เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Alive : ฆ่า(ข้า) ต้อง รอด !NO.W
ตอนที่ 34 : ความช่วยเหลือ
  • ……….

     

    ตอนที่ 34 : ความช่วยเหลือ

     

    “ถ้าพวกมันยังไม่เลิกราอย่างนี้ล่ะก็ ไม่นานเราเสร็จมันแน่” เปาตะโกนบอกเพื่อนทั้งสองขณะวิ่งเข้าตรอกนู้นผ่านตรอกนี้เพื่อหลบพวกเคลโอ

    “อาวุธเราเหลืออะไรมั่ง” อ๋องถามเมื่อดูท่าดันทุรังหนีต่อคงจะไม่รอด

    “ไม่เหลือแล้วว่ะ” เอิร์นตอบ

    “ยังพอเหลือ น่าจะต้านได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมงถ้าไม่ตึงมือเกินไปนะ”  เปาตอบ

    “งั้นเตรียมตั้งรับ !”  อ๋องสั่ง  เปาชะลอฝีเท้าลง เลี้ยวเข้าไปในร้านค้าข้างๆ ตนทันที

    “เอิร์น !  เอาไป”อ๋องส่งปืนกล G36C ให้เอิร์นพร้อมกับแมกกาซีนสองชุด

    “เหลือเยอะไปมั้ย”

    “ใครจะไปยิงส่งเดชเหมือนมึงล่ะ” เอิร์นทำสีหน้า  ฝากไว้ก่อนเถอะ  ก่อนวิ่งโร่ข้ามถนนไปอีกฝั่ง กระแทกประตูร้านขายของเข้าไปข้างในก่อนจะลับหายไปปล่อยให้อ๋องที่ยังคงวิ่งเป็นตัวล่อให้กับเพื่อนทั้งสอง  ที่กะโจมตีจากทั้งสองด้าน

     

                เสียงเครื่องยนต์ของรถฮัมวี่ดังกระหึ่มมาแต่ไกล  ก่อนจะเผยตัวรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วไม่สูงมาก  เพราะต้องระวังว่าจะโดนโจมตีฉับพลันซึ่งนั่นกำลังจะเกิดในไม่ช้าแล้ว 

     

    ปัง  ! เสียงปืนสไนเปอร์ดังลั่น ตามมาด้วยเสียงล้อรถที่ระเบิด  ตัวรถส่ายทันทีเมื่อเสียหลัก  เสียงเบรกดังเอี๊ยดพร้อมกับลอยล้อเป็นทางบนถนน  เสียงปืนนัดที่สองดังขึ้น  กระจกหน้ารถแตกเพล้ง  คนขับตายคาที่ ทำให้พวกที่เหลือรีบออกจากตัวรถอย่างไว 

     

    “ทำไมไม่ตั้งรับตั้งแต่แรกวะเนี่ย” อ๋องที่หลบอยู่ในซอยข้างหน้าบ่นกับตัวเองไม่คิดว่าพวกตนจะทำได้ขนาดนี้  

    “เอิร์น อย่าเพิ่งยิง รอมันไปทางไอเปาก่อน” อ๋องที่อยู่รอบนอกสุดของบริเวณสู้รบคอยดูท่าทีพวกมันและคอยบอกเพื่อนทั้งสองผ่านทางวิทยุไร้สาย

     

                แล้วพวกมันก็ทำตามที่คาด พวกมันอีกสี่คนที่เหลือหลบอยู่ด้านข้างตัวรถ  เพื่อหลบรัศมีการยิงของเปา   พวกมันค่อยๆ ก้าวเท้ามุ่งเข้าสู่อาคารที่เปาซุ่มอยู่บนดาดฟ้า

     

    “เอาเลย !” อ๋องสั่ง

     

                เสียงปืนกลดังขึ้นเมื่อเอิร์นยิงตลบหลังหนึ่งในพวกมันที่รั้งท้ายถูกปลิดชีพเป็นคนแรก  ร่างล้มลงกระแทกพื้น  อีกสามคนที่เหลือออกวิ่งเข้าไปในอาคารทันที 

