……….
ตอนที่ 43 : ณ คฤหาสน์ #5
“ขับให้มันนิ่งกว่านี้ไม่ได้รึไงวะเปา” เอิร์นว่า นั่งอยู่ในรถที่โขยกไปมาจากการกระแทกไม่ต่างจากรถบั๊ม
เปาขับมาจนถึงถนนที่ทอดยาวมุ่งสู่ย่านการค้าด้านล่างของหมู่บ้าน ซึ่งห่างอยู่ไม่ถึงกิโลเมตร โครม ! เสียงรถทั้งสองผลัดกันกระแทกเข้าใส่อย่างดุเดือด อ๋องที่นั่งอยู่ฝั่งขวาชะโงกตัวออกไปด้านนอก กราดยิงรถฮัมวี่ของมัน แต่ได้ไม่นานก็ต้องหุบตัวเข้ามาข้างในเมื่อรถมันเกือบเบียดเข้าชนตน
รถฮัมวี่ของมันเร่งเครื่องขึ้นอีก เปาพยายามเบียดท้ายรถของมันให้เสียหลัก แต่ด้วยรถฮัมวี่ที่ดูจะแข็งแรงและมั่นคงกว่า ทำให้เป็นฝ่ายตนที่เสียหลักเอง ตัวรถหมุนคว้างทวนเข็มนาฬิกา ควันจากการเบรกสุดแรงลอยฟุ้งขึ้นกลางอากาศท่ามกลางความมืดมิด
“บ้าเอ๊ย !” เปาสบถ กระแทกมือกับพวงมาลัย
“สวมแว่นตาให้พร้อม” อ๋องตะโกนบอกทุกคนให้ใส่แว่นมองในที่มืดก่อนรีบเปิดประตูออกไป พร้อมกระหน่ำยิงตามท้ายรถฮัมวี่อย่างไม่ลดละ
เพล้ง ! เสียงกระจกแตกดังขึ้นไกลๆ ก่อนที่รถฮัมวี่จะเบรกและหยุดนิ่งอยู่กับที่บนท้องถนน ห่างจากลานน้ำพุในย่านการค้าไปไม่ไกล พวกตนอยู่ห่างจากพวกมันเกือบกิโลเมตร
“แม่นมากเพื่อน” เอิร์นก้าวลงจากรถพร้อมกับทุกคน
“ทำไมพวกมันไม่ออกจากรถ” เปาถาม ยังนั่งอยู่ที่นั่งคนขับ
“หรือว่ามันคิดจะไปต่อ” ริกพูด นั่งอยู่ข้างเปา
“แล้วทำไมไม่ขับไปดูให้รู้ไปเลยล่ะ” เอิร์นว่า แต่ก็ถูกลูกน้องพูดแทรกขึ้นมาว่า
“ดูนั่นสิครับ” ลูกทีมชี้นิ้วไปยังรถข้าศึก
ตัวรถฮัมวี่ที่อยู่ห่างออกไปสั่นไหวไปมาก่อนจะปรากฏชายในชุดทหารสองคนพรวดออกมาจากตัวรถทั้งสองฝั่ง เกิดเสียง เกร้ง ! กร้าง ! ของโครงรถที่เริ่มถูกแรงสั่นไหว สภาพตัวรถเริ่มบิดงอคล้ายจะปริแตก กึง !
