(แล้วเราจะได้พบกันอีก

ณ ห้องสมุดปารีส)

การเลือกเก็บความทรงจำ

     ฉันตัดสินใจนำขวดพลาสติกมาจากที่บ้าน และสอบถามทางร้านว่า ฉันสามารถใช้ขวดพลาสติกที่ฉันนำมาเก็บความทรงจำไว้ได้ไหม ทางร้านตอบว่า ได้ และฉันก็เริ่มเก็บความทรงจำ พร้อมกับขอเลือกหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ และทางร้านอนุญาต ฉันจึงนำทั้งขวดพลาสติกและหนังสือกลับบ้าน

การเข้าถึงห้องสมุดในช่วงสงคราม

     ตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็มีความคิดเเว๊บหนึ่งขึ้นมาว่า ถ้าหากหนังสือทั้งหมดถูกเผา จะเป็นการทำลายประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆได้อย่างไร แต่เมื่ออ่านจนจบถึงเข้าใจว่า การเผาหนังสือของนาซี หมายถึง การทำลายประเพณี วัฒนธรรม และภาษาได้อย่างแยบยล

[ภาษาและวัฒนธรรมจะถูกทำลาย]

     เพราะว่า การเผาหนังสือ คือ การทำลายภาษา และวัฒนธรรมที่มีการสื่อสารกันมาตลอดหลายพันปี และเป็นการบ่งบอกว่า แต่ละชาติมีการดำเนินชีวิตอย่างไร เพราะเมื่ออ่านเสร็จก็ทำให้นึกว่า คนฝรั่งเศสเหมือนกับคนอังกฤษที่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่า อยู่ในรถไฟ รถประจำทาง และเรือ ดังนั้น หนังสือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์

จริงกำลังเริ่มต้นขึ้น

ณ ร้านหนังสืออเมริกันที่ปารีส

     โอดีลได้ไปสมัครงานที่ห้องสมุดอเมริกัน ณ กรุงปารีส แต่เธอก็รู้สึกว่า เธอน่าจะพลาดงานไป จากการที่เธอสัมภาษณ์งาน เธอคิดว่า เธอคงไม่ได้งาน แต่เเม่เธอบอกให้เธอเขียนจดหมายแนะนำตัวอีกครั้ง ซึ่งเธอทำตามที่แม่บอก และเธอได้งานนั้นจากจดหมายแนะนำตัวฉบับนั้น

[เรื่องราวทั้งหมดจึงเกิดขึ้น

ระหว่างคาบเกี่ยวแห่งเวลา]

     โอดีลได้มาทำงานที่ห้องสมุดนี้ และเธอก็กำลังมีความสุขจากการทำงานได้ไม่นาน ก็บังเอิญเกิดสงครามขึ้น โดยทางห้องสมุดตัดสินใจเป็นตัวกลาง ในการช่วยส่งกำลังใจผ่านหนังสือไปให้ทหารที่ไปสงครามได้ใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือ

     และไม่เพียงเท่านั้น พวกนาซียังมีแผนการเผาหนังสือมากมายเพื่อทำลายภาษาและวัฒนธรรม รวมถึงประเพณีที่สืบตลอดกันมา ทั้งโอดีลและเพื่อนก็ต้องช่วยกัน เพื่อกันไม่ให้ห้องสมุดห้องนี้โดนเผาแต่ด้วยประการใด แต่บางอย่างก็ไม่เป็นอย่างหวัง บางครั้งก็ต้องเกิดการสูญเสียเพื่อแลกกับการเก็บรักษาหนังสือเอาไว้ และเรื่องราวในอดีตของห้องสมุดนี้เป็นไงต่อไป เราขออุบเอาไว้ค่ะ เพื่อให้เพื่อนๆไปอ่านกันดู หรือลองค้นข้อมูลจากเน็ตก็ได้ค่ะ

(เราอ่านไปแล้วค้นข้อมูลอ่านในเน็ตเพิ่มเติม ทำให้ยิ่งอ่านแล้วยิ่งสนุกขึ้นค่ะ เพราะเหมือนกับอ่านประวัติศาสตร์ควบคู่ไปกับนิยายอีกครั้งหนึ่งค่ะ)

     เมื่อย้อนกลับมายังปัจจุบัน โอดีลกำลังต้องดูแลเด็กหญิงคนหนึ่งที่ต้องมาอยู่กับเธอ ชื่อ ลิลลี่ หลังจากที่แม่เธอเสียไป และเธอก็ปลูกฝังให้ลิลลี่มีการรักหนังสือและรักการอ่าน เพราะการรักหนังสือเป็นสิ่งสำคัญ ดั่งคำพูด “หนังสือนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าจะถูกตีกรอบในความหมายใดความหมายหนึ่ง และมีคนอย่างรีดเดอร์ที่ทำหน้าที่ปิดทองหลังพระ เพื่อหนังสืออย่างเเท้จริง”

“ร้านหนังสือ บอกถึง เรื่องราวรัก

ทั้งถูกลัก จากคน อ่านหนังสือ

และถูกถาม หนังสือ ต้องการสื่อ

คนอ่านคือ ผู้รู้ คำตอบจริง”

     หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเรื่องจริงที่อิงประวัติศาสตร์และเป็นหนังสือที่ทำให้เรารู้เห็นถึงความจริงสมัยนั้นที่ช่างน่ากลัวและน่าโหดร้าย สำหรับนาซีที่คิดจะทำร้ายคน ประเพณี วัฒนธรรม และประเทศอื่นถึงเพียงนี้ได้อย่างไร

[คนที่หลงในอำนาจน่ากลัวสุด]   

LOOK A BREATHE