ตลอดเวลาที่อยู่ไต้หวันหนึ่งในความเพลิดเพลินอย่างนึงก็คือ การหันไปชื่นชมสีเขียวของต้นไม้ ทั้งจากไม้ใหญ่สองข้างทางไม้เล็กในซอกซอย เลยไปถึงไม้กระถางน้อยใหญ่หลังลูกกรงตามระเบียงคอนโดฯ อาจเพราะสนุกกับการเปรียบเทียบพรรณไม้ระหว่างของที่นี่กับของไทย และรวมไปถึงการได้เห็นต้นแปลกๆ ที่ไม่คิดว่าจะมีคนเอามาปลูกอยู่หลังระเบียงอย่างเฟื่องฟ้า ชบา หรือลามไปถึงต้นหางนกยูง!
ต้นตีนเป็ดข้างมหาลัยที่สูงประมาณตึกสี่ชั้น ร่มจริง แต่ไม่อยากนึกถึงตอนออกดอกเลย
เป็นป้ายห้ามจอดรถที่คิ้วมาก
แต่ถึงแม้จะดูเพลินๆ เราก็อดมีข้อสงสัยเล็กๆ ไม่ได้ว่า ถ้าพูดถึงไม้ใหญ่แล้ว ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าหนึ่งในฟังก์ชั่นสำคัญก็คือการให้ร่มเงาแก่ผู้สัญจรไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้าหรือการปั่นจักรยานที่ถือว่าเป็นการคมนาคมสำคัญของประเทศ หรือถ้าเป็นไม้กระถางหน้าบ้านก็เข้าใจได้ว่าใช้เพื่อเป็นการประดับตกแต่งหรือใช้เป็นไม้มงคลแก้เคล็ด แต่ที่เราสงสัยอยู่หน่อยๆก็คือ แล้วไม้ระเบียงล่ะ นอกจากความสวยงามแล้ว เขามีหน้าที่อะไรอีกไหมนะ
อันนี้เท่ เล่นปีนหลังคาขึ้นไปปลูกเลยทีเดียว
ในห้องสมุด น่ารักมากกก
ถ้ามองไม่ผิด นั่นหางนกยูงเลยนะ
เราพับเก็บความสงสัยนี้ไว้ จนวันนึงที่ได้มีโอกาสปั่นจักรยานผ่านบ้านคุณน้าที่กำลังรดน้ำสวนกระถางอยู่เราเลยหยุดรถมองสักพัก แล้วตัดสินใจจอดรถเข้าไปทักทาย
“หนีห่าว”
เราทักทายพร้อมยิ้มกว้างให้คุณน้าที่ยังดูงงๆกับการมาของคนแปลกหน้า แล้วค่อยยกกล้องขึ้นมาพร้อมกับพูดภาษาจีนผิดๆ ถูกๆ ใจความขออนุญาตถ่ายรูปคุณน้ากับต้นไม้พอสื่อสารจนเมื่อยมือ อาการสงสัยก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะร่วนแล้วรีบจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมแต่งสวนหยิบใบไม้แห้งตรงโน้นตรงนี้ทิ้ง (แต่ก็ไม่ยอมเต๊ะท่าดีๆ ให้ถ่ายด้วยนะ เอ้า) ก่อนจะชวนเราคุยแล้วถามว่าจะถ่ายไปทำอะไร เราคิดอยู่แป๊บนึงแล้วเล่าให้ฟังว่า เราไม่ค่อยได้เห็นการแต่งบ้านด้วยไม้กระถางหรือไม้ระเบียงแบบนี้เท่าไหร่อาจเพราะที่บ้านเรามีพื้นที่ที่กว้างกว่า ทำให้อยากปลูกอะไรก็ปลูกลงดินได้แต่ถึงอย่างนั้นในหอพักหรือคอนโดฯ ก็ยังไม่ค่อยเห็นคนเลี้ยงไม้ระเบียงแบบจริงจังเท่าไหร่นัก คุณน้าดูจะประหลาดใจนิดหน่อยแล้วก็พูดประโยคธรรมดาๆ ที่ทำให้เก็บเอามาคิดว่า
“เอ้า ทำไมถึงไม่ปลูกกันล่ะการปลูกต้นไม้นี่เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็ควรทำกันเลยนะ”
หลังจากเริ่มบทสนทนากันด้วยเรื่องต้นไม้คุณน้าก็ชวนคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสิบห้านาทีเข้าไปในบ้าน แล้วเลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมพูดคุยกันต่อเป็นชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่มันก็สนุกดี เหมือนเราทั้งสองก็ต้องพยายามอย่างมากในการให้อีกคนเข้าใจว่าเราพูดเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่า ฮ่าๆ
“จะถ่ายไปทำไม ไม่เห็นมีอะไรสวยเลย” คุณน้าถามคำถามเดิมซ้ำอีกครั้งก่อนที่เราจะลากลับ
'ก็จริง' เราคิดในใจเพราะก็เข้าใจว่าสวนของแต่ละคนก็มีความสวยและความหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้เรากลับรู้สึกดีกับสวนแบบบ้านๆ น่ารักๆ นี้ แล้วที่พิเศษก็คือสวนอันนี้ได้เชื่อมโยงคนแปลกหน้าสองคนให้มาเจอกัน แล้วเราว่าคำตอบของคุณน้านี่แหละ ที่ได้ตอบคำถามของเรา เพราะแม้การปลูกต้นไม้เล็กๆ มันจะดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับใครบางคน แต่สำหรับบางคนแล้ว เราเชื่อว่ากระถางต้นไม้เล็กๆ คงสะท้อนความสุขที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวกระถางของมันเองได้แน่นอน
ปล. แล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เราก็มีโอกาสไปเดินตลาดต้นไม้จนไปถูกชะตากับต้นนี้เข้า จำไม่ได้ว่าชื่อภาษาจีนเรียกว่าอะไร แต่เหมือนชื่อภาษาอังกฤษจะเป็น Japanese Rose นะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in