชมักจะพูดว่าเขามองหาอนาคตอยู่เสมอ อาจเรียกได้ว่าลูลูชเป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากเปลี่ยนแปลงโลกให้หลุดพ้นจากสงคราม) นี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมลูลูชถึงเลือกใช้วิธีการที่โหดร้ายเพื่อให้เป้าหมายของตัวเองสำเร็จ ให้อารมณ์ประมาณใช้ความชั่วกำจัดความชั่วด้วยกันเอง ประกอบกับลูลูชเป็นพวกใช้วิธีที่ตรงไปตรงมา เด็ดขาดและหลักแหลมด้วย
การต่อต้านของลูลูชทำให้นึกถึงประโยคที่เขาเคยพูดไว้ว่า คนที่จะยิงได้ คือคนที่เตรียมใจถูกยิงกลับเท่านั้น ซึ่งยังแสดงให้เห็นถึงการเตรียมใจมาอย่างดีแล้วของเขา
ความจริงแล้วมีหลายเหตุการณ์ที่ปูไปสู่ตอนจบของภาคสุดท้ายอย่างแนบเนียน ลูลูชเลือกที่จะรักษาสัญญาที่ตัวเองให้กับสุซาคุซึ่งมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ตอนคุยกันที่ศาลเจ้า นั่นก็คือเปลี่ยนคำโกหกของตัวเองให้กลายเป็นความจริง ทำให้ซีโร่เป็นสัญลักษณ์ของโลกใหม่ที่สงบสุข โดยการวางแผนเอาตัวตนลูลูช วี บริิททาเนียมาสร้างให้เป็นราชาผู้ชั่วร้ายที่รวบรวมอำนาจทุกอย่างมาไว้ในมือ ก่อนจะตายอย่างน่าสลดโดยฝีมือของสุซาคุที่อยู่ภายใต้หน้ากากของซีโร่ เป็นการจัดฉากอันยิ่งใหญ่และถือว่าเป็นตอนจบที่ตราตรึงมาก (และทำให้ลูลูชกลายเป็นพระเอกแบบเต็มตัวสักที555) และบางทีลูลูชอาจจะต้องการชดใช้บาปที่ตัวเองเคยก่อไว้ทั้งหมดถึงได้เริ่มแผนการเช่นนี้ขึ้น
All hail Lelouch จักรพรรดิบริททาเนียลำดับที่ 99
* ตอนแรกก็เกิดทฤษฎีกันมากมายเลยทีเดียวว่าลูลูชตายจริงหรือไม่ แต่ในที่สุดผู้กำกับก็ออกมายืนยันแล้วว่าตายจริงๆในภาคหลัก
บางทีเนื้อเรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าหากว่าพ่อแม่ของลูลูชไม่ใช้ลูกของตัวเองเป็นเครื่องมือในการไขว่คว้าสิ่งที่ตนเองต้องการ การกระทำของลูลูชที่ผ่านมาจึงมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากครอบครัวที่ล้มเหลว
คุรุกิ สุซาคุ
ชาวบริททาเนียผู้ทรงเกียรติ หรือลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (Area 11) เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กของลูลูชและนานาลี่ เป็นคนที่อ่อนโยน รักความถูกต้องและมีปมในอดีตอันใหญ่หลวงที่เป็นเสมือนตราบาปติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ปมที่ว่านี้เองทำให้เขาสมัครเข้ามาเป็นทหารของบริททาเนีย สุซาคุมีความคิดว่าเราสามารถเปลี่ยนระบบที่เลวร้ายจากภายในได้ เขาต้องการไต่เต้าตำแหน่งให้สูงขึ้นเรื่อยๆและเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นโดยไม่ใช้ความรุนแรง แต่แค่เริ่มเดินก้าวแรกก็พลาดเสียแล้ว เพราะว่าในฐานะที่เป็นทหารของบริททาเนีย เขาจะหลีกเลี่ยงการฆ่าฟันได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็เลือกที่จะเดินเส้นทางตรงกันข้ามกับลูลูชมาตลอด สุซาคุยังเป็นคนที่มีพละกำลังแข็งแกร่งมาก (ถึงขนาดวิ่งหลบกระสุนได้เลยแหละ555) ซึ่งตรงข้ามกับลูลูชที่ผอมแห้งแรงน้อยแต่ฉลาดเป็นกรด จึงไม่แปลกใจว่าหากสองคนนี้ร่วมมือกันจะแข็งแกร่งจนยากที่จะต้านทาน
