当年万里觅封侯 #ปีนั้นที่ข้าคะนึงถึงผู้แต่ง : 漫漫何其多 (ม่านม่านเหอฉีตัว)
สถานะ : ตีพิมพ์แล้ว 2 เล่ม (จบ)
สำนักพิมพ์ Sense Book Publishing
นิยาย ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง ตีพิมพ์แล้ว 2 เล่มจบ
บุตรบุญธรรมของหนิงหวัง นามว่า ‘จงหว่าน’ ...
ทั้งฉลาดหลักแหลมและเพียบพร้อมด้วยพรสวรรค์ด้านการประพันธ์ เป็นที่เลื่องลือของคนไปทั่วเมืองหลวง จนกระทั่งวันหนึ่งหนิงหวังถูกใส่ร้ายฐานเป็นกบฏ เป็นเหตุให้เขาติดร่างแหจนสถานะถูกลดกลายเป็นเพียงทาส
ปีนั้นหลังจากที่หนีออกจากเมืองหลวง เพื่อรักษาชีวิตรอด จึงจำต้องปล่อยข่าวลือของตนกับ ‘อวี้เซ่อ’ บุตรชายคนโตของอวี้หวัง ซื่อจื่อผู้มีอุปนิสัยผิดเพี้ยนหลังไปรู้ความจริงบางอย่างเข้าเมื่อราวเจ็ดปีก่อน...
ความจริงนั้นเป็นเงามืดกัดกินใจจนเขาไม่อาจทนมีชีวิตอยู่ต่อได้ ทว่า ‘ข่าวลือ’ ที่จงหว่านจงใจปล่อยเพื่อรักษาตนให้รอดในเหตุการณ์ปีนั้น กลับกลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อ...
ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง เป็นวายจีนอีกเรื่องที่เราอยากอ่านมานานค่ะ ด้วยการันตีคะแนนความนิยมอันดับที่ 18 ตลอดกาลของจิ้นเจียง แถม ม่านม่านเหอฉีตัว ก็ยังเป็นนักเขียนชื่อดังระดับ Top tier ของทางฝั่งจีนด้วย
เอาจริงก่อนหน้าที่ทาง Sense Book จะประกาศ LC เราเคยแอบไปส่องตัวนิยายพร้อมกับไถม่านฮวามานิดๆ หน่อยๆ แล้วก็พบว่ามันน่าอ่านม๊าก T___T พระเอกสุดจะเหล่ท่อ! ตอนที่สนพ.ประกาศ LC เข้าจริงๆ ก็เลยกรี๊ดลั่น มือกดพรี Box set ไปแบบไม่คิดเลยค่ะ
ม่านฮวา ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง อ่านได้ในแอพ bilibili
แล้วพอได้มาลองอ่านเข้าจริงก็พบว่า เรื่องนี้น่าแปลกใจกว่าที่คิดในหลายๆ ความหมาย (คำชม) คือเป็นอะไรที่เราอ่านจบแล้วรู้สึกหลายจุดมันน่าสยดสยองแต่ก็น่าขำ น่าสะเทือนใจแต่ก็น่าซาบซึ้ง ทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นมาเขียนอะไรซักอย่างถึง แล้วก็ออกมาเป็นรีวิวฉบับนี้นี่แหละค่ะ ฮา
Disclaimer
- รีวิวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเรา อาจมีความไบแอสตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงมาก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
- TW : Suicide thoughts (ตัวละครมีความคิดฆ่าตัวตาย หรือบรรยายฉากการฆ่าตัวตายของตัวเอง), Drugs (ยาเสพติด)
- รีวิวอาจมีสปอยนิดๆ หน่อยๆ แต่จะพยายามไม่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านค่ะ
โอเคค่ะ งั้นก็มาเริ่มกันเร้ยยยยย
เล่าย่อๆ ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับนายเอก จงหว่าน บุตรบุญธรรมของอ๋องคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ จนตัวเองถูกลดสถานะจากบัณฑิตที่เก่งกาจที่สุดในแผ่นดินกลายเป็นเพียงทาส เขาคอยดูแลบรรดาลูกแท้ๆ ที่ยังเหลืออยู่ของอ๋องกบฏผู้มีพระคุณคนนั้น ลี้ภัยไปอยู่ชนบท จนวันนึงก็ถูกเรียกตัวกลับเมืองหลวง
การกลับเข้าเมืองหลวงครั้งนี้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ใจนึงนายเอกก็หวังว่าการมาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากฮ่องเต้วางใจแล้วว่าพวกตนไม่มีพิษมีภัยก็จะปล่อยให้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่ชนบทตามเดิม แต่อีกใจก็เกิดลังเลที่จะอยู่ต่อเมื่อได้พบกับพระเอก อวี้เซ่อ ซื่อจื่อที่เคยมีมิตรภาพอันดี (?) ต่อกัน และได้กลายเป็นคนนิสัยผิดเพี้ยนสุดกู่ถึงขั้นบ้าคลั่งเพราะไปล่วงรู้ความลับสะเทือนฟ้าดินบางอย่างเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเองเข้า...
