เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เดือนหนาวกับการฝึกงานในฤดูฝนเดือนหนาว
ฝนโปรยปราย
  • เสียงฝนกระทบหน้า
    กลายเป็นเสียงที่ได้ยินจนคุ้นชิน


         ขณะนี้เป็นเวลา 8.45 น.
         เด็กสาวคนหนึ่งยืนโงนเงนบนรถไฟฟ้าที่มีผู้คนแน่นขนัด เธอกอดกระเป๋าสายลูกสีดำไว้แน่น สายตาเลื่อนลอยราวกับคนไร้สติ จริงๆ จะบอกว่าไร้สติก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เธอเพียงง่วงและเบื่อหน่ายเท่านั้น     เดือนหนาวมองตรงไปข้างหน้าด้วยสายตาอันว่างเปล่า เธอเพิ่งรู้ตัวว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้ห้องพักอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาเธอจึงไม่ต้องเผชิญหน้ากับการแย่งชิงพื้นที่บนรถไฟฟ้าเช่นนี้

         วันนี้เป็นวันฝึกงานวันที่สอง
        เดือนหนาวได้รับหน้าที่ให้เก็บคีย์การ์ดและกุญแจออฟฟิศไว้ เพราะคาดว่าเธอน่าจะเป็นคนแรกที่มาถึงออฟฟิศ  ดังนั้นของที่เธอต้องพกติดตัวเสมอนอกจากโน้ตบุ้คแล้วก็มีบัตรรถไฟฟ้า บัตรรถไฟฟ้าใต้ดิต คีย์การ์ด และกุญแจออฟฟิิศ
       ของที่ต้องพกติดตัว
      เดือนหนาวมาถึงออฟฟิศเวลาประมาณ 9.10 น. แม้จะค่อนข้างสายแล้ว แต่ภายในออฟฟิศยังคงเงียบสงัด ไม่มีแสงไฟ มีเพียงเสียงแดดที่ส่องลอดประตูมาจากด้านนอก เดือนสาวมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวงเล็กน้อยๆ แล้วรีบเดินขึ้นไปยังชั้นสองทันที แต่เดินไปไม่กี่ก้าว เธอก็สะดุ้งสุดตัว เพราะจู่ๆ ไฟบริเวณบันไดก็ติดขึ้นมาเสียดื้อๆ เด็กสาวยืนนิ่ง ทั้งอาคารเงียบกริบ เธอได้ยินแต่เสียงหายใจของตัวเอง
          เดือนหนาวค่อยๆ ก้าวคอยหลังมาทีละก้าว ทีละก้าว และไม่นานไฟดวงนั้นก็ดับลง ทั้งอาคารกลับสู้ความมืดอีกครั้ง เด็กสาวทำใจกล้า เดินไปทางบันไดอีกครั้งหนึ่ง แล้วไฟก็สว่างอีกครั้ง
         "อ๋อ ระบบเซ็นเซอร์" เดือนหนาวพึมพำกับตัวเองพลางส่ายหัวเบาๆ 