“นั่นมันอะไรวะนั่น” เอิร์นไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ทำเอาริกและเปาต้องชะโงกตัวดูให้เห็นชัดยิ่งขึ้น
เกิดแท่งอะไรสักอย่างทะลุหลังคารถออกมาจากข้างใน เสียงโครงรถดัง เคร้ง คร้าง เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น สังเกตเห็นเจ้าสองคนนั่นวิ่งโร่เข้าไปในเขตการค้าโดยไม่หันหลังมามองที่รถเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าสองคนนั้นมันวิ่งไม่คิดชีวิตเลยนะนั่น” เอิร์นว่า
“เตรียมอาวุธให้พร้อม” อ๋องสั่ง
“รับทราบ !” ลูกทีมสามคนตั้งท่าประทับปืนพร้อมโจมตีทันทีเมื่อได้ยินคำสั่ง
เปากับริกเปิดประตูก้าวลง วิ่งอ้อมไปหยิบปืนประจำตัวที่ท้ายรถ โครม ! และแล้วรถฮัมวี่ก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆซากชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่ว เผยเงาร่างกายกำยำใหญ่โต สูงร่วมสามเมตร แต่ที่ทุกคนตกใจไปมากกว่านั้นก็คือทั่วร่างเต็มไปด้วยขวากหนามที่ทั้งโผล่ไล่ยาวตามกระดูกสันหลังไหล่ และข้อศอก
“แค่พวกยักษ์ธรรมดาก็หนักมือจะแย่อยู่แล้ว นี่มันยังเพิ่มออพชั่นอีกรึ”ริกพูด
เสียงขู่ร้องคำรามของมันดังกังวานไปทั่วบริเวณ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสองคนนั้นมันจะวิ่งหนีขนาดนั้น
“รู้สึกคราวนี้มันจะฉีดไวรัสเข้าร่างจนเกิดการกลายพันธุ์นะ” อ๋องพูด
“เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ มันเดินมานู่นแล้ว” เอิร์นว่า
“ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนซะหน่อย” เปากระชับปืนไรเฟิลในมือแน่น
“ทุกคนขึ้นรถ ฝากด้วยนะเปา”อ๋องตบบ่าเพื่อนอย่างรู้กัน ก่อนขึ้นไปนั่งที่คนขับ เหลือเปาที่ตั้งท่าพร้อมยิงอยู่นอกตัวรถคนเดียว ในระหว่างที่อ๋องกำลังกลับรถ
ปัง !
กระสุนไรเฟิลพุ่งเข้าใส่ข้อพับเจ้ายักษ์เต็มๆ แต่มันเพียงแค่กระตุกเท่านั้น “ อึดขึ้นนี่”
เปารัวไปอีกสามนัดซ้อนเข้าที่ข้อพับทั้งสองข้าง มันเริ่มร้องโหยหวน เริ่มเปลี่ยนเป็นวิ่งเข้าใส่ แต่เปาก็รัวเข้าไปอีกชุด มันเปลี่ยนเป็นหันหลังวิ่งกลับตรงไปทางลานน้ำพุ ก่อนจะหันหน้ามาคำรามใส่อย่างดุดัน อันที่จริงข้อพับไม่ใช่จุดอ่อนของมันหรอก แต่ถ้าเราจัดการได้ มันก็คือเป้านิ่งดีๆ นี่เอง มันจึงเป็นวิธีกำจัดมันแบบหนึ่ง หรือไม่ก็ที่หัวถ้าปืนแรงจริง แต่ส่วนมากพวกที่ระดมยิงที่หัวเจ้ายักษ์ก็จะเอามือขึ้นกันพร้อมกับวิ่งเข้าใส่ ทำเอาตายกันเรียบ
“ขึ้นรถ” อ๋องบอก เปารีบขึ้นรถทันทีพร้อมกระแทกประตูปิด อ๋องเหยียบคันเร่งมุ่งตรงสู่ย่านการค้าเพื่อไปจัดการเจ้ายักษ์
..........