จงหว่าน บัณฑิตอนาคตไกลที่ถูกลดสถานะเป็นทาสเพราะเรื่องบางอย่างในปีนั้น
อวี้เซ่อ ซื่อจื่อผู้มีอุปนิสัยผิดเพี้ยนไปหลังไปล่วงรู้ความจริงบางอย่างเข้าในปีนั้น
ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง เปิดเรื่องมาด้วยการเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงของตระกูลนายเอก หรือตระกูล หนิงอ๋อง ค่ะ
เรื่องก็จะบรรยายถึงความอาภัพของอ๋องตระกูลนี้ เริ่มตั้งแต่ตัวหนิงอ๋อง (ที่ในอดีตเป็นองค์ชาย 6) ว่าที่จริงแล้วเขาเป็นโอรสที่ฮ่องเต้องค์ก่อนโปรดปรานมากที่สุด แต่โชคร้ายที่ทรงสวรรคตไปก่อนจะได้แต่งตั้ง ทำให้พี่ชายอย่างองค์ชาย 2 ได้ขึ้นครองบัลลังก์แทน
องค์ชาย 2 หรือฮ่องเต้คนปัจจุบันปฏิบัติต่อน้องชายที่เป็นคนโปรดของเสด็จพ่ออย่างดี แต่งตั้งเขาให้เป็นหนิงอ๋อง แต่สุดท้าย ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่ดูมีลับลมคมในก็ทำให้หนิงอ๋องคนนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ และได้ทิ้งลูกแท้ๆ สามคนไว้กับบุตรบุญธรรมก่อนที่ตัวเองกับภรรยาจะตาย ซึ่งบุตรบุญธรรมของหนิงอ๋องคนนี้ก็คือนายเอกของเรา จงหว่าน นั่นเองค่ะ
จงหว่าน ถูกสอบสวนและลดสถานะเป็นทาส หลังพ่อบุญธรรมถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ
จงหว่านที่ในตอนนั้นเป็นบัณฑิตอนาคตไกลโดนลูกหลงจนถูกลดสถานะกลายเป็นทาส ถึงฮ่องเต้จะปราณีให้ลูกชายแท้ๆ คนโตของหนิงอ๋องได้รับสืบทอดบรรดาศักดิ์อ๋องต่อจากพ่อ แต่ก็สั่งให้พวกเขาไปครองเมืองทุรกันดาร เป็นการแสดงเจตนาว่าอยากไล่ลูกๆ ของน้องชายไปให้ไกลจากราชสำนัก
ในชนบทซึ่งไม่มีอำนาจ นายเอกต้องดิ้นรนใช้ทั้งเล่ห์ทั้งกลเพื่อที่จะปกป้องเหล่าน้องชายน้องสาวต่างสายเลือดของตนไว้ให้ได้ โดยหนึ่งในวิธีที่เขาใช้ก็คือ ปล่อยข่าวลือว่าตัวเองกับพระเอก อวี้เซ่อ ซื่อจื่อผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวงที่เป็นสหายเก่า มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันอยู่ ด้วยหวังจะใช้บารมีของพระเอกช่วยคุ้มหัวตนอีกแรง
ตระกูลหนิงอ๋องใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในชนบทอยู่หลายปี แต่โชคร้ายที่ในที่สุดวันที่ฮ่องเต้เกิดระแวงพวกเขาอีกครั้งก็มาถึง นายเอกและน้องๆ ถูกเรียกตัวให้เดินทางกลับเข้าสู่เมืองหลวง
และแน่นอนว่าในที่แห่งนั้น จงหว่านก็ได้เจอกับคนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดอีกครั้ง อวี้เซ่อ เพื่อนร่วมเรียนในอดีตที่ถูกปั่นข่าวใช้ประโยชน์ซะเละว่ากิ๊กกั๊กกับตัวเองอยู่นั่นเอง... 555555
ภายนอกเกี้ยว ร่างสูงใหญ่ของอวี้เซ่อที่สวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีดำกำลังเลิกผ้าม่านเกี้ยวออกด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ พูดคำเว้นคำว่า “จง กุ่ย หยวน”