ตอนที่สุซาคุอายุยังน้อย เขาเป็นคนลงมือฆ่าพ่อตัวเองเพราะต้องการหยุดยั้งความรุนแรง เขาไม่อยากให้พ่อต่อต้านบริิททาเนียซึ่งเป็นผลทำให้ประชาชนจำนวนมากล้มตาย ด้วยเหตุนี้ญี่ปุ่นจึงตกเป็นอาณานิคมของบริททาเนีย สิ่งนี้กลายเป็นตราบาปในชีวิตของเขา เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีความคิดอยากจะสละชีวิตตัวเองมาตลอด นอกจากนี้สุซาคุไม่ต้องการเดินตามเส้นทางของพ่อที่เต็มไปด้วยสงคราม เขาจึงเลือกเข้ามาเป็นทหารของบริททาเนีย แล้วฟ้าก็ประทานโอกาสให้เขาได้เป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงยูเฟรเมีย องค์หญิงผู้อ่อนโยนที่ต้องการปลดปล่อยชาวอีเลฟเว่น (ญี่ปุ่น) แต่เธอก็ต้องมาพบกับจุดจบอันน่าเศร้าเสียก่อน เหตุการณ์นี้ทำให้สุซาคุเข้าสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัว (เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมาก หลายฉากแสดงให้เห็นว่าสุซาคุและยูเฟรเมียต่างก็ชอบกันและกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันซะงั้น) สุซาคุเริ่มทำอะไรก็ได้ตามใจของตนเองโดยไม่สนความถูกผิดอีกแล้ว ประกอบกับเขาต้องการจะลบล้างความผิดที่ตนเองเคยก่อไว้ในอดีตด้วย และความสัมพันธ์ระหว่างลูลูชและสุซาคุก็มาถึงจุดแตกหักในที่สุด
รูปของสุซาคุและองค์หญิงยูเฟรเมีย
เราคิดว่าสุซาคุในช่วงแรกป็นคนที่อ่อนต่อโลกมาก ด้วยความที่เป็นคนอ่อนโยน ไม่ฝักใฝ่ความรุนแรง(แต่ดันสู้เก่งจัดๆ) เขาจึงทัศนคติแบบพระเอกในอนิเมะหลายเรื่อง เขาเหมือนจะไม่ได้เข้าใจเลยว่าผู้คนมากมายต่างก็ถูกกดขี่อย่างหนักในฐานะผู้แพ้สงคราม ไม่มีที่ไหนที่เรียกว่าอิสรภาพ แนวคิดของเขายังตรงกันข้ามกับคาเรนด้วย ทั้งสองจึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ต้น
แต่สุดท้ายแล้วสุซาคุก็เข้าใจถึงเหตุผลที่แท้จริงของลูลูชจนได้ สุซาคุเองก็ขาดกำลังสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงโลก ไม่มีผู้นำคนไหนที่จะช่วยเขาสร้างโลกแบบที่ยูเฟรเมียต้องการ ในที่สุดทั้งสองคนก็จับมือกันทำตามแผนที่วางไว้ คือสร้างโลกอนาคตอันแสนสงบสุขขึ้นมา
องค์จักรพรรดิลูลูชและสุซาคุในระหว่างที่กำลังเริ่มแผนการ Zero Requiem
C.C. (ซีทู)
