เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Love and PainMercuvellia
Love and Pain (Short story)
  •  

             อรุณกาลนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเป็นผักขณะสายตาอันว่างเปล่าของเขาจับจ้องไปที่ภรรยาซึ่งนั่งอยู่เก้าอี้ข้าง ๆกำลังใช้มีดปลอกผลไม้อย่างช่ำชอง  

             เธอใช้มีดเก่ง  เก่งเกินไปด้วยซ้ำนับตั้งแต่วันที่เขาและเธอแต่งงานกันและในคืนเข้าหอเธอกระซิบบอกกับเขาภายหลังจากที่เขาและเธอพึ่งเสร็จกิจ

             พี่  ฉันทำอาหารไม่เค่อยเก่งนะ

             ตอนนั้นเขาไล้นิ้วไปตามต้นแขนของเธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

             พี่หาเมียไม่ได้หาแม่บ้านสักหน่อย  ถ้าเธอทำไม่เป็น  เราซื้อแกงถุงกันก็ได้หรือไม่เราก็ไปกินข้าวนอกบ้าน หาอะไรอร่อยๆ กินกันไง

             รอยยิ้มแสนงดงามของอัปสรในยามนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอช่างเป็นดั่งนางฟ้าสมดั่งชื่อของเธอ

             ยามรัก  คนเรานั้นก็ลุ่มหลง มัวเมา คล้ายกับยามที่ดื่มเหล้า แต่เมื่อถึงยามเช้าเมื่อสร่างเมาก็ราวกับภาพความจริงกระจ่างชัดพอ ๆ กับภาพอดีตในยามเมามายก็กลายเป็นภาพที่เลือนราง

     

             เย็นนี้เราไปกินข้าวข้างนอกกันดี...

             พี่เลิกดึก  พี่ขอกลับไปพักได้ไหม เราจะให้พี่เหนื่อยขับรถออกไปอีกเหรอ

     

               แล้วนี่อะไร  กินแต่แกงถุง  เธอหัดทำกับข้าวเองบ้างไม่เป็นเหรอ กินของปรุงสุกใหม่ๆน่ะปลอดภัยกว่า แล้วอีกอย่างถ้าทำเองมันจะได้ไม่เปลือง  ออกไปกินข้างนอก ไข่เจียวจานเดียวตั้งหลายบาท ไม่อร่อยพี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ

     

               พี่เลิกดึกนะ  เรากินอะไรไปก่อนเลย  ไม่ต้องทำเผื่อนะ พี่จะกินข้างนอกก่อนกลับเข้าไป

               สุดท้ายเขาเป็น...เขาที่ได้กินอาหารฝีมือของเธอแบบนับครั้งได้

     

               ไม่ต้องรอพี่นะ  เข้านอนไปก่อนได้เลย’

               สุดท้ายก็เป็นเขาเอง...ที่ปล่อยให้เธอนอนเหงาเพียงลำพัง

     

             “สรไม่โกรธพี่รุ่งหรอกนะคะเธอบอกขณะปอกผลไม้และจัดเรียงใส่ในจานอย่างสวยงาม

             อรุณกาลยังคงมองเธอ  เขาอยากถามว่าเธอไม่โกรธเขาเรื่องไหน เรื่องที่เขาบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ชอบ  เรื่องระยะหลังเขาและเธอทะเลาะกัน  เรื่องที่เขาเปลี่ยนไปหรือเรื่องที่เขานั้น...นอกใจเธอ...

             มีเรื่องมากมายที่อรุณกาลรู้ว่าอัปสรสมควรจะโกรธและบางเรื่องเขาก็รู้แล้วว่าเธอโกรธเขา โกรธแบบที่ทำให้เขาได้เห็นสายต่แห่งความเคียดแค้นมาจากสายตาของเธอ

             อรุณกาลอยากถามเธอจริง ๆว่าเรื่องไหนกันที่เธอนั้นไม่โกรธ  แต่ทว่าเขาก็ทำได้เพียงถามมันในใจ เนื่องจากในเวลานี้ร่างกายของเขาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงคนป่วยและตามร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยสายระโยงระยาง มันเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยในการรักษาและขณะเดียวกันก็เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยื้อชีวิตของเขาเอาไว้

             “สรไม่โกรธ...กับเรื่องที่พี่นอกใจสรแล้วไปกับอีนั่น

             อา...นั่นคือสิ่งที่เขาควรขอโทษเธออย่างที่สุดสินะ.. อรุณกาลคิด

             “แล้วก็...เรื่องที่พี่เคยลงไม้ลงมือกับสร

             มันเป็นอุบัติเหตุ  เขาไม่ได้ตั้งใจ...

             อรุณกาลนึกถึงเหตุการณ์ที่อัปสรเคยเข้าไปตบตีผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วย ในตอนนั้นเขาเพียงจะเข้าไปห้ามปรามเธอ  แต่เพราะอัปสรเอาแต่สติแตกโวยวายจนน่ารำคาญและเธอก็ยังตบตีเขา เขาจึงตอบโต้เธอ...  เขาพยายามป้องกันตัว แต่มันคงรุนแรงไปนิดหน่อยสำหรับเธอ

             เขาไม่ผิด... เขาเข้าข้างตัวเอง

              

             ก๊อก ก๊อก...