ถ้าเจ้ากล้าหัวเราะออกมาหนึ่งครั้ง ข้าก็จะทำให้เจ้าร้องไห้หนึ่งครา
ในวันแรกที่กลับมาถึงเมืองหลวงในรอบหลายปี อวี้เซ่อก็ได้มาหาจงหว่าน และแสดงท่าทีว่าไม่พอใจกับข่าวลือมั่วๆ เหล่านั้นที่นายเอกเป็นคนปล่อย เขาว่า พอได้ยินมากๆ เข้าแล้วถึงกับต้องไปถามพ่อบ้านว่าสรุปนี่มันเรื่องจริงมั้ย? หรือตัวเองเคยหัวกระแทก สมองเลอะเลือนจนสูญเสียความทรงจำไปเอง?
นายเอกหวาดก็ส่วนหวาด แต่พอนึกภาพตามแล้วก็กลั้นขำแทบไม่อยู่ พระเอกก็บอก ขำสิ ถ้าขำครั้งนึงข้าก็จะทำให้เจ้าร้องไห้ครั้งนึง 555555
ภาพจากม่านฮวา ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง
แต่หลังจากนั้น พอได้คุยกับพระเอกไปนานๆ เข้า นายเอกก็เริ่มรู้สึกว่าเอ...ทำไมพระเอกในตอนนี้ถึงดูมีนิสัยเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยล่ะ? ดูอารมณ์แปรปรวน ดุร้าย ขาดสติ และคลุ้มคลั่งกว่าเมื่อก่อนที่เคยเป็นสุภาพบุรุษอย่างกับคนละคน
คือตอนก่อนจะเข้าเมืองหลวง สายของนายเอกก็เตือนแล้วแหละว่ามาครั้งนี้อย่าไปยุ่งกับพระเอกดีกว่า เพราะในช่วงหลายปีที่นายเอกไม่ได้อยู่เมืองหลวงเนี่ย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระเอกถึงได้กลายเป็นคนอุปนิสัยผิดเพี้ยนบ้าคลั่งไปแล้ว ทำเรื่องที่เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายไว้เพียบ อย่างทานยาพิษ (ยาเสพติด) เป็นกิจวัตร ขอพระราชทานสมรสกับองค์หญิง หรืออาสานำทัพไปชายแดน ...
แต่พอนายเอกได้มาเจอพระเอกที่เปลี่ยนไปมากเข้าจริงๆ ก็มีใจคิดจะสืบขึ้นมาว่าที่แท้เพราะอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับเขาในช่วงที่ข้าไม่อยู่เมืองหลวงกันแน่?
สมมติฐานลากโยงไปที่เรื่องชาติกำเนิด มีข่าวลือว่าที่พระเอกเป็นบ้าก็เพราะไปได้ยินความลับดำมืดบางอย่างเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตนเข้า นายเอกก็ยิ่งสงสัยว่าทำไมล่ะ? เพราะเท่าที่เห็นพระเอกก็มีชาติกำเนิดสูงส่ง แม่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของฮ่องเต้ พ่อก็เป็นถึงอ๋องที่ได้รับการแต่งตั้ง
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้กันแน่?
เวลาผ่านไปนานถึงเจ็ดปี หลายๆ สิ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เรื่องก็จะค่อยๆ เฉลยออกมาว่าจริงๆ แล้วพระเอกนายเอกในอดีตมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกัน ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมเรียนทั่วไป อย่างน้อยๆ ก็ตอนที่พ่อบุญธรรมของนายเอกถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏจนนายเอกติดคุก ก็เป็นพระเอกนี่แหละที่ช่วยไถ่ตัวนายเอกออกมาอยู่ที่จวนตัวเอง และก็ได้อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นเวลากว่าครึ่งปี
อวี้เซ่อ ในอดีตที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ (?)
