การเลือกเก็บความทรงจำ
ฉันเดินทางกลับมาอีกครั้ง เพื่อฝากความทรงจำของฉันไว้ในขวดแก้ว ความทรงจำที่ฉันมีต่อตัวเอง ความทรงจำที่เป็นความลับที่ฉันอยากเก็บไว้เฉพาะตัว เจ้าของร้านได้บรรจงเลือกขวดแก้วให้ฉันใส่ความทรงจำพร้อมกับมอบหนังสือที่เป็นแผนที่ชีวิตสุดแสนพิเศษให้กับฉัน
แผนที่ชีวิตกำลังนำพาเราไปยังที่หนึ่ง
ณ เมืองหนังสือแห่งนี้
เด็กหนอเด็กมีความสงสัยอยู่มากมาย และความสงสัยเหล่านี้ที่ทำให้เด็กโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และช่วยสร้างสรรค์โลกใบนี้ให้สวยงาม และหนังสือเรื่องนี้จะเป็นหนังสือแทนใจเด็กหลายคนที่อยากกล่าวบอกกับผู้ปกครองและคนทั้งโลกได้รับรู้
เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้เหมือนเล่มอื่นๆของชินสุเกะที่ตั้งคำถามในชีวิตก่อน เพื่อนำไปสู่คำตอบของความหมายของการดำเนินชีวิต
[คำตอบของความหมายชีวิต
เกิดจากการตั้งคำถามก่อน]
เรื่องทุกอย่างมันเริ่มต้นจากความสงสัยของเด็กหญิงและเด็กชาย หรือผู้ใหญ่ เกิดความสงสัยมากมายเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบันว่า ทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร ทำไมต้องอยู่ที่นี้ เมื่อไหร่ที่จะสิ้นสุดการกระทำเหล่านี้ และทำเพื่อใคร
๑. เด็กๆจะสงสัยทั้งเรื่องไปโรงเรียนทำไม โดยเริ่มต้นว่า มีเด็กคนหนึ่งถามแม่ว่า “โรงเรียนคืออะไร ทำไมต้องไป” และเด็กอีกคนก็เริ่มคิดว่า นั้นสินะ ไปทำไม หรือไปเพื่อเล่นกับเพื่อน เรียนหนังสือ กินอาหารร่วมกัน
๒. เด็กชายเริ่มคิดต่อว่า สนุกสนานเพื่ออะไร เพื่อให้คนชม เพื่อให้มีความรู้สึกว่าสนุก เพื่อมีสังคมคือเพื่อน
๓. โกหกเพื่อความสบายใจของผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นที่ยอมรับความจริงไม่ได้ให้ฟังเรื่องราวของตัวเอง
หลังจากนั้น เด็กผู้หญิงก็เริ่มคิดถึงต่อ โดยการตั้งคำถามว่า
๑. เพื่อนคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจริงหรือไม่
๒. ความสุขเกิดจากของเล็กน้อยจนถึงของใหญ่ เพราะคุณค่าของความสุขไม่ได้อยู่ที่สิ่งของแต่อยู่ที่คุณค่าของสิ่งนั้น
๓. ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองคืออะไร คือใคร และอยู่ที่ไหน
ต่อมา คุณตาก็เดินทางมาพบกับคนหนุ่มและตั้งคำถามต่อไปว่า
๑. ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน จะหาได้จากใคร นอกเสียจากตัวเองหรือคนที่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น
๒. ควรให้อภัยเมื่อไหร่ คือ ควรให้อภัยทุกครั้งที่คนนั้นสำนึกผิดอย่างแท้จริง
๓. ควรอยู่อย่างอิสรภาพ โดยการพึ่งพาตนเอง ไม่ใช่พึ่งพาคนอื่น และเป็นตัวของตัวเอง
ถัดจากนี้ก็มีคุณมนุษย์ผู้หญิง เดินผ่านตากับเด็กหนุ่มคุยกัน และเข้าไปร้านตัดผม ก่อนตั้งคำถามอีกว่า
๑. หน้าที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าตำแหน่งใหญ่โตปานใดหรือต่ำต้อยเพียงไหน แต่การรู้จักรักและรับผิดชอบต่อหน้าที่ต่างหากที่สำคัญกว่าตำแหน่งที่ขึ้นตรงหน้า
๒. ชีวิตที่สุดแสนธรรมดาหรือปกติสุขนั้นเป็นอย่างไร
๓. ทำตามความฝันให้เป็นจริงดั่งหวังนั้นคืออะไร และควรไปอย่างไหน
และนี่คือทุกอย่างทั้งหมดที่หล่อรวมกันเป็นตัวเราเองในวันนี้นี่เอง และไม่ว่า เราจะเป็นอย่างไร จงรู้ไว้ว่า “มีเราเป็นคนเดียวในโลกเท่านั้นที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน” จงรู้ตัวเอง (Know Thyself) และรักตัวเองให้อย่างถูกต้อง
ยกตัวอย่างบางตอนในหนังสือ
“うん。なんか だんだんきにいってきた。これはこれで ワタッらしいきがするぶ。”
[ใช่ ฉันรู้สึกจะเข้าใจบางสิ่งบางอย่าง
และฉันรู้สึกชอบมัน เพราะทั้งหมดนี้
ก็คือตัวของฉันเองทั้งนั้น]
ชีวิตของคนเราแต่ละคนมีความหมายในชีวิต หรือ มีการมองชีวิตที่แตกต่างกันไป อยู่ที่มุมมองว่า เรามองชีวิตของเราเป็นแบบไหน แต่ไม่ว่า จะมุมมองไหน หรือชีวิตไหน ทุกมุมมองนั้นก็หล่อรวมเป็นตัวเองทั้งนั้น
“ฉันสงสัย ชีวิต คืออะไร
ใครแบบไหน ที่เป็น ชีวิตดี
ตอบนั้นยาก เพราะแต่ ละครมี
ชีวิตที่ แตกต่าง กันออกไป”
คนเราทุกคนมักจะพบกับเรื่องราวที่สุดแสนจะธรรมดาในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น ความไม่ยุติธรรม การทำงานตามหน้าที่หรือเพื่อหวังตำแหน่งสูงใหญ่ ซึ่งเรื่องราวนี้ เป็นคำถามที่ถามเพื่อว่า จะได้รู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้น และตัวเราก็เป็นได้แค่ตัวเราที่พิเศษคนเดียว เราเป็นคนอื่นไม่ได้ คนอื่นก็เป็นเราไม่ได้เหมือนกัน
[ขอบอกว่า
เรามีตัวตนแค่เราเป็นคนเดียว]
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in