แม่มดผมเขียวสุดลึกลับที่อายุเกินพันปีแน่นอน ในอนิเมะไม่ได้บอกที่มาที่ไปอย่างชัดเจนเท่าไหร่ แต่ว่าได้รับพลังโค้ดมาจากซิสเตอร์อีกที ทำให้เป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย มีพลังในการมอบกีอัสให้แก่คนอื่น มีความผูกพันธ์กับลูลูชในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด จริงๆแล้วการที่ซีทูมอบพลังกีอัสให้คนอื่นเป็นเพราะว่าเธอต้องการให้มีคนมาจากปลดปล่อยเธอจากความเป็นอมตะ แม้ว่าเหตุผลลึกๆที่แท้จริงคือเธอคือต้องการหาคนที่รักเธอจากใจจริง เธอจึงทำพันธะสัญญากับคนมากมาย จนกระทั่งเธอมาเจอลูลูช ซีทูมีพัฒนาการที่น่าสนใจในด้านอารมณ์มากกว่าตัวละครอื่นๆ จากตอนต้นเรื่องที่จะเห็นว่าเธอเป็นคนเย็นชา ดูไร้อารมณ์ ราวกับว่าต้องการรักษาระยะห่างกับคนอื่น ทำให้เธอไม่ยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา แต่คนที่เธอพยายามเข้าหาจริงๆก็คือลูลูช ทั้งช่วยปลอบใจ หรือช่วยให้แผนการของลูลูชสำเร็จทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก้ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลึกๆเธอต้องการความรักจากผู้อื่น แม้ว่าในอนิเมะจะไม่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างลูลูชและซีทูก็มีความพิเศษกว่าใคร (แม้ว่าจะมีเรือมากมายให้เลือก555) ความผูกพันธ์นี้เองที่ทำให้ซีทูแสดงอารมณ์อ่อนไหวออกมา ทั้งยิ้ม หัวเราะหรือมีน้ำตา ขัดกับคำพูดของตัวเองที่เคยบอกว่าละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปจนหมดแล้ว นอกจากการได้ใกล้ชิดกับมนุษย์คนอื่นๆหรือเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ของเธอขึ้นมาเช่นกัน ทั้งความรู้สึกไม่อยากตาย อ่อนแอหรือโกรธ
เราจะสังเกตเห็นว่าตัวละครทั้งหมดที่ยกมาต่างก็มีปมภายในจิตใจกันทั้งนั้น และแต่ละคนก็มีวิธีแสดงออกและรับมือกับปมชีวิตต่างกันออกไป
คำถามชวนให้คิด - ในสงคราม อะไรคือความถูกต้องชอบธรรมกันแน่ หรือผ่ายที่ชนะเท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด หรือถ้าไม่ใช่แล้ว...ความถูกต้องจะอยู่ตรงไหน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกในอุดมคติของชาร์ลส
โลกของชาร์ลส ซี บริททาเนีย หรือจักรพรรดิแห่งบริททาเนียฝันถึงเป็นโลกที่ไร้การโกหกโดยสิ้นเชิง โลกที่จิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคนจะมาหลอมรวมกัน เติมเต็มกันและกัน และเชื่อมต่อกันจนไม่มีช่องว่างใดๆ ดังนั้นมนุษย์จึงไม่สามารถโกหกกันได้ ทุกอย่างเปิดเผยไม่มีความลับ ชาร์ลสพยายามค้นหาวิหารโบราณซึ่งเป็นประตูเข้าไปสู่โลกของซี หรือที่เรียกกันว่าพระเจ้า ดินแดนที่ทุกวิญญาณและทุกความปรารถนามารวมกัน ให้ความรู้สึกเหมือนดินแดนที่อยู่กึ่งกลางระหวางความเป็นความตาย ไม่รู้กฏเกณฑ์ในการทำงานหรือต้นกำเนิด แต่ว่าหากจะเปลี่ยนแปลงให้เป็นในแบบที่ชาร์ลสต้องการจะต้องใช้โค้ด 2 อัน และดาบแห่งอาคาช่ามาทำลายโลกแห่งซี ซึ่งเรียกการกระทำแบบนี้ว่า แร็คนาร็อค เมื่อโลกแห่งซีถูกทำลาย ก็จะไม่มีการมีตัวตนอยู่ของมนุษย์แบบกายเนื้อ ไม่มีการเกิดและการตาย ทุกสิ่งหยุดนิ่ง (ถ้าใครเคยดูเอวานเกเลี่ยนก็จะเข้าใจ) ชาร์ลสไม่ได้สนใจสงคราม หรือเหตุการณ์ในโลกปัจจุบันเลย เขาสนใจเพียงแค่ชีวิตในอดีตและความต้องการของตัวเอง ลูลูชที่ไม่เห็นด้วยจึงออกคำสั่งให้โลกแห่งซีปฏิเสธพ่อแม่ของตัวเอง แต่ยังไงก็ตามอนิเมะก็ไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับโลกของซีอย่างชัดเจน
