เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เดือนหนาวกับการฝึกงานในฤดูฝนเดือนหนาว
ฝนหยาดแรก
  • สายฝนเสมือนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นใหม่


         แสงแรกของวันสาดส่องเข้ามายังห้องนอนของนิสิตสาขาวรรณกรรมสำหรับเด็ก      
         'วันนี้แล้วสินะ' นั่นคือความคิดแรกเมื่อ 'เดือนหนาว' ลืมตาขึ้นมา เธอกวาดตามองไปรอบๆ ห้องนอน แต่ก็ไม่พบใคร

         เธอเดินออกมายังห้องนั่งเล่น และพบ 'กีต้าร์' เพื่อนกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่
         "ตื่นเช้าจัง"
         "เราตื่นก่อนเธอไม่นานหรอก" กีต้าร์ตอบพลางทาแยมลงบนขนมปังชิ้นที่สอง "แล้วข้าวจะกลับมาเมื่อไหร่ รู้หรือเปล่า"
         "เห็นว่าพี่ข้าวจะกลับมาอาทิตย์หน้านะ" คนที่พวกเธอพูดถึงคือเพื่อร่วมห้องที่ตอนนี้ไปเยี่ยมครอบครัวที่ต่างจังหวัด
         "แล้วพี่โดไปฝึกงานแล้วเหรอ" พี่โด หรือ โดนัท คือเพื่อนอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ความจริง ทุกล้วนอายุเท่ากัร แต่เดือนหนาวชอบเรียกทุดคนว่า 'พี่' ทั้งพี่ต้า พี่ข้าว และพี่โด เพราะเธอเคารพ นับถือพวกเขา และ 'พวกพี่ๆ' ก็ดูแลเธอเสมอ เธอจึงรักพวกเขาเหมือนครอบครัว

         หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย เดือนหนาวก็ขอตัวออกจากห้องก่อนกีต้าร์ เพราะเธอต้องไปพบ 'ปริ่ม' ก่อนไปที่ฝึกงาน
         ปริ่ม คือเพื่อนสาขาวรรณกรรมสำหรับเด็กที่จะไปฝึกงานที่เดียวกับเธอ เดือนหนาวนัดเจอปริ่มที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจตุจักร เวลา 8.30 น. เพื่อเดินทางไปที่ฝึกงานพร้อมกัน 

         แต่อะไรๆ ก็ไม่เป็นไปตามแผน เมื่อ 'ปริ่ม' มาสาย
         หลังจากรีบร้อนแทบตาย ในที่สุด เดือนหนาวและปริ่มก็มาถึงที่ฝึกงานเวลา 9.20 น. เรียกไว้ว่ามาทันเวลาอย่างฉิวเฉียด

         เดือนหนาวฝึกงานที่ IReader (IReader Technology Co., Ltd.) ออฟฟิศเป็นห้องขนาดเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย
         เมื่อมาถึงเธอและปริ่มก็เจอ 'พี่ต้น' ผู้จัดการสาขาประเทศไทย หรือก็คือหัวหน้าใหญ่ของที่นี่ พี่ต้นให้พวกเธอนั่งพัก หาน้ำ หาขนมกินให้เรียบร้อย จากนั้นจึงอธิบายให้ฟังว่า 

         'IReader ที่เราทำอยู่ก็เป็นเหมือนบริษัทลูกของจีน นอกจากประเทศไทยแล้ว ก็มีอีกหลายๆ ประเทศที่มี IReader เหมือนกัน แต่บางประเทศอาจยังไม่ได้ตั้งเป็นออฟฟิศ แค่รับงานไปเผยแพร่เฉยๆ เวลาทำงานจะมีการประสานงานกับประเทศจีนเสมอ และโดยปกติจะมีคนจีนมาทำงานที่ประเทศไทยร่วมกับเราหนึ่งคน เขาชื่อ 'จิม' แต่คุณจิมไม่ได้อยู่ไทยตลอดเวลา อย่างตอนนี้เขาก็ทำงานอยู่ที่จีน คิดว่าเดือนหน้าคงจะกลับมา ดังนั้นในออฟฟิศตอนนี้ถ้ารวมพวกน้องๆ ด้วยจะมีแค่หกคน ส่วนที่จีนจะมีทีมประสานงานกับเรา หรือเรียกว่า ทีมไทย อีกประมาณ 20 คน'

         จากนั้นจึงพูดว่า "สิ่งที่พี่อยากได้จากเด็กฝึกงานคือความตรงต่อเวลา เข้างาน 9.30 -18.30 น. มีเวลากินอาหารกลางวัน 1 ชั่วโมง แต่ช่วงนี้กลับเร็วได้ แต่ถ้าจิมมาเมื่อไหร่เลิกงาน 18.30 ก็คือต้องออกจากออฟฟิศ 18.30 น." พอได้ยินแบบนั้นเดือนหนาวก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ส่วนพี่ๆ ทุกคนต่างพากันหัวเราะ พี่แป้งจึงพูดเสริมอีกประโยคว่า "ตอนนี้ยังกลับเร็วได้ หนูก็รีบเก็บเกี่ยวไว้ พวกพี่ก็จะเก็บเกี่ยวไว้เหมือนกัน แต่พอจิมมาหนูจะเข้าใจเอง"
         เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน พี่หยกก็แอบมากระซิบกับเดือนหนาวว่า "ถ้าจิมมา พี่แนะนำให้น้องนั่งไกลๆ จิมดีกว่า นั่งใกล้เขาไม่ดีหรอก" แล้วพี่หยกก็กลับไปทำงานต่อ ทิ้งเดือนหนาวที่มีสีหน้ามึนงงไว้ที่เดิมโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่ม