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงครึ่งปีนั้น แต่สุดท้ายนายเอกก็เลือกที่จะจากมา ออกเดินทางไปยังชนบทเพื่อปกป้องน้องชายน้องสาวต่างสายเลือดของตัวเอง ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้พบหน้ากันนานถึงเจ็ดปี...
การหวนกลับมาของนายเอกในครั้งนี้ หลายๆ อย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สหาย (?) เก่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ราชสำนักปั่นป่วนเพราะการสิ้นพระชนม์ขององค์ชายคนโต การเล่นเล่ห์เพื่อบัลลังก์ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ และนายเอกก็จำเป็นต้องเข้าไปพัวพันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อที่จะปกป้องลูกๆ ของหนิงอ๋องเหล่านั้น รวมถึงช่วยเหลือพระเอกไปด้วย
ในที่สุดความสัมพันธ์คลุมเครือบางอย่างที่สิ้นสุดลงในปีนั้นก็ได้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง นายเอกตัดสินใจรั้งอยู่ในเมืองหลวงต่อเพื่อสืบเรื่องของพระเอกและช่วยเยียวยาเขา ถึงแม้จะเป็นการเสี่ยงชีวิตของตัวเองก็ตาม
อดีตอันดำมืดที่ซุกอยู่ใต้พรมเป็นเวลานานค่อยๆ ถูกขุดออกมา ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับพระเอกในปีนั้นกันแน่? และความลับสะเทือนฟ้าสะเทือนดินนี้จะก่อให้เกิดพายุลมฝนได้อย่างไร? ติดตามได้ใน ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง ค่ะ
จงหว่านนัยน์ตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความโกรธที่รุมเร้าภายในจิตใจ
มีชีวิตอยู่ไม่ดีหรือไร?
“ในปีนั้น มีเรื่องอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจท่านกันแน่?”
ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง เป็นเรื่องที่อ่านเรื่องย่อแล้วอาจจะรู้สึกว่าดราม่ามาก แต่ที่จริงแล้วไม่เลยค่ะ เพราะนักเขียนเขียนเรื่องรันทดพวกนี้ออกมาในรูปแบบคอมเมดี้ ยิงมุกตลกไปตลอดทาง หรืออาจเรียกได้ว่าจริงๆ มันเป็นนิยายขายขำก็ได้ (พูดจริงๆ นะ!)
เราไม่รู้จะรีวิวยังไงให้ไม่สปอยปมใหญ่ของเรื่อง หรือปมที่ว่าทำไมพระเอกถึงได้กลายเป็นคนบ้า เพราะรู้สึกว่าจุดนี้เป็นจุดที่ต้องไปอ่านเองถึงจะสนุกค่ะ นักเขียนค่อยๆ กระตุ้นให้เราคิดว่าเออ มันยังไงกันแน่นะ สรุปว่าแกเป็นลูกใครกันแน่วะไอชาย แล้วทำไมถึงเป็นบ้าไปล่ะไอช๊ายยย 555555 ดังนั้นเลยจะพยายามเขียนรวมๆ เพื่อเลี่ยงสปอยแทนนะคะ
Radio Drama ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง ฟังได้ใน missevan
อย่างแรกก็มาพูดถึงตัวละครหลักกันก่อนค่ะ
นายเอก จงหว่าน เป็นคนประเภทมีเรื่องในใจเยอะแต่เก็บงำความรู้สึกเก่ง ขี้เล่นหน้ายิ้ม เป็นคนแบบที่ถึงในใจเลือดซิบก็จะหัวเราะแล้วบอกว่าไม่เป็นไร จงหว่านมีภาระที่ต้องดูแลลูกของพ่อบุญธรรมจนละเลยความสุขของตัวเองมานาน สุขภาพแย่ลงมากในช่วงเจ็ดปีที่ออกจากเมืองหลวงไป (คลุมดำเพื่ออ่านสปอย) จงหว่านแอบชอบอวี้เซ่อมานาน
ส่วนพระเอก อวี้เซ่อ ซื่อจื่อผู้สูงศักดิ์ แต่ก่อนเป็นคุณชายสุภาพบุรุษสุดขรึม แต่หลังจากเหตุการณ์บางอย่างในปีนั้นก็เริ่มมีนิสัยผิดเพี้ยนขึ้นเรื่อยๆ บางส่วนเป็นเพราะเคยเสพยาหวังฆ่าตัวตาย ทำให้มีอาการบ้าคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนที่เศร้าหรือโกรธจัดๆ เวลาว่างยังคิดจะฆ่าตัวตายอยู่ตลอด มีชีวิตอยู่ด้วยความคิดที่อยากให้คนพวกนั้นอยู่ไม่สุขขึ้นอีกซักนิด
หรือว่าง่ายๆ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของคนป่วยกายกับคนป่วยจิตนั่นเองค่ะ...