สรุป
อนิเมะเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าที่คนดูคิดไว้ แนะนำว่าควรจะดูตอนที่มีวุฒิภาวะมากพอแล้ว เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องจริงๆ ถ้าดูอนิเมะทั้งหมดจนจบก็จะรู้ว่าอนิเมะเรื่องนี้ใส่อะไรหลายอย่างลงไป ทั้งประวัติศาสตร์ การเมือง วิทยาศาสตร์ กลยุทธ์ด้านสงคราม จิตวิทยา ทำให้เนื้อเรื่องครบรสหลากอารมณ์มาก อนิเมะเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของสงคราม ความโลภและการลุ่มหลงในอำนาจ ความรัก ความปรารถนาของผู้คนที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ โดยนำเสนอมารูปแบบของโลกอนาคตที่ก้าวหน้าแค่ในด้านของการทหาร แต่จิตใจของผู้คนยังคงฝักใฝ่แต่การแย่งชิงอำนาจจนทำให้โลกสับสนวุ่นวาย ในช่วงปี 2000 ต้นๆถือว่าเป็นอนิเมะคุณภาพเลยทีเดียว (ถึงเนื้อเรื่องจะแอบเผานิดๆ) เป็นอนิเมะที่แนะนำให้ดูสักครั้งจริงๆหากใครยังไม่เคยดู และก็เหมาะแก่การกลับไปดูเพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม บางทีอาจจะค้นพบอะไรใหม่ๆที่ต่างไปจากเดิมก็ได้
คะแนน : 9/10 อนิเมะดีขึ้นหิ้ง ควรค่าแก่การหาดูสักครั้ง
จัดอันดับเรท : มีฉากความรุนแรง เลือดและการต่อสู้ประมาณหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับน่ากลัวมาก
แถม ฉากบางส่วนที่ชอบในอนิเมะเรื่องนี้
ฉากที่ลูลูชและสุซาคุร่วมมือกันหยุดยั้งหัวรบเฟรย่า ซึ่งเป็นระเบิดที่รุนแรงยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์เสียอีก
ลูลูชป้อนข้อมูลลงในจรวดต่อต้านหัวรบเฟรย่าให้ทันภายในเวลา 13 วินาทีก่อนการระเบิด
ส่วนสุซาคุก็ปาจรวดต่อต้านใส่เฟรย่าให้ทันภายในเวลา 0.14 วินาทีที่เหลือ
การร่วมมือกันของทั้งสองคนถือเป็นสิ่งรอคอยมานานจริงๆ
ฉากที่สุซาคุและลูลูชหันปืนใส่กันก็เป็นอีกหนึ่งฉากในตำนาน ดูแล้วลุ้นมากกก
อีกฉากที่เห็นแล้วหลุดขำออกมา คือฉากที่เจเรเมีย หรือฉายาเจ้าส้ม มาทำไร่ปลูกส้มเนี่ยแหละ เหมาะกับเจ้าตัวจริงๆ
และฉากในเดอะมูฟวี่ Code Geass: Lelouch of the Re;surrection ก็มีอีกหลายฉากเช่นกันที่ชอบมากจนแคปมาไม่หมด ใครที่ลงเรือลูลูชกับซีทูไว้คงร้องเฮกันแน่ๆ
หนึ่งในฉากเอนเครดิตที่ชวนให้ตั้งคำถามว่าลูลูชคุยกับใคร
แล้วคำว่า "The end?" ในตอนท้ายที่ทำให้คิดว่ายังมีเนื้อเรื่องต่อไปแน่นอน
แต่จะมาเมื่อไหร่ก็อีกเรื่องนึง555
ปล. เขียนนานมาก ดองไว้อีกต่างหากเพราะคิดว่าอยากเขียนเพิ่มอีกเรื่อยๆ แต่ก็ตัดใจลงสักที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in