พรีเมียร์แรกในชีวิตกับ

Kingsman: The Golden Circle World Premiere

ที่เกริ่นไปในตอนแรกว่าการมาเรียนพรี 5 สัปดาห์มันคุ้มมากๆ ความคุ้มมากอยู่ตรงนี้นี่แหละค่ะ เนื่องจากเปิดเรียนตั้งแต่สิงหาคมเลยได้มีโอกาสมางาน Kingsman: The Golden Circle World Premiere ที่ลอนดอนในเดือนกันยายน

ก่อนจะไปงานนี้ก็ลุ้นมากว่าจะจัดวันไหนเพราะใกล้ฉายแล้วก็ยังไม่แจ้งวันสักที พอบอกว่าเป็น 18 กันยายน ตอนนั้นทำใจไว้แล้วว่าจะไม่ได้ไปแน่ๆ เพราะกำหนดการเดิมคือย้ายเข้าหอวันที่ 17 กันยายน ระหว่างนั้นก็ตามข่าวตลอดว่าจะแจกริสแบนด์วันไหน (ต้องมีริสแบนด์เท่านั้นถึงเข้าไปในส่วนของงานได้) จนแล้วจนเล่าไม่มีข่าวออกมาเลย ทำใจรอบสอง

แต่พอมหา’ลัยแจ้งว่าหอพร้อมตั้งแต่ 14 กันยายนก็หน้าระรื่นเลยค่ะ (แต่ช่วงนั้นไปดูละครเวทีที่เคมบริดจ์ซึ่งจะมาเล่าในตอนต่อไป) เลยต้องย้ายหอวันที่ 15 กันยายนแทน พอย้ายเข้าหอใหม่ปุ๊บ วันรุ่งขึ้น 16 กันยายน เดินทางลงลอนดอนทันที (พอรู้ว่าย้ายหอได้ก่อนก็จองที่พัก / ซื้อตั๋วรถไฟพร้อมค่ะ) โดยจะอยู่ที่นั่น 16 - 19 กันยายน เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะแจกริสแบนด์ก่อนวันงาน (17) ออยล์เลยไปแสตนด์บายตั้งแต่ 16 เลยเนื่องจากเดินทางไกลมาก

ไปถึงก็ไปดูลู่ทางในเลสเตอร์ สแควร์ (เคยมาแล้วเมื่อสองปีก่อนเลยไม่มีปัญหาในการเดินทางเท่าไร) วันนั้นยังไม่มีการจัดอะไรทั้งสิ้นค่ะ เลยแวะไปร้าน Kingsman x Mr Porter กะว่าจะไปดมน้ำหอม Kingsman เสียหน่อย ถ้ามันหอมก็จะซื้อ ปรากฏว่าขายหมดแล้วกำลังรอสั่งเพิ่ม แต่มีตัวอย่างให้ลองกลิ่นซึ่งหอมมาก หอมละมุน ตามมาด้วยกลิ่นหล่อๆ เป็นน้ำหอมที่หล่อมาจริงๆ

บรรยากาศภายในร้าน มีแฟนเกิร์ล / แฟนบอยเยอะมาก

หลังจากนั้นก็กลับโรงแรม นั่งตามข่าวเรื่องริสแบนด์ซึ่งแน่นอนว่ายังเงียบกริบ ทางฟ็อกซ์ยังไม่แจ้งรายละเอียดใดๆ ทั้งนั้นเลยมีแนวโน้มว่าน่าจะแจกวันงานเลย (18) แต่ในใจก็รู้สึกว่ายังไงวันรุ่งขึ้นต้องไปเลสเตอร์ สแควร์อีกรอบเพื่อความชัวร์ น้องที่รู้จักแนะนำเพื่อนที่ไปงานพรีเมียร์บ่อยๆ มาให้เลยทักเขาไปคุยเรื่องริสแบนด์ซึ่งก็ยังไม่ทราบข่าวเหมือนกันว่าแจกเมื่อไร

ตื่นเช้ามาก็เช็คข่าวต่อ มีคนไปรอที่เลสเตอร์ สแควร์ตั้งแต่ตีสี่ค่ะแต่เขาไม่ได้บอกว่าแจกริสแบนด์ไหม หรือยังไง เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์อาหารเช้าของที่พักเสิร์ฟช้ากว่าวันอื่นๆ ค่ะ รอเวลากินข้าวเช้าเสร็จก็เดินทางไปเลสเตอร์ สแควร์ มาถึงก็พบว่าเขากำลังจัดสถานที่กันค่ะ