ความสัมพันธ์ของคู่นี้จะเป็นแบบรักลึกซึ้งซึมลึก แอบรักแอบผูกพันกันมานาน แต่คลาดกันไปคลาดกันมา จนในที่สุดโชคชะตาก็ทำให้ได้เวียนมาเจอกันอีกครั้ง แล้วการมาเจอกันครั้งใหม่นี้นายเอกก็เป็นฝ่ายรุกเข้าหาก่อนเพื่อที่จะคลายปมในใจของอีกคน...
รูปจากม่านฮวา ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง
สิ่งที่เราชอบที่สุดใน ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง คือความรันทดในชีวิตของตัวละครหลักทั้งคู่ที่เขียนออกมาในรูปแบบคอมเมดี้ค่ะ
จะว่าไงดี คือพอเรื่องมันบรรยายแนวตลกขบขัน เราก็เลยจะถูกนักเขียนชักจูงไปก่อนว่าเรื่องในชีวิตของตัวเอกมันง่ายอย่างงู้นอย่างงี้ แล้วถึงมาเฉลยทีหลังว่าไม่ จริงๆ ทุกอย่างมันยากมาก คนนึงยิ้มออกมาทั้งที่แบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า ส่วนอีกคนก็โดนทำร้ายจิตใจหนักจนกลายเป็นบ้า เราชอบที่เขาใช้วิธีค่อยๆ เฉลยความรันทดพวกนั้นออกมาให้เราได้เห็นค่ะ
ยกตัวอย่างก็เช่นนายเอกเนี่ย ตอนที่ไปอยู่ต่างเมืองคือลำบากมากๆ โดนคนในพื้นที่มองว่าเป็นตระกูลอ๋องที่ไม่มีอำนาจแล้ว ไม่ส่งเงินประจำปีให้ ที่นายเอกกุข่าวลือเรื่องตัวเองกับพระเอกพร้อมทั้งติดสินบนขุนนางท้องถิ่นก็เพราะลำบากจนถึงขั้นต้องขอข้าวคนอื่นกิน แต่เรื่องในตอนแรกมันจะเขียนถึงความหน้าไม่อายที่จะติดสินบนของนายเอกไว้แบบตลกๆ ค่ะ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว...
ส่วนทางพระเอก เรื่องตอนแรกก็จะบรรยายแบบฮาๆ เหมือนกันว่าพระเอกอารมณ์เสียกับข่าวลือที่นายเอกกุขึ้นพวกนั้นยังไง แล้วค่อยมาเฉลยว่าที่จริงข่าวลือพวกนั้นได้ช่วยชีวิตพระเอกไว้จากโศกอนาถกรรมที่น่าเศร้าต่างหาก
ในปีนั้นหลังจากรู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง พระเอกก็รู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อจนขังตัวเองไว้ในห้องแบบคิดจะฆ่าตัวตาย แต่สายสืบที่ส่งไปตามข่าวของนายเอกดันกลับมาพอดี แล้วบอกพระเอกว่าเออเนี่ย เขากุข่าวลือว่าท่านกับเขาเป็นอย่างงู้นอย่างงี้กันด้วยแหละ ทำให้พระเอกอึ้งตะลึงไป สุดท้ายก็หัวเราะออกมาแล้วตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เหมือนกับว่าหาที่ยึดเกาะใหม่ให้กับตัวเองได้แล้ว...ซึ่งก็คือข่าวลือบ้าๆ พวกนั้นนั่นแหละค่ะ
แต่ถ้าถามว่านายเอกรู้ตัวมั้ยว่าตัวเองได้ช่วยชีวิตพระเอกไว้ในปีนั้นแบบไม่ได้ตั้งใจ คำตอบก็คือไม่...