“ทิ้งฉันไว้ตรงนี้เถอะ” โจพูดเสียงค่อย
“อย่าพูดอะไรบ้าๆ น่า” ไบรอันว่า ขณะพยุงโจที่บาดเจ็บสาหัสขึ้นไปยังชั้นห้า
พวกตนไม่สามารถลงข้างล่างได้เมื่อโดนพวกกลายพันธุ์หลายสิบตัวกับพวกซอมบี้ที่ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ตายแถมยังรักษาตัวเองได้อีกหมายชีวิตพวกตนไว้
ทั้งหมดอยู่บนโถงทางเดินยาวบนชั้นห้า ส่วนหน้าของอาคารพังเสียหายไปจากการยิงถล่มของพวกมัน ทั้งชั้นเต็มไปด้วยซากอิฐและข้าวของที่เกลื่อนกลาดเสียหาย เกิดควันไฟที่ลุกโหมขึ้นเป็นบริเวณ
“กรี๊ด !” อยู่ๆ ซอมบี้ก็พรวดพราดออกมาจากห้องข้างๆ ที่ยังมีไฟลุกกรุ่นอยู่ มันพุ่งเข้าตวัดกรงเล็บเข้าใส่อลิซ เกิดบาดแผลขึ้นที่ช่วงแขน เธอยกมือขึ้นป้องกันอีกครั้งเมื่อมันทำท่าจะตะปบเธออีก
ปัง ! แคลยิงช่วยไว้ได้ทันเธอดึงตัวอลิซที่บาดเจ็บขึ้นยืนโดยไม่ได้ระวังรอบข้างที่มีเหล่าซอมบี้กระหายเลือดอยู่
“ขอโทษนะโจ” ไบรอันวางโจลงกับพื้น วิ่งเข้าถีบเจ้าเนื้อไหม้ที่คิดจะจู่โจมแคล
“รีบถอยไปเร็วเข้า” ไบรอันตะโกน ยิงซอมบี้แถวนั้นไปสามสี่ตัวก่อนหมุนตัวเตะเจ้าเนื้อไหม้อีกครั้ง แต่มันก็กระเด็นไปไม่ไกลและไม่ล้มด้วย
“ฉันยังไหว” อลิซลุกขึ้น ยิงสนับสนุนไบรอัน แคลที่อยู่ใกล้ๆ ก้มตัวหลบกรงเล็บก่อนเตะเอาเจ้ากลายพันธุ์ตัวหนึ่งเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยกองเพลิง
อั่ก ! ไบรอันพลาดท่าโดนมันซัดเข้าที่ชายโครงไปกระแทกกับผนังข้างๆ แรงมันคนละระดับกัน เขายันตัวลุกขึ้น เตะตัดขามันล้ม ยกก้อนปูนข้างๆ ขึ้นฟาดหัวมันจนล้มไปกับพื้นแต่สักพักมันก็ขยับร่างกายหมายจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“ไบรอัน !” อลิซตะโกนเรียกพร้อมกับโยนปืนยิงระเบิดไปให้
เกร้ง ! กลับกลายเป็นว่ามีเจ้ากลายพันธุ์โผล่ออกมาจากห้องตรงข้ามใช้กรงเล็บปัดปืนทิ้งลงพื้นอย่างรู้ทัน มันหันมาร่ายรำกรงเล็บของมันอย่างบ้าคลั่ง แคลรีบกระโดดทิ้งตัวลงกับพื้นเพื่อหลบ เธอพลิกตัวยิงกำจัดมันได้ก่อนหมุนตัวอีกรอบเพื่อหลบร่างที่ล้มลง
“ไม่ไหว พวกมันมากเกินไป” โจไอแค่ก ตนเอื้อมมือลงไปที่เอว คว้าเอาระเบิดมือขึ้นมา ตะโกนเรียกทุกคนให้รีบวิ่งออกจากตรงนั้น
ไบรอันกระโจนออกมาจากกลุ่มซอมบี้ สภาพสะบักสะบอมเต็มไปด้วยคราบเลือดและรอยขีดข่วนมากมายจากการทำร้ายของพวกมัน ในมือถือเพียงมีดสั้นหนึ่งเล่ม ไบรอันวิ่งตามหลังทั้งสองพลางเร่งให้ทั้งคู่วิ่งเร็วขึ้นอีก เมื่อเขารู้ว่าโจคิดจะทำอะไร
“หยุดทำไมเล่า วิ่งต่อสิ” โจพูด แอบลูกระเบิดไว้ในอุ้งมือเมื่อทั้งคู่หยุดอยู่ตรงหน้า
“เราไม่ทิ้งนายหรอกน่า” อลิซทำท่าจะพยุงโจขึ้น
