การเลือกเก็บความทรงจำ
ฉันเดินเข้ามายังร้านค้าแห่งนี้ และฉันพบกับเจ้าของร้านใจดี ที่ให้คำแนะนำที่ดี ก่อนที่ฉันตัดสินใจที่จะเลือกเก็บความทรงจำในช่วงปัจจุบันเอาไว้ เพราะอนาคตของฉันมันไม่มีอีกแล้ว และเจ้าของใจดีพาฉันไปเล่าถึงเรื่องราวหนึ่งที่จะรู้ว่า “ปัจจุบันสำคัญที่สุด” และฉันได้รับหนังสือเรื่องหนึ่งมาอีกด้วย
ปัจจุบันคือการแก้ไขปัญหา
และประเทืองปัญญา
ณ สถานที่ปัจจุบันแห่งนี้
“เด็กกับการผจญภัย” เป็นเรื่องที่ใช้ในการเขียนแทบทุกงาน แต่เรื่องราวในครั้งนี้มีความแตกต่างไปอย่างบ้างบางส่วน และทำให้เห็นถึงไหวพริบของเด็กในยามลำบากด้วย
[มิตรภาพที่ดี คือ ยารักษาใจ]
ครั้งแรก ขบวนการนกกางเขนมีจำนวนสมาชิกทั้งหมดเจ็ดคน และทุกคนได้คุยกันถึงสัญลักษณ์ของการนัดเจอกัน โดยการผิวปากเป็นเสียงแบบหนึ่ง และวันหนึ่ง เจ้าชายน้อยผู้อยากเข้าร่วมด้วยก็ได้ยินเสียงผิวปากที่เเสดงถึงการนัดเจอกัน ดังนั้น เจ้าชายน้อยตามมาจนพบกับห้องลับที่ขวบนการนกกางเขนใช้เป็นห้องประชุมลับกัน และเจ้าชายน้อยได้มาอยู่ในขบวนการลับนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ดังนั้น เด็กแปดคนก็วางแผนที่จะทำบางอย่างเกี่ยวกับห้องลับนี้ ดังนั้น เด็กๆจึงไปขอตลับเมตรกับอาจารย์ และเด็กทุกคนก็มาที่ห้องลับใต้ดิน (ห้องใต้ดิน เป็นห้องสำหรับหลุมหลบภัยในสงคราม) ในขณะนั้นเอง แม่ของเด็กไม่รู้ว่ามีเด็กทั้งแปดอยู่ในห้องใต้ดิน แม่จึงล็อกประตูขังเด็กไว้ เเละเด็กทั้งแปดก็ต้องวางแผนช่วยเหลือกันว่า มีอาหารกับน้ำเหลือเท่าไหร่ เพื่อความอยู่รอด
ส่วนภายนอก พ่อกับแม่ของเด็กๆก็ตั้งใจหาเด็ก จนอาจารย์จำได้ว่า เด็กมาขอยืมตลับเมตรกับตัวเอง และอาจารย์รีบบอกกับแม่ของเด็ก และแม่เด็กเปิดประตูพาเด็กออกมา ก่อนที่จะพบกับหีบสมบัติของเจ้าชายน้อยอีกด้วย และเจ้าชายน้อยดีใจที่เจอสมบัตินี้ในที่สุด
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
“หนังสือเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้ต่างๆ นักปราชญ์ในสมัยโบราณได้ใช้หนังสือ บันทึกความรู้และความคิดเห็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ไว้เป็นสมบัติตกทอดมาถึงสมัยปัจจุบันเป็นอันมาก เช่น กฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นต้น เพราะความรู้ของคนสมัยโบราณนั้นเกิดจากการสังเกต เขาเหล่านั้นสังเกตความเป็นไปของโลก และจดจำข้อความต่างๆ ในแง่ความคิดเห็นของเขาไว้ คนสมัยต่อมาได้อ่านข้อความเหล่านั้น จะติดตามค้นคว้าเพิ่มเติม ทำให้ความรู้ของมนุษย์กว้างขว้างยิ่งขึ้น”
[การอ่านมีประโยชน์อย่างยิ่ง]
ดุจดั่ง การอ่านหนังสือเล่มนี้และพบว่า เรื่องราวเพียงสั้นๆแต่ได้ใจความหมายครบถ้วนทั้งหมดอย่างหลากหลาย ได้แก่
๑. ความเสมอภาค คือ การที่เด็กทั้งแปดคนต่างกันทั้งฐานะ เชื้อชาติ และวัฒนธรรม เป็นเพื่อนกันได้อย่างเสมอภาค
๒. ความเท่าเทียม เด็กมีการคุยกันและแบ่งปันอาหารให้เท่าเทียมกันในห้องลับ
๓. ความกล้าหาญ เจ้าชายน้อยกล้าที่จะมาบอกกับทุกคนว่า อยากเป็นเพื่อนกัน ถึงแม้ว่า ตอนแรก บางคนไม่เห็นด้วย แต่เจ้าชายน้อยก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
๔. การวางแผนอย่างรอบคอบ เมื่อถึงตอนคับขันที่ถูกขังไว้ในห้องใต้ดิน เด็กๆก็ช่วยกันคิดเรื่องไฟ น้ำ น้ำมันและอาหารอย่างรอบคอบ
๕. ความสามัคคี เด็กๆทั้งหลายมีความสามัคคีพร้อมเพรียงกันที่จะช่วยเหลือกันในยามคับขัน
“มิตรภาพ ที่แท้ คือเพื่อนแท้
ทั้งแปดแค่ เป็นเพื่อน รักกันมาก
ทุกคนพร้อม เพรียงกัน ถึงคราวยาก
สามัคคี ช่วยกันมาก เด็กเจริญ”
พระพุทธเจ้ากล่าวถึงมงคลชีวิตข้อที่ ๑ ไว้ คือ การคบมิตรที่ดี เพราะมิตรที่ดีจะนำพาคนที่คบไปพบกับหนทางแห่งความเจริญ เช่นเดียวกับเด็กในเรื่องที่ตั้งใจช่วยเหลือกันเพื่อจะรอดตายพร้อมกัน และจริงๆ หนังสือเล่มนี้มีดีอีกหนึ่งเรื่อง คือ การนำเรื่องราวของการติดอยู่ในห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าเด็กไม่ได้บอกพ่อแม่ก่อน มาทำเป็นเรื่องราวของการใช้ไหวพริบในการช่วยเหลือกัน ได้อย่างจรรโลงสังคมที่สุด
[มิตรภาพ คือ สิ่งสำคัญ]
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in