ตอน กาลครั้งหนึ่ง... เมื่อฉันหนีออกจากบ้าน ! ( ตอนจบ )
หลังจากเหตุการณ์ที่เด็กชายร่างเล็กหรือตัวผมนั้นปั่นจักรยานจนไปสะดุดก้อนหินล้มได้รับบาดเจ็บที่ขาเข้า จนถึงขั้นต้องโบกรถขอความช่วยเหลือบนถนนเส้นใหญ่ จนกระทั่งมีคุณลุงคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาจากอีกฝั่งเเละได้แบกจักรยานของผมไป พร้อมกับพาผมข้ามถนนไปขึ้นรถกระบะคันสีแดงซีดที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยๆ
หลังจากที่ผมได้ตอบคำถามของลุงไปเเล้วว่า ...
"ไปส่งผมปากทางเข้าจังหวัดที่ไกล้ที่สุดได้ไหมครับ"
คุณลุงก็พาผมไปนั่งที่หลังรถกระบะเเล้วก็ขับยาวไปเรื่อย ๆ ในตอนนั้นผมก็ได้เเต่สังเกตุเเสงไฟรถยนต์ที่ขับตามหลังกันมาเเสงไฟรถยนต์ค่อยๆ ผ่านไปมาทีละคัน สองคัน ผมเหลือบหันไปข้างหลังค่อยๆ มองเห็นจักรยานของผมที่เป็นขูดจากการล้มก่อนหน้านี้ เเสงไฟจากรถข้างนอกที่สวนกันไปมาทำให้ผมเห็น เเม่ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นภรรยาของลุงคนที่พาผมขึ้นมาบนรถ พร้อมกับลูกของคุณลุงที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมในช่วงอายุ 10 ปี
ในใจผมตอนนี้ได้เเต่ภาวนาว่า อย่าให้พ่อกับเเม่หาเราเจอเลย เราคงจะไม่โดนลักพาตัวหรอกใช่ไหม เราจะได้ไปถึงจุดหมายอย่างที่เราคิดไว้จริงๆ ใช่ไหม ขณะที่รถกำลังเดินทางตามถนนใหญ่ ทันใดนั้นเองคุณลุงก็ได้เลี้ยวเเล่นรถเข้ามาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเเล้วก็ได้มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านไม้หลังใหญ่พอตัวมีป่าไผ่ล้อมรอบอยู่เป็นหย่อม ๆ พร้อมกับเปิดไฟที่ใต้ถุนบ้านไว้ คุณลุงได้เดินลงออกจากรถไปพร้อมกับ ภรรยาเเละลูกสาวของคุณลุง เเถมยังได้บอกกับผมว่าให้นั่งรออยู่ที่ท้ายรถก่อน
หลังจากที่คุณลุงได้ทิ้งให้ผมรออยู่ที่รถเป็นเวลานานอยู่พอสมควร เวลาก็ได้เลยผ่านจนมาถึงเวลา สองทุ่มกว่าๆ เกือบจะ สามทุ่มได้เเล้ว ในขณะเดียวกันดวงตาของผมทั้งสองดวงเริ่มจะปิดสนิทอยู่เเล้วเเต่ผมก็ยังคงฝืนไม่ให้ตัวเองหลับต่อไป จนกระทั่งคุณลุงได้เดินลงจากบ้านไม้มาคนเดียวเเล้วบอกกับผมว่า...
"จะไปไหนนะลูก เดียวลุงจะไปส่ง"
ผมก็ยังยืนยันกับคำตอบเดิมของผม คุณลุงตอบรับคำขอของผมหลังจากนั้นลุงก็ได้เปิดประตูเเล้วนั่งลงบนที่นั่งคนขับพร้อมกับสตาร์ทรถออกมาสู่ถนนเส้นหลักอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางความเงียบงันเเละอากาศที่หนาวเย็น หลังจากที่นั่งมาได้สักพัก ผมก็ได้เหลือบไปเห็นเสาไฟที่กำลังฉายเเสงให้เห็นป้ายตรงปากทางเข้าของอำเภอ วาปีปทุม
ด้วยความเป็นเด็กผมดีใจมากว่าในที่สุดผมก็ได้เข้ามาในเขตเมืองสักทีเเต่ในตอนนั้นเองก็เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดที่สุดของเด็กคนหนึ่งเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คิด ...