“เธอวิ่งไปก่อนเลย ไบรอันมันวิ่งมานั่นแล้ว” โจตอบ ทำมือบอกให้ทั้งคู่วิ่งต่อ สูงไปบนเพดานข้างหน้าไม่ถึงร้อยเมตรปรากฏป้ายบอกทางหนีไฟอยู่ข้างบน
“โจ...” ไบรอันโน้มตัวลงจะพูด
“ที่เหลือคงต้องฝากนายแล้วล่ะ ไปซะเร็วเข้า !” โจตวาด ไบรอันลุกขึ้นวิ่งออกมาด้วยท่าทางทุลักทุเลเพราะสภาพตนก็สาหัสไม่แพ้กัน เขาออกห่างจากโจไม่ถึงเมตรก็ได้ยินเสียง กรี๊ก ! ของสลักระเบิดที่ถูกดีดออก เขาเปลี่ยนใจหันหลังวิ่งเข้าไปหิ้วปีกโจขึ้นมาเปลี่ยนเป็นท่าพยุงก่อนเริ่มออกวิ่ง รู้แก่ใจว่าเหลือเวลาไม่กี่วินาทีก่อนมันจะระเบิด
“ทำบ้าอะไรของนาย อยากตายรึไง” โจตะโกน ไม่รู้เรียกแรงมาจากไหนทั้งคู่พากันวิ่งห่างออกมาได้ไม่กี่เมตร
ตูม ! เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั้งชั้น ผนังห้องทั้งสองด้านแตกกระจายพังเป็นเสี่ยงๆเหล่าซอมบี้นับสิบโดนระเบิดตาย เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วผนังรอบๆ ร่างของทั้งคู่โดนแรงระเบิดกระเด็นถลาออกมาอีกหลายเมตร ก่อนกลิ้งขลุกไปกับพื้น
ไบรอันหันกลับ มองไปยังตำแหน่งระเบิดไม่เห็นพวกซอมบี้หรือพวกกลายพันธุ์ แต่ก็ต้องทึ่งเมื่อยังเห็นร่างของเจ้าเนื้อไหม้ที่ตอนนี้ยิ่งไหม้หนักกว่าเดิมอีกเมื่อโดนไฟจากการระเบิดที่ลุกโหมละลายเนื้อบนหน้าที่แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว เห็นแต่เนื้อแดงๆ ข้างในกับลูกตาที่ถลนปูดโปนและโครงกะโหลกอย่างเห็นได้ชัด
“มันเป็นตัวบ้าอะไรวะนั่น” ไบรอันสบถ
“ต้องระเบิดหัวมันอย่างเดียวเท่านั้น” โจตอบ นอนหอบหายใจอยู่บนพื้น
“คงจะยากถ้าเรายังอยู่ในสภาพนี้” ไบรอันพูด
“ฉันคงลุยกับนายไม่ไหวแล้วไบรอัน” ร่างกายของโจบอบช้ำแทบจะทั้งร่าง ดีที่อลิซห้ามเลือดบาดแผลถูกแทงให้ ไม่งั้นเขาคงเสียเลือดตายไปนานแล้ว
“ก็เหลือแต่ฉันสินะ” ไบรอันยันตัวลุกขึ้น เหลือเพียงเขากับเจ้าเนื้อไหม้แค่สองคนที่ยืนอยู่ เขาตั้งท่าเตรียมต่อสู้เมื่อมันเดินโซเซมาหา
“สองคนนั้นไปไหนแล้ว” โจถาม เขยิบตัวมานั่งพิงผนังฝั่งด้านใน
“นั่นสิ”
ปึง ! ประตูถูกเปิดออกอย่างแรงก่อนเผยร่างอลิซที่พรวดออกมาจากทางหนีไฟ
“ถ้าได้ยินแล้วก็ตอบด้วย เฮ้ !” เธอตะโกนเสียงดัง ในมือถือวิทยุที่อ๋องให้ไว้
แต่โชคร้ายแคลที่ตามมาข้างหลังดันถูกเจ้าซอมบี้เนื้อไหม้ใช้ฝ่ามือซัดเธอกระแทกเข้ากับกำแพง เธอกลิ้งขลุกร่วงลงไปตามขั้นบันไดก่อนนอนหมดสติอยู่ที่ชั้นพัก
“แคล !” อลิซร้องลั่นรัวกระสุนใส่เจ้าซอมบี้ที่ทำร้ายเพื่อนของเธอ ก่อนตะโกนใส่วิทยุอีกว่า
“พวกเราอยู่ที่ชั้นห้า คงยื้อได้อีกไม่นานแล้ว !”