         เมื่อมาถึงชั้นสองซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ เธอก็จัดแจงเปิดห้อง เปิดไฟ เปิดเครื่องปรับอากาศ เอาโน้ตบุ้คออกมาตั้ง แล้วเดินลงไปชงกาแฟชั้นล่าง ก่อนจะเอากาแฟขึ้นมาจิบพร้อมกับทำงานไปด้วย อีกไม่นานนี่คงกลายเป็นชีวิตประจำวันที่คุ้นเคย
         ทำงานได้สักพักๆ พวกพี่ต้นก็มาถึงออฟฟิศ
         "เฮลโหล" พี่ต้นเอ่ยทักทาย
         "สวัสดีค่ะพี่ต้น" เดือนหนาวพูดพลางยกมือไหว้
         "นี่เธอพาใครมาทำงานด้วยเนี่ย" พี่ต้นพูดพลางชี้ไปที่ตุ๊กตาสองตัวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเด็กสาว
         "อ๋อ ลูกหนูเองแหละ ตัวที่ใส่ชุดตุ๊กตากระต่ายสีชมพูชื่อ 'หวานเจี๊ยบ' อีกตัวชื่อ 'จอจีม' ค่ะ"
         พี่ต้นมีสีหน้าประหลาดใจก่อนจะพูดว่า "เอาที่เธอสบายใจเถอะ" เดือนหนาวหัวเราะเบาๆ แล้วหันมาสนใจงานของเธอต่อ
    โต๊ะทำงานของเดือนหนาว
         ในออฟฟิศนอกจากน้องหวานเจี๊ยบกับน้องจอจีมของเดือนหนาวแล้ว ยังมี 'เซซิล' หรือที่คนอื่นเรียกว่า 'แอนนาเบล' ของพี่เมเม่ และ 'เองเจล่า' หรือ 'เจ้ากรรมนายเวร' ของพี่ต้น แต่ต้นนี้พี่แป้งยึดไปแล้ว หมายความว่าในออฟฟิศมีตุ๊กตาถึงสี่ตัวด้วยกัน
          จริงๆ แล้วเดือนหนาวไม่รู้ว่าจะเรียกเองเจล่าว่า 'ตุ๊กตา' ดีไหม เพราะความจริงเองเจล่าคือรูปปั้นที่มีหัวเป็นหลอดไฟ แต่ที่เธอยังเรียกมันตุ๊กตาเพราะพี่ๆ บอกว่าเองเจล่าเป็นเพื่อนกับเซซิล ตอนกลางคืนนั้นสองคนมักจะลุกขึ้นมาคุยก่อนบ่อยๆ
         พอนึกมาถึงตอนนี้เดือนหนาวก็คิดว่าเธอจะไม่ทิ้งหวานเจี๊ยบกับจอจีมให้อยู่กับสองสาวตอนกลางคืนแน่ๆ

         พอทุกคนมาครบ พี่เมเม่ก็เรียกเดือนหนาวมาคุยเล็กน้อย
         นิยายที่เดือนหนาวเพิ่งลองแก้ไป บางประโยคพี่หยกไฮไลท์สีเหลืองไว้ ซึ่งนั่นเป็นส่วนที่พี่หยกคิดว่า 'ยังไม่เป็นธรรมชาติ' และบางส่วนมีไฮไล์สีเขียว ซึ่งเป็นส่วนที่เดือนหนาวไฮไลท์ไว้เองจากการฟังพี่เมเม่คอมเมนท์
         "อันดับแรกก็จับ mood&tone ของเรื่อง และ character ของตัวละครให้ได้ก่อน แล้วก็รักษามันไว้" เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่พี่เมเม่กำชับไว้ จากนั้นก็มอบหมายงานให้เดือนหนาวทำต่อ
         "สงสัยตรงไหนถามได้เลยนะ" พี่เมเม่ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะแยกไปทำงานของตัวเอง

         วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกหนัก
         พี่ต้นและพี่แป้งกลับไปก่อนแล้ว เพราะมีธุระต้องไปทำต่อ
         ส่วนเดือนหนาวกับปริ่มหลังจากส่งงานส่วนที่ีทำเสร็จก็ถูกพี่หยกและพี่เมเม่ไล่กลับบ้านด้วยเหตุผลว่า 'เดี๋ยวน้ำท่วม'
         ตอนแรกเดือนหนาวแอบสงสัยว่าฝนตกแค่นี้ทำให้น้ำท่วมได้เลยหรือ แต่เมื่อเธอออกมาจากอาคาร คำตอบก็ปรากฏแก่สายตา น้ำเจิ่งนองทัั่วทางเดิน บางจุดท่วมสูงเลยข้อเท้าขึ้นมา แถมยังมีซากแมลงสาปตัวใหญ่ลอยมาตามน้ำอีกด้วย
         เดือนหนาวได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนและเดินย่ำน้ำต่อไป

         การฝึกงานไม่ใช่แค่การ 'เรียนรู้การทำงาน' 
        แต่รวมถึง 'เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วย'


    เรื่องโดย เดือนหนาว
    ภาพโดย DO ME O

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in