อวี้เซ่อที่หมดอาลัยตายอยาก ขังตัวเองรอวันตายขำลั่นเมื่อได้ยินข่าวลือที่จงหว่านกุขึ้น
นายเอกไม่รู้เรื่องอะไรเลยยยย 555555 ในตอนแรกที่ยังไม่รู้ว่าพระเอกเป็นบ้าไปเพราะอะไรกันแน่ ก็รู้สึกโกรธมากที่เขาไม่รักชีวิตของตัวเอง ทำตัวรนหาที่ตายตลอดเวลา พูดกับพระเอกว่า “ในปีนั้น มีเรื่องอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจท่านกันแน่?”
แต่พอรู้ความจริงปุ๊บว่าอะไรเป็นอะไร นายเอกก็ถึงกับต้องยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง...
“ในปีนั้น มีอะไรที่ได้ดั่งใจเขาบ้างต่างหาก”
อย่าโดนหลอก! ที่จริงเรื่องนี้มันเป็นนิยาย ข า ย ขํ า
ถึงเรื่องทั้งหมดที่เล่ามาจะฟังดูดราม่า แต่ๆๆๆ มันไม่ได้ขนาดนั้นจริงๆ ค่ะ! เพราะนักเขียนเขียนออกมาในโทนตลกโปกฮา โดยเฉพาะนิสัยบ้าๆ บอๆ ของพระเอก ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ดูน่ากลัวเล้ยยยยย แต่จะออกแนว อิหยังวะ เป็นบ้าอะไรของแกเนี่ยไอชาย ...
ตัวอย่างความบ้าบอของพระเอก
- เก็บสะสมฟิคที่ชาวบ้านเขียนเกี่ยวกับตัวเองและนายเอก (ในจำนวนนี้มีฟิค 18+) แล้วเอามาให้นายเอกอ่านเพื่อเป็นการแก้แค้น (?)
- ตอนนายเอกมีท่าทีรุกจีบ ก็กลัวเขาเข้าหาตัวเองเพราะหวังผล เลยตั้งกฎสิบวันให้เขามาหาได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าสิบวันแล้วไม่มาจะคลุ้มคลั่งเป็นบ้า ตามไปหาถึงที่ ...
- กลัวนายเอกรู้สึกผูกมัด ถ้าตัวเองฆ่าตัวตายไปแล้วจะตัดใจไม่ได้ ตอนจูบเลยห้ามเขาขยับ ห้ามใช้ลิ้น ...
- ตอนขุนนางคนอื่นคุยโวกันว่าเมียห้ามกินอันนู้นอันนี้เพราะเป็นห่วง ก็ร้อนรนว่าตัวเองไม่มีเรื่องไปอวดบ้าง จนสุดท้ายนึกออกเรื่องนึงเลยพูดออกไปอย่างภาคภูมิใจว่า “ภรรยาข้าห้ามข้ากินผงยาอาหารเย็น (ยาเสพติด) แหละ” ทุกคนก็คือ ... 555555555
เนี่ยค่ะ มันเป็นประมาณนี้ คือจะเห็นว่าจริงๆ มันก็ซีเรียสแต่เขียนออกมาให้ตลก เราถึงว่าบางจุดมันน่าสยดสยองแต่น่าขำค่ะ drama, trauma แต่ก็บ้าบอจริงๆ
พระเอกเอาฟิคคู่ตัวเอง x นายเอก มาให้นายเอกอ่าน
นอกจากจะเป็นเรื่องที่เขียนออกมาได้อย่างคอมเมดี้และตลกสุดๆ แล้ว จุดเด่นอีกอย่างของ ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง ก็คือเขียนเรื่องการเมืองออกมาได้โฟลวดีมากๆ ค่ะ
ถ้าใครเคยอ่านงานเก่าของนักเขียนหรือรัชทายาทบัญชามาก่อน จะเห็นว่าคุณม่านม่านชอบเขียนเรื่องการเมืองแบบเรื่อยๆ ในตอนแรกแล้วค่อยเข้มข้นขึ้นในตอนหลัง ซึ่งปีนั้นฯ ก็เป็นแบบที่ว่าในเวอร์ชั่นที่อัพเกรดแล้วค่ะ
ในส่วนของการเมือง ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง มีตัวละครเยอะกว่ารัชทายาทบัญชามาก และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับแผนการต่างๆ ก็ซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่าหลายเท่าตัว ตัวละครหลายตัวฉลาดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลาย ทุกคนต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง เราจะได้เห็นการวางแผน เล่นเล่ห์อุบายเพื่อจะป้ายสีคนอื่นหรือผลักดันให้ตัวเองสูงขึ้น ซึ่งความสนุกของเรื่องนี้ก็คือ พระเอกก็เป็นหนึ่งในหมากให้คนอื่นจับเดินค่ะ