กระสุนปืนไม่สามารถทำอะไรมันได้มากนัก มันเดินดุ่มเข้ามาหา อลิซทำอะไรไม่ถูกเมื่อมันเข้าประชิดตัวเธอก็โดนอัดไปกระแทกเข้ากับกำแพงข้างหลังอย่างจัง
“มันคิดจะโผล่ก็โผล่รึไงวะ ไอ้พวกนี้” ไบรอันสบถ เขาต้องรับมือกับเจ้าตัวข้างหน้า ถ้าเขาคิดจะไปช่วยอลิซ โจไม่รอดน้ำมือมันแน่
“โจ เอาปืนฉันไป” ไบรอันโยนปืนกลให้
“แต้งกิ้ว” โจรับมาก็รีบปลดเซฟตี้ ยิงใส่เจ้าเนื้อไหม้ที่กำลังเดินเข้าไปจัดการกับอลิซ ที่หมดสติอยู่กับพื้น
“ตื่นสิอลิซ ตื่นๆๆ” โจตะโกนเรียกชื่อเธอ ขณะยิงถ่วงเวลามันให้และมันก็หันมาทางโจในที่สุด
“เยี่ยม นี่ฉันต้องลุยทีเดียวสองตัวเลยสินะ” ไบรอันพูดขึ้นเมื่อเห็น เขาถีบเข้าที่ชายโครงตัวตรงหน้า มันเซถลาไปข้างหลัง เขาโน้มตัวลง วิ่งเข้าไปแทงมีดตรงช่วงท้องของมัน เขาชักออกอย่างรวดเร็วหมุนตัวหลบกำปั้นที่หมายจะทุบ ไบรอันแทงเข้าอีกทีที่ช่วงเอว ก่อนถีบสีข้างมันกระเด็นไปติดกำแพง เขาได้เปรียบตรงที่มันเคลื่อนไหวช้า แต่จุดที่เขาเสียเปรียบก็คงจะเป็นเรื่องแรงที่แตกต่างกันอย่างมาก แถมฟื้นตัวเองได้อีก มันแทบจะเป็นอมตะเลยก็ว่าได้
“ปืนยิงระเบิดนายไปไหนแล้ว?” โจถาม
“ไม่ได้หยิบมาตั้งแต่เห็นนายกำลังจะพลีชีพนั่นแหละ”
“จบกัน”
“ฉันคงต้องเป็นคู่ซ้อมให้เจ้านี้จนกว่าพวกหน่วยจู่โจมที่อลิซเรียกจะมาแน่ๆ”ไบรอันพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนและร่างกายที่แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
“ก็ยังดีที่มัน ต่อย เตะ อย่างเดียว จนกว่าศัตรูจะตาย ไม่ได้เล่นโหดกว่านี้”โจว่า
“แต่โดนมันซัดซักทีก็แทบยืนไม่ขึ้นนา” ไบรอันตอบ ชำเลืองมองอีกตัว
“มีแม็กสำรองมั้ย?” โจถาม ไบรอันโยนปืนสั้นให้
“เหลือแค่นี้แหละ”
..........
