เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สัพเพเหระkyrin_is_giraffe
#WritingPrompt - Day 1 - เขียนชีวิตของคุณจากมุมมองของคนอื่น
  • แค่เห็นหัวข้อก็อึดอัดแล้ว
    แต่เราไม่ได้เขียนมานานมาก เลยอยากกลับมารื้อฟื้นกลไกที่ขึ้นสนิมของตัวเองอีกครั้ง

    เอาเข้าจริงๆ แล้ว เราค่อนข้างเป็นบุคคลที่ย้อนแย้งในตัวเอง แง่หนึ่งถือดี ไม่สนใจคำว่ากล่าวขาน ทว่าอีกแง่หนึ่งกลับหวั่นไหวกับคำวิจารณ์ได้ง่ายๆ เปราะบางขนาดที่เมื่อได้ยินคำติเพียงเล็กน้อยหัวใจก็ราวกับจะแหลกสลาย

    ดังนั้น หากว่าสร้างภาพที่สมบูรณ์แบบให้คนอื่นมองข้ามความอัปยศของตัวเองได้
    เราก็เลือกที่จะทำ

    หากว่าย้อนถามกับเพื่อนสมัยประถม
    พวกเขาคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเราช่างบ้าอำนาจอย่างไร้เหตุผล ด้วยความที่มีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นในโรงเรียนเพียงเล็กน้อยกลับข่มขู่ผู้คนราวกับอยู่บนภูเขาสูงชะลูด เป็นเด็กหัวสูงที่น่ารังเกียจคนหนึ่ง

    แต่แล้วยังไงล่ะ?

    เราในตอนนั้นมีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งหน้าตาและผลการเรียนดีเยี่ยมที่ใครๆ ต่างอยากจะครอบครอง ไม่ได้โม้หรอก แต่เท่าที่คิดคนส่วนใหญ่ก็คงจะมองว่าในด้านผลลัพธ์ ชีวิตเราก็เพอร์เฟ็คประมาณหนึ่ง

    แต่บนโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เพอร์เฟ็คอยู่จริงๆ อยู่แล้ว

    บนหอคอยเกียรติยศ ข้อด่างพร้อยที่คนรอบตัวมองของเราคือเราเป็นเด็กติดเกม ซึ่งเกมในที่นี้คือเกมออนไลน์ เกมคอมพิวเตอร์ ที่เคยเป็นหนึ่งในความขัดแย้งสำคัญระหว่างผู้ปกครองและเยาวชนอย่างดุเดือดในตอนนั้น

    แต่เด็กก็ยังเป็นเด็ก
    นานเข้าเราก็เบื่อ และเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่โลกอีกใบ
    ช่วงมัธยมต้นเราโดนเรียกขานเป็นโอตาคุ แถมยังยืดอกรับอย่างมั่นใจ ถลำลึกเข้าไปมากทุกที

    ในตอนนั้นเราถือว่าเป็นบุคคลอันเปิดเผย ชื่นชอบสิ่งใด รู้สึกอย่างไรก็ป่าวประกาศออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจ ช่างเป็นความไร้เดียงสาของเด็กที่เราในตอนนี้ยังอิจฉาอยู่ลึกๆ

    จริงๆ เหมือนว่ายิ่งเขียนก็อยู่ห่างไกลจากหัวข้อเข้าไปมากขึ้นทุกที แต่ตอนนั้นเราที่มุ่งมั่นทำสิ่งที่เราต้องการ ไม่ได้สนใจสายตาของใครต่อใครเลย กระทั่งตอนนี้เมื่อได้มาพิจารณาถึงสายตาอันเคลือบแคลงเหล่านั้น เราก็เริ่มรู้สึกละอายใจและเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงมีปฏิกิริยาแบบนั้นกับเรา

    จนถึงวันนี้เราได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกไว้มิดชิด 
    ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังราวกับกำลังปฏิบัติภารกิจลับอยู่ก็ไม่ปาน
    ซึ่งเราไม่ชอบนักหรอก

    หัวข้อนี้ทำให้เราระลึกได้อย่างหนึ่ง
    เมื่อก้าวเข้าไปสู่สังคมใหม่ๆ สถานการณ์ใหม่ๆ ความรู้สึกของผู้คนที่เราพบเจอนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพื่อนกลุ่มหนึ่งมองว่าเราตั้งใจเรียน ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งมองว่าเราใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างน่าหมั่นไส้

    ช่วงมัธยมปลายราวกับเป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดช่วงหนึ่งของเรา
    ทุกอย่างดีหมดยกเว้นตอนจบ
    สรุปหักลบกันความดีก็น้อยนิดเสียจนเราไม่นึกอยากจดจำ

    เพียงเราในตอนนั้นก็ได้กลายเป็นทรราชในสายตาของเพื่อนไปเสียแล้ว

    จวบจนกระทั่งถึงตอนนี้
    ชีวิตของเราสมบูรณ์ดีพร้อมเท่าที่เราตระเตรียมไว้ให้คนอื่นได้มองเห็น
    ตราบใดที่พวกเขายังไม่เคลือบแคลงสงสัยหรือก้าวล้ำเส้นมากเกินไป 
    เราก็ยังพึงพอใจในตัวเองอยู่

    เราจะจบบทความลงตรงนี้ เพราะไม่มีอะไรจะเล่าอีกแล้ว
    เบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ควรเขียนเราก็จะไม่เขียนหรอก

    ขอบคุณที่กลับมาเขียน 
    ด้วยรัก ,
    ตัวฉันเอง

    190922
    12:48 - 13:15

    #WritingPrompt
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in