             เสียงเคาะประตูดังขึ้นเพียงสองครั้งก่อนร่างของคุณหมอจะเดินเข้ามาอัปสรลุกจากเก้าอี้

             “คุยตรงนี้ได้ไหมคะคุณหมอ...อัปสรเอ่ยขึ้น

             คุณหมอมองมาที่ร่างบนเตียงคนไข้  อรุณกาลเห็นสายตาที่มองลอดแว่นสายตาของคุณหมอวัยกลางคนสายตาของเขาที่มองมาแวบหนึ่งมีแววเวทนาจนน่าใจหายก่อนเขาจะหันกลับไปสบสายตากับภารยาของเขาดันแว่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะวางมาดเคร่งขรึม

             “คุณภรรยาอธิบายกับคนไข้แล้วเหรอครับคุณหมอเอ่ยถามกับอัปสร

             อัปสรส่ายหน้าจะบอกช้าหรือบอกเร็ว ก็คงมีค่าเท่ากันสำหรับฉันและสามีค่ะ

             คุณหมอถอนหายใจแล้วจึงพยักหน้า

     

             กว่าสิบนาทีที่หมอพยายามอธิบายอาการป่วยวิธีการรักษาวิธีต่าง ๆ ความเสี่ยงผลกระทบและวิธีการดูแลหลังออกจากโรงพยาบาลอรุณกาลก็รับได้ว่าเขากับความตายอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม  เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอัปสรผู้หญิงที่เขาเคยทอดทิ้งผู้หญิงคนที่เขาทำร้ายจิตใจมานับครั้งไม่ถ้วนถึงให้อภัยกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปกับเธอ

             อรุณกาลอยากเอื้อมมือไปกุมมือของเธอเอาไว้ปลอบให้กำลังใจว่าเขาจะพยายามอยู่เคียงข้างเธอตราบลมหายใจสุดท้ายของเขาสิ้นสุดลง

             ทว่าอรุณกาลกลับไม่สามารถทำสิ่งใดได้  เพียงแค่จะขยับตัวความปวดร้าวก็แล่นพล่านไปแทบทุกส่วนของร่างกายของเขาหรือการจะพูดความในใจออกมาท่อช่วยหายใจที่เจาะลงที่บริเวณลำคอของเขาก็ทำให้เขาต้องขอร้องให้อัปสรช่วยปิดวาล์วที่ปลายท่อหลอดลมก่อนเขาจึงจะสามารถพูดออกมาได้ แต่นับตั้งแต่อรุณกาลฟื้นขึ้นมามีเพียงไม่กี่ครั้งที่อัปสรมาช่วยปิดวาล์วที่ลำคอเพื่อที่จะพูดกับเขา เขาคิดว่าเธออาจไม่ต้องการที่จะได้ยินเขาพูดอะไรออกมาอีก เขาจึงได้แต่รอ...

     

             “ถ้าหากคุณหมอพิจารณาว่าการผ่าตัดนั้นเสี่ยงดิฉันก็จะไม่อนุญาตให้ผ่าสามีของดิฉันค่ะ

             อรุณกาลมองเธอ

             “แต่ถ้าหากผ่าก็จะเป็นการดีกับ...

             “ดิฉันจะไม่ให้สามีผ่าค่ะเธอยังย้ำอีกครั้ง

             “เขามีโอกาสหายนะครับ

             “แต่คุณหมอก็บอกดิฉันนี่คะว่าเขาจะไม่หายสนิท ผลข้างเคียงก็ยังเกิดขึ้นกับเขาและหลังการผ่าตัด....เธอหันมาเม้มริมฝีปาก

             อรุณกาลรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อมองใบหน้าของภรรยา เขาอธิบายไม่ได้ว่าภาพที่เห็นนั้นเป็นใบหน้าของภรรยาหรือภาพฝันที่เลือนรางจากฤทธิ์ยาจากการรักษาที่เขารับเข้าไปกันแน่ เพราะเขาเธอเบะปากคว่ำราวกับเศร้าเสียใจ  แต่แววตาที่มองมาของเธอนั้นกับแสดงออกอย่างสมเพชระคนสะใจ  ราวกับเป็นใบหน้าของสิ่งชั่วร้ายที่เขานั้นไม่รู้จัก

             “แค่คิดว่าเขาจะเป็นอัมพาตดิฉันก็ทำใจไม่ได้เธอยกมือปิดใบหน้าแล้วแสร้งสะอื้น

     

               อิงูพิษ....

     

             “อย่าโกรธกันนะคะ  ที่ฉันไม่ยอมให้พี่ได้รักษา

             หมอเดินออกไปจากห้องแล้วสิ่งที่เหลืออยู่ก็เพียงธาตุแท้ของภรรยาที่รักของเขา...

             อรุณกาลไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่แสนชั่วร้ายแบบนี้ 

             เธอกำลังจะฆ่าเขา... ฆ่าด้วยการปฏิเสธการรักษา และปล่อยให้เขาตายอย่างช้า ๆท่ามกลางสายตาของคนรอบตัวที่มองมายังเธอด้วยความสงสาร  เธอจะกลายเป็นหญิงแม่ม่ายที่สามีนอกใจ พอสามีประสบอุบัติเหตุทำให้เขานอนเป็นผักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบรรดาญาติ ๆ ก็ยังสรรเสริญว่าเธอเป็นผู้หญิงเข้มแข็งน่าสงสาร  โดนผู้ชายชั่วช้าอย่างเขาทำร้ายสารพัดเธอก็ยังมาดูแลในชั่วสุดท้ายของชีวิต 

             และเขาเองก็จะกลายเป็นขี้ปาก  ไอ้ผัวชั่วนอกใจเมีย  สมน้ำหน้าที่มันโดยเมียน้อยทิ้งตอนที่มันใกล้ตายมันก็ได้เห็นธาตุแท้ของคน แต่สุดท้ายมันก็ตาย...

             สิ่งที่ตามหลังของเขามาก็เป็นเพียงแต่คำสาปส่งให้ตกนรกหมกไหม้...

            

             อรุณกาลคิดสิ่งต่าง ๆ แล้วก็ได้แต่กำหมัดแน่นความเจ็บปวดร้าวไปทั่วแขนในทุกขณะที่เขากำมือแน่นแต่นั่นก็ยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำกับความเจ็บปวดที่เขาได้รับในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต

             “พี่โกรธสรเหรอคะ

             อัปสรยกมือมากอบกุมมือของเขา  แล้วเธอก็บีบมือเขาแน่นยิ่งกว่าที่เขาบีบมือตัวเอง

             อรุณกาลมองอัปสรด้วยสายตาที่วาวโรจน์โกรธจนแทบจะอยากจะสะบัดมือที่กุมมือไว้ของเธออกไป และอยากจะไล่ตะเพิดอีกฝ่ายให้ไปไกลหูไกลตาของเขาด้วย  ทว่าคำพูดแต่ละคำที่ออกจากปากเขานั้นแทบไร้เสียง เป็นเพียงลมหายใจขาด ๆหาย ๆ คล้ายกับชีวิตของคนที่ใกล้ความตายเช่นเขา

             “พี่ไม่ต้องพยายามบอกให้สรรู้หรอกค่ะว่าพี่เกลียดสร ตั้งแต่พี่รู้ว่าสรรู้ว่าพี่ไปนอนกับอีนั่น  สรก็เห็นสายตาของพี่บอกกับสรนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่าพี่เกลียดสร ครั้งนี้สรจะบอกกับพี่บ้างนะคะว่าสรน่ะ...เธอค่อยๆ ปาดน้ำตาที่พยายามควบคุมความเกรียวกราดของเธอไม่ให้เธอเอะอะมันขึ้นมา เธอไม่ต้องการให้พยาบาลหรือหมอที่อยู่นอกห้องแตกตื่น 

             เพียงแค่เธอพยายามยืนยันว่าจะไม่ผ่าตัดสามีทั้งที่มีโอกาสหายเพียงแค่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องซุบซิบนินทาที่เธอได้ยินระว่างทางเดินที่มายังห้องรักษาตัวของสามีเธอแล้ว

             เธอกำลังรอคอย...เพียงไม่นานหรอกที่เธอจะปลดเปลื้องความทุกข์ระทมทั้งชีวิตของเธอและต่อให้เธอต้องการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกเพียงลำพัง เธอก็ยังดีใจกว่าให้เขาหรือเธอต้องเกิดมาเจอกับไอ้ชาติชั่วผัวเธอคนนี้

            

             สรเม้มริมฝีปากกลืนก้อนสะอื้นมองใบหน้าของสามีเธอแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูของสามี

     

             “สรรักพี่รุ่ง สรขอให้พี่ไปจากโลกนี้  คนอย่างพี่สรขอให้ไม่มีชาติหน้า  ขอให้พี่อย่าได้ชิงหมาเกิดมาเป็นมารสังคมเป็นสวะของครอบครัวอีกเลยค่ะ  พี่รุ่งตายไปซะให้พ้น ๆเถอะค่ะ

     

             พอได้ฟังถ้อยคำประโยคนั้นจบอรุณกาลที่หายใจหอบกระชั้นด้วยความรู้สึกโกรธแค้น  ความโกรธเหมือนไฟที่สุมอกและลุกไหม้ในใจเขา ไม่รู้ว่าเขาพยายามลุกจากเตียงพยายามเปล่งเสียงเขาจดจำไม่ได้ว่าพูดคำพูดอะไรที่ดังก้องออกมาจากปากของเขาในเฮือกลมหายใจสุดท้ายนั้น เขาเห็นใบหน้าอัปสรหวาดกลัว เธอกรีดร้องและภาพทุกอย่างก็ตัดหายไป

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in