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา รู้สึกมึนๆ หัว ภาพที่เห็นมันหมุนคว้างไปมาสักพักก่อนจะกลับเป็นปกติ นี่ฉันมานอนตรงขั้นบันไดได้ไงเนี่ย ฉันคิดก่อนนึกได้ว่าตัวเองโดนเจ้าเนื้อไหม้นั่นซัดกระแทกเข้ากำแพงจนสลบไป
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้น เอื้อมมือไปหยิบปืนพกที่ตกอยู่บนพื้น สำลักควันไฟที่ลอยอยู่ในอากาศ มันเหมือนมีหมอกรางๆ อยู่ทั่วในความมืดมิดที่ปราศจากแสงไฟ ยังดีที่ข้างในบันไดหนีไฟไม่มีซอมบี้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสตื่นขึ้นมาแน่
ฉันเอามือปิดจมูก เหยียบขั้นบันไดเหล็ก ดึงบานประตูเข้าหาตัว สิ่งแรกที่เห็นคืออลิซที่หมดสติอยู่กับพื้น ฉันรีบวิ่งเข้าไปดูอาการเธอทันที แต่เหมือนเธอไม่เป็นอะไรมาก เพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น
“คะ แคล” ฉันหันขวับไปตามเสียงที่พยายามแค่นออกมาอย่างยากลำบาก
“โจ !” ฉันร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าโจโดนเจ้าเนื้อไหม้ใช้สองมือของมันบีบคอเขายกขึ้นเหนือพื้น ถัดไปอีกเห็นไบรอันที่นอนกุมท้อง สีหน้าเจ็บปวด เนื้อตัวไบรอันซีดเซียวผิดปกติ มันไม่ใช่รอยช้ำจากการต่อสู้ เหมือนเป็นเพราะสาเหตุอื่นมากกว่า
“ปล่อย เพื่อน ฉัน เดี๋ยว นี้ !” ฉันตะโกนก้อง ลั่นกระสุนเข้าไปที่ท้ายทอยมันอย่างแม่นยำสามสี่นัด มันร้องโหยหวนปล่อยโจลงกระแทกพื้น เขานอนกุมคออยู่บนพื้นพลางไอแค่ก
เจ้าเนื้อไหม้เดินซวนเซมาฉันใช้สันปืนฟาดเข้าที่หน้ามันสุดเเรง มันทำหน้าราวกับว่าฉันไปลูบหน้ามันอย่างนั้นแหละ ก่อนจะโดนชกเข้าที่ช่วงท้อง ความจุกก่อตัวพร้อมกับความเจ็บ ร่างกระเด็นไปข้างหลังจบลงด้วยการกระเเทกพื้น ฉันที่นอนอยู่หยิบปืนขึ้นเล็งไปทางมันที่กำลังเดินมาหาด้วยสภาพเละเทะ ก่อนรัวกระสุนไปสามนัดเข้าที่หัว มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด หงายหลังล้มลงดัง ตึง !