    “งานเข้าแล้วไง” อ๋องรีบออกมาจากตรอกทันทีเมื่อพวกมันเข้าไปหมดแล้ว“มันเข้าไปแล้ว เตรียมรับมือด้วย” อ๋องบอกเปา

    “ก็อยากจะรับมืออยู่หรอกนะ แต่นั่นน่ะสองนัดสุดท้าย” เปาตอบ 

    “อะไรนะ !” เอิร์นตะโกนลั่นเมื่อได้ยินที่เปาพูดก่อนรีบวิ่งออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว  มาหลบอยู่หลังตัวรถฮัมวี่  ก้มเก็บปืน M4 ของคนที่ตนจัดการไปโยนส่งให้อ๋องที่วิ่งมา

     

                อ๋องกวักมือเป็นสัญญาณบอกให้เริ่มบุกเข้า  ทั้งสองค่อยๆ เข้าไป ปืนกระชับแน่นในมือพร้อมลั่นกระสุนตลอดเวลาเมื่อเจอข้าศึก

     

    ยังไม่ทันจะก้าวขึ้นบันไดชั้นสอง  ทั้งสองก็ต้องกระโจนออกจากบริเวณหน้าขั้นบันไดอย่างรวดเร็วเมื่อห่ากระสุนชุดหนึ่งระดมยิงลงมา

     

    “มีพวกมันอีกสองอยู่ข้างล่าง !” เจ้าคนที่ยิงลงมาตะโกนบอกทีมตน

    “เอาไงดี” เอิร์นถาม

    “ยิงถ่วงมันไว้ เดี๋ยวกูจะไปขึ้นบันไดหนีไฟข้างๆ” อ๋องพูดจบก็วิ่งออกไปเลี้ยวเข้าตรอกข้างร้าน เสียงก้องแก้งดังขึ้นเมื่อรองเท้าทหารกระทบกับขั้นบันไดเหล็ก  เมื่อใกล้ถึงหน้าต่างชั้น 2อ๋องเงียบเสียงฝีเท้าลง  เลื่อนบานหน้าต่างขึ้นช้าๆ  ก่อนเข้าไปข้างใน

    “ยิงเป็นชุดๆ”  อ๋องสั่งเสียงเบาผ่านวิทยุไร้สายที่ใส่อยู่ที่หู  เสียงกระสุนดังขึ้น  อ๋องรีบเดินให้ทันช่วงเสียงที่เอิร์นยิง  จนมาถึงหน้าประตูห้องได้สำเร็จห่างจากเจ้าคนที่ดักยิงไม่กี่เมตร 

     

                อ๋องสะพายปืนไว้ข้างหลัง  ชักมีดสั้นทหารออกมากำแน่นในมือ   รอจังหวะเสียงปืนชุดใหม่  ก่อนก้มตัวลงค่อยๆ ย่อง  ไม่อยากโดนเพื่อนตัวเองที่ยิงเสยขึ้นมาเข้า  เสียงยิงชุดใหม่ดังขึ้น  อ๋องพุ่งออกไปทันที  มือซ้ายปิดปาก มือขวาเงื้อมีดขึ้นปักลงเข้าข้างคออย่างเร็ว  ปลายมีดปักเกือบมิดด้าม  ชายหนุ่มรีบชักออก ประคองร่างที่ไร้วิญญาณของมันลากเข้าไปเก็บในห้อง  เช็ดคราบเลือดกับเสื้อเกราะของมัน

    “เคลียร์ !”  อ๋องบอก  เอิร์นค่อยๆ วิ่งขึ้นบันไดมาอย่างรวดเร็ว  

    “รีบไปช่วยไอเปาเถอะ” เอิร์นว่าเร่งฝีเท้าขึ้นอีกแต่ก็ไม่ประมาทในการระวังตัว

     

     

    “ดีนะที่มันยังระแวงว่าเปิดเข้ามาแล้วจะโดนสวน” เปาพูดกับตัวเอง  ในมือมีเพียงมีดเล่มเดียว  พวกมันไม่คิดจะเปิดประตูดาดฟ้าเข้ามา  แต่ตนก็รู้ดีว่าพวกมันอยู่หลังบานประตูแน่ๆเพราะเห็นเงาใต้ช่องประตูเคลื่อนไหวไปมา

     