ระหว่างนั้นก็ตามข่าวไปด้วยก็มีคนบอกว่าเขาแจกคิวอยู่ในร้าน Mc ตอนนั้นก็เช็คทั้งเฟส ทั้งทวิตเตอร์ ไปเจอคนนึงที่เขากะจะมารับคิวเช่นกันเลยทักเขาไป กะว่าจะรอเจอกันเพราะไม่รู้เลยว่าเขาแจกอะไรที่ไหน ถามในเพจไปก็ได้รับข่าวสารว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่นั่งอยู่แม็ค เลยเดินเข้าไปสอบถาม จนกระทั่งเจอเจ้าหน้าที่ที่ว่า เขาให้เราลงชื่อและเขียนเลขลงบนมือก่อนพร้อมแจกใบปลิวหนึ่งใบเพื่อให้เราตัดสินใจว่าจะยืนตรงไหนในงานโดยให้กลับมาที่นี่อีกครั้งตอน 11 โมง

คนที่ทักในทวิตเตอร์เขามาถึงพอดีก็พาเขาเข้าไปในแม็คเพื่อรับเลข เนื่องจากเขาต้องกลับไปทำงานเลยนัดกันว่า 11 โมงมาเจอกันอีกที ตอนนั้นเลยแจ้งข่าวในทวิตเตอร์ทารอนไทยว่าใครจะมาก็มารับเลขในแม็คได้ โชคดีที่มีพี่คนไทยสองคนจะมางานนี้ด้วย ใกล้ๆ 11 โมงพี่ๆ ก็มาถึง ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ย้ายที่แจกคิวไปที่หน้าโรงหนัง Odeon แทนแล้ว

11 โมงกว่าๆ ก็เริ่มแจกริสแบนด์โดยเรียงลำดับตามคิวที่ได้ เลือกโซนสีฟ้าอ่อนไป วันนี้มีแจกริสแบนด์จำนวนจำกัด สีฟ้าอ่อนหมดเร็วมาก (มี 50 อัน) แต่เขาแจกริสแบนด์ตลอดทั้งวัน รวมถึงวันพรุ่งนี้ด้วย

สภาพหลังได้ริสแบนด์ ดีใจมาก ในที่สุด! 

มีคนไทยอีกคนที่กำลังเดินทางมาด้วยแต่อยู่คนละโซน แต่ก็นัดกันแล้วว่าวันรุ่งขึ้นจะมาเจอกัน เจ้าหน้าที่ให้มาตอนเที่ยง แต่ตั้งใจว่าจะมาเจอกันก่อนค่ะ

วันที่ 18 วันงาน ตื่นเต้นมาก กินข้าวเสร็จก็ไปเลสเตอร์ สแควร์ทันทีเลยเห็นว่าเขากำลังจัดสถานที่กันไม่เสร็จเลย

ไปนั่งรวมตัวกับกลุ่มคนไทยในแม็ค มีกันอยู่สี่คน พี่ๆ เขาเตรียมพร้อมมากมีป้ายด้วย แต่เด็ดสุดคือผ้ากันเปื้อนสีส้ม

ระหว่างนั่งฆ่าเวลาในแม็คก็เห็นคนทวีตว่ามี Kingsman Cross ที่คิงส์ครอส มองเวลาแล้วทันเลยนั่งรถไฟไปกันทันที

คุ้มค่ากับการมาเพราะงานดีมากๆ

คุยกับคุณงานดีนานมากก่อนจะลากันแล้วกลับไปที่เลสเตอร์ สแควร์อีกครั้ง

ซื้อของกิน...นั่งรอ...มองเวลาแล้วก็พบว่าเลท...สถานที่ก็ยังจัดกันอยู่ค่ะ

จนเห็นเจ้าหน้าที่เดินถือโทรโข่งเดินผ่านไป ตอนแรกก็คุยกันเล่นๆ ว่าน่าจะเดินตามเขาไปแต่สุดท้ายยังนั่งๆ ยืนๆ รอเรียกแถว จนเห็นว่ามีคนเข้าไปข้างในแล้ว แตกตื่นกันใหญ่ แต่สุดท้ายก็ได้เข้ามา

อยู่ตรงหน้าสื่อ...ข้อดีคือเห็นทุกคนแน่ๆ...ข้อเสียคือเขาอาจไม่แวะมาตรงนี้

มีน้องหมามาเดินพรมส้มด้วย

คนแรกที่มาถึงคือแฮนนา (เล่นเป็นเจ้าหญิง)