รถของคุณลุงยังคงขับมาเรื่อยๆ ผ่านตัวอำเภอ วาปีปทุม จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเดากันถูกเเล้ว ใช่ครับ
มันคือ สถานีตำรวจ ในหัวผมตอนนั้นคือ ทำไมต้องมาส่งที่นี่ ก็บอกคุณลุงไปแล้วนี่นา ..
ในตอนนั้นเองคุณลุงก็ลงมาจากรถเเละได้เเจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า มีเด็กหนีออกจากบ้านมา ซึ่งตัวผมในตอนนั้นไม่สามารถขัดขืนหรือทำอะไรได้ก็ต้องยอมเเต่โดยดี คุณลุงยิ้มให้ผมก่อนที่จะขึ้นรถเเล้วสตาร์ทรถขับรถหายไป ทิ้งไว้ให้ผมอยู่กับตำรวจเพียงลำพัง
ผมยังจำได้ดีว่าพี่ตำรวจคนนี้พาผมไปนั่งที่ร้านอาหารตามสั่ง พร้อมกับถามผมว่า
"กินข้าวมารึยัง ? หิวไหม ?"
ซึ่งด้วยความเป็นเด็กน้อยอายุเพียง 10 ปี ที่เป็นคนกลัวผู้ใหญ่ไปมาก ๆ ก็ได้ตอบไปด้วยความใสซื่อว่า
"ยังไม่ได้กินครับ"
หลังจากที่ตอบได้ไม่นานพี่ตำรวจคนนี้ก็ได้ขอเมนูอาหารจากป้าเจ้าของร้านมาให้ผมสั่งด้วยความหิวโหยผมจึงสั่ง ข้าวไข่เจียวหมูสับไป 1 จาน ในขณะที่ผมกำลังรับประทานข้าวไข่เจียวอย่างเอร็ดอร่อยพี่ตำรวจได้คว้ากระเป๋าของผมไปดูว่าในกระเป๋ามีอะไรบ้าง จนกระทั่งผมกินข้าวเสร็จ พี่ตำรวจก็ได้ขอเบอร์พ่อกับเเม่ของผมเพื่อที่จะติดต่อไปยังที่บ้านให้มารับตัวผมไป ด้วยความกลัวผู้ใหญ่ผมก็ยอมให้คำตอบไปเเต่โดยดีในที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไปนี่ก็เป็นเวลา สี่ทุ่มได้เเล้วผมเหลือบไปเห็นรถกระบะที่คุ้นเคยใช่เเล้วครับนั่นเป็นรถของพ่อผมที่กำลังขับมารับตัวผมกลับไปภายในใจของผมไม่รู้จะพูดอะไร ไปชั่วขณะ พี่ตำรวจเดินมาส่งผมเเละได้เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้พ่อเเม่ผมฟังเเต่ก่อนที่จะส่งตัวผมขึ้นรถ ผมยังจำประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ พี่ตำรวจได้พูดกับพ่อเเละเเม่ของผมว่า
" อย่าถามอะไร หรือต่อว่าอะไรเด็กมากนะครับ น้องกำลังช็อคอยู่ครับ"
จนในที่สุดเรื่องราวการหนีออกจากบ้านของผมก็ได้จบลงไปในที่สุด
โดยการนั่งรถกลับไปยังบ้านที่ตัวเองจากมาโดยที่ไม่ได้คุยอะไรกันกับพ่อเเม่ของผมจนสุดทาง
.........................................................................................................................................
ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด 3 ตอนที่ผ่านมานะครับ กับ
Diary's ของนายหัวฟู
ตอน กาลครั้งหนึ่ง... เมื่อฉันหนีออกจากบ้าน !
ยังไงก็ช่วยคอมเมนต์ หรือ
กดเเสดงความรู้สึกเพื่อเป็นกำลังใจให้ผม เพื่อที่ผมจะได้นำเรื่องสนุกๆ
มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังอีกกันอีกนะครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in