                แต่แล้วเสียงที่เปาไม่อยากจะได้ยินก็ดังขึ้น  ปึง ! บานประตูถูกกระแทกล้มลงกองกับพื้น คนหนึ่งนั่งเล็งยิงอีกคนชะโงกหน้าพร้อมปืนออกมา  เปากระโจนกลิ้งกับพื้นเพื่อหลบกระสุนที่สาดยิงมาทางตนแทบจะทันที  

    “ยอมแล้วๆ !” เปาตะโกนออกไป ลุกจากท่านอนหมอบกับพื้นเป็นนั่งขัดสมาธิพร้อมกับยกสองมือขึ้นให้พวกมันเห็นชัดๆเจ้าสองคนนั่นรีบวิ่งมาทางตนอย่างรวดเร็ว  มันจับเปาลุกขึ้นยืน 

    “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เจ้าคนที่เอาปืนจ่อข้างหลังเปาตะโกนขึ้น  “ถ้าไม่อยากให้เพื่อนแกตาย”มันพูดต่อ  เมื่อเห็นชายสองคนวิ่งขึ้นมา

     

     เปามองไปยังเพื่อนทั้งสองที่ก้าวขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าช้าๆ  ในมือเล็งปืนมาทางศัตรูสองคนข้างหน้า  ต่างฝ่ายต่างดูท่าทีกันและกัน

     

                แต่เปากลับสงสัยเมื่อสีหน้าของอ๋องและเอิร์นเปลี่ยนไป   คนที่ไม่เคยอยู่ด้วยอาจจะมองไม่ออก   มันต้องมีอะไรอยู่ข้างหลังตนแน่ๆเปาคิดในใจแต่ก็ไม่หันหลังไปมอง  เดี๋ยวจะทำให้ไอ้สองคนนี้มันสงสัยได้

     

    “รออะไรอยู่ล่ะ  ยิงเลยสิ” เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลัง เป็นเสียงที่เข้มแข็ง ผ่านศึกมามากมาย  เปาใจชื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเธอ

     

                เจ้าสองคนสะดุ้งตกใจ  คนหนึ่งหันหลังกลับมา  พบกับนอร่าในชุดทหารสีดำรัดรูปเจ้าคนที่หันไปมองไม่พูดพร่ำทำเพลง ลั่นกระสุนใส่นอร่าทันที แต่มันก็ช้ากว่านอร่าที่เร็วกว่าคนทั่วไปมาก  เธอมาโผล่กายอยู่ข้างๆ  ปัดปืนมันกระเด็น  ก่อนฟันมือเข้าหลังคอจนมันหมดสติทรุดฮวบลงกับพื้นข้างๆเปา

    “หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นไอ้หมอนี่ตาย” อีกคนที่เหลือขู่  แต่ไม่ได้ทำให้นอร่ากลัวแม้แต่น้อย

     

                นอร่าขยับเข้าไปใกล้อย่างใจเย็น  อ๋องกับเอิร์นได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ  ส่วนเปาก็ยังโดนปืนจ่ออยู่ไม่เลิก  เมื่อเห็นว่าได้จังหวะนอร่าพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว  หมอนั่นเห็นนอร่าขยับก็ลั่นไกทันที

     

    เปาหลับตาปี๋ นึกว่าตนจะโดนยิงตายซะแล้ว แต่ยังหายใจอยู่ ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมาเห็นนอร่าจับปลายกระบอกปืนเปลี่ยนทิศทำให้เปายังไม่โดนยิงนอร่าดึงปืนออกมาจากมือของมันอย่างง่ายก่อนหมุนตัวเตะทหารเคลโอกระเด็นชนขอบดาดฟ้า  ร่วงลงตึกไป เกิดเสียง ตุบ ! ขึ้นข้างล่างพื้นถนน คงไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    “เหมือนจะมาได้เวลานะเนี่ย” นอร่าทักทุกคน

    “เฮ้อ ! นึกว่าจะตายซะแล้ว” เอิร์นถอนหายใจเฮือกใหญ่  เมื่อกี้ที่นอร่าปัดวิถีกระสุนมันดันลั่นมาแถวๆอ๋องกับเอิร์นทำให้ทั้งคู่แทบจะทิ้งตัวหมอบหลบไม่ทัน