         'เอาเถอะหนาว ถ้าพี่เขาบอกว่าเดี๋ยวจะเข้าใจเอง ก็คงจะเข้าใจเองล่ะมั้ง' เดือนหนาวพึมพำกับตัวเอง

         อย่างที่พี่ต้นบอก พนักงานทั้งหมด ถ้าไม่รวมเดือนหนาวและปริ่มจะมีทั้งหมด 4 คน ดังนั้นแต่ละคนอาจทำหลายหน้าที่ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว แต่ละคนมีหน้าที่ดังนี้

    • พี่ต้น เป็นบรรณาธิการการ์ตูน
    • พี่แป้ง เป็นผู้ประสานงาน
    • พี่เมเม่ เป็นบรรณาธิการนวนิยาย
    • พี่หยก เป็น User Opreator

         ส่วนเดือนหนาวและปริ่มเข้ามาฝึกงานตำแหน่งบรรณาธิการ และอาจมีงานอื่นให้ทำบ้างแล้วตามแต่โอกาส
         วันแรกยังไม่มีอะไรมาก เราเสียเวลาช่วงเช้าไปกับการจัดแจงพื้นที่ทำงาน 
         พี่ต้นให้เดือนหนาวไปนั่งที่ 'คุณจิม' ชั่วคราว เพราะในห้องมีโต๊ะแค่ไม่กี่ตัว และยังไม่คิดจะซื้อใหม่ เพราะมีแผนว่าจะย้ายออฟฟิศภายในเดือนสิงหาคม  
         จากนั้นพี่ต้นก็จัดการเก็บของบนโต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งพี่แป้งแอบมากระซิบกับเดือนหนาวว่า 'โต๊ะตัวนั้นเป็นโต๊ะวางของ'  แต่ในเวลาต่อมาโต๊ะตัวนั้นก็กลายเป็นโต๊ะทำงานของปริ่ม

         เวลาล่วงเวลามาจน 11.00 น. 

         "เก็บของแล้วลงไปกินข้าวกัน" พี่แป้งพูดขึ้น หลังจากนั้นทุกคนก็ทยอยเก็บของ

         พี่เมเม่เล่าให้เดือนหนาวฟังว่าเราต้องรีบลงมากินข้าวกลางวันก่อนเที่ยง เพราะออฟฟิศอยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ธนาคารออมสิน ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 2,000 คน ถ้าไม่รีบ พวกเธอต้องทำสงครามแย่งยิงร้านอาหารกับพนักงานเหล่านั้นแน่
         พี่ต้นพาทุกคนมาที่ Jong Dimsom ที่อยู่ห่างจากออฟฟิศไปประมาณ 3 ช่วงตึก เดือนหนาวคิดว่านี่เป็นร้านอาหารบรรยากาศดีอีกร้านหนึ่ง พวกเธอเลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่างชั้นสอง แล้วจัดการสั่งอาหารทันที

    บรรยากาศร้าน  Jong Dimsom
    อาหารกลางวันมื้อแรก
         พวกเธอใช้เวลากินอาหารกลางวันเกือบหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากมีเวลาเหลืออยู่นิดหน่อย พี่เมเม่และพี่หยกเลยพาเด็กฝึกงานสองคนไปดูร้านค้าใกล้ๆ แน่นอนว่าวันนี้คงดูไม่หมด พี่เมเม่และพี่หยกเลยพาพวกเธอมาที่ 7-Eleven ก่อนเป็นอันดับแรก
         "เอาล่ะ อยากน้อยก็ไม่อดตายแน่ๆ"

        หลังมื้ออาหารกลางวัน ทุกคนแยกย้ายทำงานของตัวเองสักพักหนึ่ง จากนั้นก็มีการโทรศัพท์คุยกับคุณจิม เรื่องการจัดกิจกรรมและแจกของรางวัล เมื่อคุยกันเรียบร้อยก็มีการพิมพ์รายงานสรุปแล้วส่งเมล์ไปให้จีนอีกรอบหนึ่ง
         โดยการทำงานที่นี่ ส่วนใหญ่จะติดต่อการทางเมล์และ WeChat เป็นหลัก เดือนหนาวจึงต้องสมัคร WeChat เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อกับคนอื่น      
         บรรยากาศการทำงานไม่ได้เงียบจนน่าอึดอัด แต่ก็ไม่ได้เสียงดังเกินไปจนรบกวนสมาธิ ระหว่างการทำงานมีการปรึกษากันเรื่อยๆ และมีพูดคุยหยอกล้อบ้างเป็นบางครั้ง
         เสียงพูดคุย เสียงเคาะแป้นพิมพ์ เสียงฝนกระทบหน้าต่างดังผสมผสานกันคล้ายเสียงดนตรี ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว

         เดือนหนาวสรุปการฝึกงานวันแรกของตัวเองว่า 'เธอชอบที่นี่ ชอบพี่ๆ ทุกคน ชอบบรรยากาศเป็นกันเอง บางทีการฝึกงานคงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้'

        แต่เธออาจจะด่วนสรุปไปหน่อย เพราะนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น 
        ไม่มีอะไรราบรื่นไปตลอดหรอก จริงไหม?


    เรื่องโดย เดือนหนาว
    ภาพโดย DO ME O

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in