คนที่สองคือทารอน!!! ตกใจที่มาเร็วมาก

เขาเดินแจกลายเซ็นสลับกับให้สัมภาษณ์ เดินข้ามไปข้ามมาจนมาถึงในที่สุด

ทารอนเห็นรูปจากดีลีทซีนของภาคแรกที่พูดถึงกันบ่อยๆ ของพี่คนไทยแล้วถึงกับยิ้ม มีการชมว่าหล่อจังแล้วก็เซ็น

พอเห็นว่ามีผ้ากันเปื้อนสีส้มเขียนว่ามาจากไทยก็เซ็นให้

จากนั้นก็ขอลายเซ็นกับถ่ายรูปคู่มา พอทารอนเดินผ่านไปแล้วเลยมาดูว่าเซ็นอะไรลงบนรูปจากดีลีทซีน

เห็นละถึงกับพูดขึ้นมาพร้อมกันว่า Taron loves Colin!!!

รูปและผ้ากันเปื้อนเป็นของคุณ @n0namae

หลังจากนั้นนักแสดงก็ทยอยเดินทางมาค่ะ ส่วนมากจะเห็นเขาจากการยืนสัมภาษณ์สื่อฝั่งตรงข้าม ลุงคอลินบอกว่าจะกลับมาแต่มาไม่ถึง

เนื่องจากเป็นเมนทารอน เลยถ่ายทารอนเสียส่วนใหญ่

คุณเจฟฟ์

คุณมาร์ค

เปโดร

โซฟี

แชนนิง

โจนาธาน รอส สามีของเจน โกลด์แมน หนึ่งในคนเขียนบทก็มา ขอถ่ายรูปคู่มาด้วย เลยโดนแซ็วที่ใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายเซลฟี (ส่วนมากใช้มือถือกัน) 555555

แอนดี้ก็มา (ไม่พลาดที่จะเซลฟี)

คุณเด็กซเตอร์ ผู้กำกับ Eddie the Eagle ก็มา (ขอถ่ายรูปด้วยอีกเช่นกัน)

ระหว่างอยู่ในนั้นไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีเท่าไรค่ะ กะว่ามาตามดูไลฟ์ทีหลังเอา กระทั่งทุกคนเดินเข้า Odeon ไปแล้วงานก็จบลง แต่ทางนี้ยังไม่กลับเพราะมีคนบอกว่านักแสดงต้องเดินมาขึ้นรถที่นี่ รอไปสักพักก็เห็นทารอนเดินมาละ ตามมาด้วยคนอื่นๆ เพื่อเข้าไปในโรงหนัง Empire

ตอนเดินออกทุกคนออกมาหมดยกเว้นทารอน คิดว่าถ้าไม่ได้เดินออกทางอื่นก็คงนั่งดูหนังอยู่ข้างใน คุณแคลร์ (publiscist ของทารอน) ออกมาก่อน เจ้าหน้าที่ก็เดินมาบอกให้ทุกคนออกจากบริเวณเพื่อจะเคลียร์พื้นที่

พอเดินมาด้านนอกก็เห็นเจ้าหน้าที่/แฟนๆ กำลังแกะพวกป้ายคิงส์แมนทั้งหลายแหล เลยไปแกะมาด้วยเลย น่าเสียได้ไม่ได้ถ่ายตอนแกะมา ตอนนี้ก็หวังว่าจะมีจัด Kingsman Only 2 จะได้นำป้ายไปใช้ อิอิ

สุดท้ายแล้ว เสียดายที่ไม่ได้รูป/ลายเซ็นลุง แต่ด้วยความเป็นเมนทารอนเลยอิ่มเอมมาก คิดถูกมากที่ตัดสินใจมารอจนได้ริสแบนด์

ขอบคุณพี่ๆ ที่มาร่วมสนุกในวันนั้นด้วย เป็นพรีเมียร์แรกในชีวิตเลย ทารอนเป็นคนน่ารักมาก ไม่แปลกใจเลยที่ใครร่วมงานด้วยก็เอ็นดูเขา

ตอนต่อไปเป็นการดูละครเวทีที่เคมบริดจ์รวมทั้งเที่ยวเล่นนิดๆ หน่อยๆ

ป.ล. น้ำหอมกลับเข้า Stock แล้ว...งดงามมาก