    “ขอบใจมากนอร่า” เปาขอบคุณที่ได้นอร่าช่วยไว้

    “ความจริงก็ไม่อยากมาหรอกนะ  เพราะมันไม่ใช่ภารกิจฉันซะด้วย แต่ให้เดาอาวุธพวกนายคงร่อยหรอเต็มทีแล้วสิ”นอร่าถาม

    “อย่าเรียกว่าร่อยหรอ เรียกว่าไม่มีให้ใช้เถอะ” เอิร์นตอบกลับ

    “ฮ่าๆ นั่นสินะ นายยิ่งชอบยิงไม่ยั้งอยู่ด้วย” นอร่าตอบกระโดดขึ้นไปบนตู้ระบายอากาศที่เธอปรากฏตัวตอนแรก เธอโยนกระเป๋าสีดำใบโตลงมา เกิดเสียงวัตถุหนักกระแทกพื้น น้ำหนักข้างในมันมากพอสมควร  เมื่อได้ยินเสียงทั้งสามรู้ได้ทันทีเลยว่าข้างในเป็นอะไร

    “ขอบคุณมากนอร่า” อ๋องดีใจกับสิ่งที่นอร่าเอามา

    “ให้มันได้อย่างนี้สิ” เอิร์นรีบวิ่งมายังกระเป๋าที่นอร่าโยนลงมาทันที

     

                นอร่านั่งดูทั้งสามตะเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เธอขนมาให้   ก่อนที่ทั้งสี่คนจะได้ยินเสียงระเบิดดังแว่วมาตามสายลม  นอร่าเห็นควันไฟโหมกระหน่ำอยู่ทางตอนเหนือของหมู่บ้านมันห่างไปอีกหลายกิโลเมตรจากจุดที่เธออยู่ ควันไฟสีแดงดั่งพลุบอกสัญญาณยามกลางคืน มันเป็นตัวเรียกหายนะชั้นดีทีเดียว ทั้งซอมบี้  พวกกลายพันธุ์  และตอนนี้ก็คือ พวกเคลโอ

    “ดูท่าทางนั้นจะหนักอยู่นะ” เปาพูดขึ้น

    “เราเลยต้องรีบไปไงล่ะ” อ๋องตอบก่อนเร่งให้เอิร์นเตรียมของให้ไวขึ้น 

    “มา  ฉันถือให้ มันจะทำให้พวกนายวิ่งช้าลงซะเปล่าๆ”นอร่าว่า พลางยกกระเป๋าขึ้นแบกไว้บนบ่า เธอยกมันอย่างไม่ยากเย็น

    “ใครบอกล่ะว่าเราจะวิ่ง  เรามีรถอยู่ข้างล่างต่างหาก”เอิร์นตอบ

    “แต่รู้สึกว่าไอ้รถคันที่ว่าเนี่ย ล้อมันเพิ่งแตกนะ” อ๋องพูด หันหลังเดินลงข้างล่าง

    “เออว่ะ ! นี่ต้องเดินหรอเนี่ย” เอิร์นบ่น ไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะถึงจุดหมาย

    “คิดมากไปได้ ใช่ว่าเมืองนี้จะไม่มีรถสักหน่อย” เปาว่า  ก่อนจะเดินตามอ๋องลงไปข้างล่าง

    “จริงด้วยแฮะ” เอิร์นเหมือนคิดได้รีบตามหลังเปาลงไปติดๆ

    “เฮ้อ  !” นอร่าถอนหายใจ  ทำเหมือนกับว่ามาฝึกนอกสถานที่งั้นแหละ  นอร่าคิด ตลอดมาที่ทั้งทีมไปทำภารกิจด้วยกันเจ้าพวกนี้ก็แทบจะไม่เคยเครียดกับสถานการณ์ใดๆ เลยแม้แต่น้อย  แต่ก็อย่างว่า นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เธออยากจะเห็นมันไปตลอดเช่นกัน  

     

                นอร่าเดินตามสมาชิกทีมลงไปข้างล่างเพื่อจะขึ้นไปทางเหนือของหมู่บ้าน  ไปสมทบกำลังช่วยเหลือทีมสำรวจของแคลด้านบน

     

    ..........

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in