หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือนวนิยายแนวอิงประวัติศาสตร์ที่อ่านแล้วรู้สึกซึ้งและตื้นตันในดวงใจอย่างมาก ที่โชคดีแค่ไหนที่เกิดมาในแผ่นดินไทย และพึ่งพระบรมโพธิสมญาณของในหลวงทุกพระองค์
“หนังสือเล่มนี้ดีศรีศักดิ์
เป็นเล่มรักมากมายเสมอศรี
เมื่ออ่านแล้วเข้าใจมากดี
ว่าคนมีความดีเป็นแบบไหน
คนทำดีย่อมได้ดีแก่ศรี
และทำดีอย่างเสมอไฉน
คนทำดีย่อมไม่ต้องให้ใคร
บอกไปว่าเป็นคนดี”
เรื่องราวของบรรพ ๑ เป็นเรื่องราวของเจ้าจอมมารดาเรียม พระราชชนนีพันปีหลวง ในในหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงกล่าวถึงความเป็น “พระมารดา” ของท่านออกมาได้อย่างสง่างาม
ทองมานั้นได้เป็นพระญาติคนสนิทของเจ้าจอมมารดาเรียม ก่อนที่ท่านจะเข้าไปดำรงตนเป็นเจ้าจอมมารดาของในหลวงรัชกาลที่ ๒ และทองมาเล่าเรื่องราวทั้งหลายผ่านตัวเอง
เจ้าจอมมารดาเรียมนั้น ท่านทรงพระปรีชาญาณสามารถ และท่านทรงอ่อนน้อมถ่อมตน ถ่อมเนื้อถ่อมตัวอย่างยิ่ง ดั่งที่คำมารดาท่านทรงสอนก่อนที่เข้าพระราชวังว่า “ให้นับถือคนที่มาอยู่ก่อน และจงอย่าหึงหวงแก่บุคคลใด” และท่านทรงให้ความเคารพกับเจ้าฟ้าบุญรอดอยู่อย่างมาก จนเจ้าฟ้าบุญรอดมีความรักใคร่และเอ็นดูท่านมาก
สมัยก่อนนั้น เจ้าฟ้าบุญรอด ท่านได้ทรงเป็นผู้ดูแลต้นเครื่อง และเป็นที่นิยมของในหลวงรัชกาลที่ ๒ ในรสฝีมืออย่างมาก จึงมีการแต่งกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน แต่เมื่อมีเหตุบางเหตุเกิดขึ้น เจ้าจอมมารดาเรียมจึงต้องมาทำหน้าที่แทนเจ้าฟ้าบุญรอด
ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ครั้งท่านยังทรงเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์อยู่นั้น ท่านทรงช่วยเหลืองานและเเบ่งเบาภาระของพระราชบิดาอย่างมาก เพราะเนื่องด้วยพระราชบิดาก็มีภาระมากมายใหญ่หลวง ที่ทรงใครเห็นก็อดปลื้มในการเป็นลูกที่ทรงกตัญญูรู้คุณต่อพระบิดาอย่างยิ่ง
และเมื่อในหลวงรัชกาลที่ ๒ ท่านทรงเสด็จสวรรคต เจ้าฟ้าบุญรอดได้กล่าวกับเจ้าจอมมารดาเรียมว่า ท่านทรงพระเห็นด้วยที่จะให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ หรือในหลวงรักชกาลที่ ๓ ขึ้นครองราชย์ และเจ้าจอมมารดาเรียมท่านก็ได้กลายเป็นพระราชชนนีพระพันปีหลวง และท่านได้กล่าวกับในหลวงรัชกาลที่ ๓ ว่า
“แม่ก็จักขอเตือนขุนหลวงครั้งนี้เป็นที่สุดแล้ว ขึ้นชื่อว่าขุนหลวงพระมหากษัตริย์เป็นเจ้า
มิว่าดีมิว่าชั่วพระนามนั้น เขาต้องจดต้องจำกันไปในภายภาคหน้า หาลืมไม่ หากดี
เขาก็จักยกขึ้นมาสรรเสริญ หากชั่ว เขาก็จักขุดขึ้นมาด่าว่าประจาน ร้อยปีพันปี มิมีลืมเลือน ขอให้ขุนหลวงของเเม่จงเป็นประดุจเพชร
แม้จักมีผู้กล่าวโทษใดๆ ในภายภาคหน้าก็ยังคงเป็นเพชร มิมัวหมองไปได้”
เราก็คิดนะว่า ถ้าหากมีผู้ใดคิดว่ากล่าวร้ายต่อในหลวงรัชกาลที่ ๓ นั้น จิตใจนั้นย่อมทำด้วยอะไร และคนพวกนั้นเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า เพราะในหลวงรัชกาลที่ ๓ ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาญาณสามารถและทรงเป็นพระคุณานุปการแก่คนไทยทุกคน ดังนั้น เราเชื่อว่า คงมิมีบุคคลใดที่กล้ากล่าวว่าร้ายท่าน เพราะเราเชื่อที่คุณครูบอกว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ท่านทรงเป็นพระโพธิสัตว์โดยแท้ และเล่มนี้เป็นเล่มที่ทำให้เราเห็นถึงการอบรมเลี้ยงดูของแม่คนหนึ่งที่มีต่อลูกนั้นสำคัญยิ่งนัก เพราะแม่ผู้ซึ่งเป็นคนดียิ่งนั้น จึงมีบุญวาสนาสอนลูกให้เป็นคนดีอีกด้วย
และจะมีคู่มือการอ่านอ่านบุญบรรพ์ บรรพ ๑ ซึ่งบรรยายได้อย่างน่าสนใจและทำให้เราเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ไทยอย่างมากขึ้นด้วย
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in