และด้วยความบ้าบอประสาททำอะไรตามใจของนัง บวกกับนังเป็นคนที่ฮ่องเต้โอ๋มาก ก็เลยทำให้เรื่องนี้มีสีสันมากขึ้นด้วยค่ะ คือคนอื่นเนี่ยจะทำอะไรใครเค้าก็ต้องวางแผนกันเป็นปีๆ แต่ตาพระเอกคือแบบ ข้าโมโหอินี่ทีก็ผลักแม่งตกน้ำเลย แล้วค่อยบอกฮ่องเต้ว่าเพราะอารมณ์แปรปรวน ถูกมันยั่วโมโห ก็สามารถรอดมาได้แล้ว 555555555 (คนอื่น : =____=)
จวบจนถึงตอนจบ ก็คือเป็นอะไรที่เราคิดว่าตัวเองจับทางได้แล้วแต่สุดท้ายก็ยังเดาผิดค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะจบลงแบบนี้ AMAZING MAK! เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาการกระทำของตัวละคร (พระเอก) ได้เลยจริงๆ...
สรุปก็คือ ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง เป็นเรื่องแนวโรแมนติกคอมเมดี้ดราม่า ชิงไหวชิงพริบในราชสำนักที่อ่านง่าย มีทั้งช่วงที่อบอุ่นหัวใจและช่วงที่ตลกเป็นบ้า เหตุการณ์พลิกผันไปมา จับทางไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัวละครมีเสน่ห์ทั้งพระนายกับบรรดา side character ทั้งหมด และเป็นเรื่องที่เราชอบอย่างน่าแปลกใจในหลายๆ ความหมาย (คำชม) น่าซื้อหามาอ่านทีเดียวค่ะ
เรื่องนี้เหมาะสำหรับ
- คนที่อยากอ่านอะไรเฮฮาสบายๆ แต่ยังมีดราม่าในบางช่วง มีครบทุกรส สุขเศร้าเคล้าน้ำตา
- คนที่ชอบแนวราชสำนัก การเมือง วางแผนต่างๆ
- คนที่อยากลองของแปลก นายเอกป่วยกับพระเอกบ้า 555555
- คนที่ชอบเรื่อง รัชทายาทบัญชา เรื่องนี้จะว่าคล้ายก็คล้าย จะว่าไม่คล้ายก็ไม่คล้ายค่ะ
- เรื่องมีคู่รองหนึ่งคู่ แต่บทบาทไม่เยอะเท่าไหร่
- คนที่ไม่มีปัญหากับการแปลนิยายแบบทับศัพท์ (และทับเป็นจีนกลางด้วย) เช่น อ๋อง = หวัง, ฮ่องเต้ = หวงตี้, กระหม่อม = เหล่าหนู และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนตัวว่าอ่านค่อนข้างยากเพราะทับศัพท์มโหฬารเลยค่ะ
ส่วนสำหรับใครที่สนใจ ก็อย่าลืมอ่านตัวอย่างประกอบการตัดสินใจเหมือนเดิมนะคะ!
“วันนั้นเจ้ารู้ว่าอยู่ต่อไม่ได้ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ยอมคุยกับข้า ไม่ยอมบอกข้า...แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังทิ้งคำพูดที่ไม่ได้พูดออกมาไว้ให้ข้า...”
“...เจ้าวนเวียนอยู่ในใจข้า แม้ว่าข้าไปหาเจ้ามิได้ ไยเจ้ามิส่งข่าวคราว...”
ปีนั้น...ที่ข้าคะนึงถึง ฉบับไทย (ซ้าย) ฉบับจีนตัวเต็ม (กลาง) และฉบับจีนตัวย่อ (ขวา)
contact me
twitter : @arriettybb
e-mail : [email protected]
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆ จากเราเพิ่มเติม จิ้ม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in