“ล้มซะใกล้เลยนะ” โจพูดเมื่อร่างของมันล้มห่างจากตนไปไม่กี่นิ้ว
แฮ่ ! เสียงขู่คำรามดังขึ้น โจเเละเเคลหันไปมองตามเสียง ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าต้นเสียงนั้นไม่ใช่เจ้าเนื้อไหม้เเต่อย่างใด กับกลายเป็นไบรอันที่เมื่อกี้ยังต่อสู้กับมันอย่างดุเดือดเเทน
“เเย่เเล้วไง” โจพูดเมื่อเห็นไบรอันท่าทางเปลี่ยนไป ตนสังเกตเห็นตั้งเเต่ไบรอันพุ่งพรวดออกมาจากดงซอมบี้ก่อนหน้าที่ตนจะระเบิดเเล้วว่ามีบาดแผลเต็มตัวซะขนาดนั้นคงเป็นไปได้ยากถ้าจะไม่โดนกัด
“ไม่จริงใช่มั้ย ! ไบรอัน มะ มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน” ฉันยังไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เขาโดนกัดตอนไหน ทำไมถึงไม่มีใครรู้ เเล้วยาต้านไวรัสของทีมเราล่ะ ฉันจับจ้องไปยังร่างของทุกคนเเละข้าวของบนพื้น เเต่ก็ไม่เห็นเเม้เเต่กระเป๋าสัมภาระสักใบ
“ไม่เอาน่าไบรอัน ฉันเพื่อนนายนะเว้ย” โจพูดเมื่อไบรอันกำลังจะโน้มตัวลงมาหาเขาพร้อมกับทำท่าราวกับเพื่อนคนนี้เป็นอาหารอันโอชะไปซะแล้ว
“เฮ้ ! เเคล เธอต้องทำอะไรสักอย่างเเล้วนะ” โจตะโกนเรียกฉันที่ยังทำอะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์ตรงหน้า โจกำลังยื้อเเรงกับไบรอันที่กำลังจะขม้ำเขาในไม่ช้า
“ฉะ ฉัน” ฉันได้เเต่พูดตะกุกตะกัก ทำอะไรไม่ถูก มือที่ถือปืนสั่นระริกด้วยความตื่นตระหนก ยังเห็นเจ้าเนื้อไหม้อีกตัวกำลังเดินมาร่วมวงอยู่ข้างหลัง
ฉึก ! สิ้นเสียง ร่างของไบรอันทิ้งตัวล้มทับโจ เผยมีดยาวปักคาอยู่ที่หัวของไบรอัน โจตกใจ พยายามดันร่างเพื่อนเขาออกจากตัวช้าๆ ขณะหันไปมองผู้มาใหม่ที่กำลังเดินมาทางพวกเขา มันเป็นเพียงแค่เงาลางๆ ในความมืดท่ามกลางแสงไฟที่ลุกไหม้ ร่างนั้นเพิ่งจะอยู่จุดที่โจเพิ่งระเบิดไป
“มาคนเดียวไม่น่าจะใช่พวกอ๋องนะ” โจว่า พยายามยันตัวกับกำแพงลุกขึ้น เพ่งสายตามองไปยังผู้มาใหม่ รอบๆ เขามีไฟฉายที่ติดอยู่ปลายปืนที่ตอนนี้ถูกทิ้งอย่างหมดประโยชน์เมื่อมันไม่มีกระสุนให้ใช้ แสงไฟส่องไปมาอย่างไร้รูปแบบบนโถงทางเดิน
“ใครน่ะ !” ฉันตะโกนออกไป ร่างนั้นอยู่ห่างไปหลายสิบเมตร
“ไม่ขานฉันยิงจริงๆ ด้วย” แต่ร่างตรงหน้าก็ยังไม่ตอบ มือที่จับปืนอยู่ยังสั่นเทาด้วยความวิตกและตื่นกลัว กลัวที่จะต้องพาทีมมาตายกันที่นี่ ทั้งอลิซที่ยังไม่ได้สติ โจที่สาหัสปางตาย และไบรอันที่เพิ่งจะกลายเป็นซอมบี้และโดนเจ้าหมอนั่นฆ่าไปหมาดๆ ทุกสิ่งมันเกินความรู้สึกที่ฉันจะสามารถรับมันได้ทันในเวลาไร่เรี่ยกัน
และฉันก็สังเกตว่าเขาคนนั้นเป็นผู้ชาย รูปร่างสมส่วน ผมสีดำเข้ม สีหน้าดูเย็นชาแต่ก็เหมือนซ่อนบางสิ่งไว้ข้างใน
“เดี๋ยว...” เขาแบมือสองข้างขึ้นกลางอากาศ
ปัง !
แต่ฉันก็ผลอเหนี่ยวไกออกไปด้วยความตกใจเมื่อเห็นเขายกมือขึ้น
……….
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in