ณ ห้องอาหารปกติ

     คุณได้เลือกเมนูอาหารของ “ฤดูใบไม้ผลิ” และเมนูฤดูใบไม้ผลิประจำวันนี้ ได้แก่ “ซุปข้าวโพด” 

     และทางร้านเรียนเชิญคุณไปยังบ้านเรือนแพริมขวาสุด พร้อมกับทำเรื่องปกติให้เป็นพิเศษ โดยระหว่างทางที่คุณเดินไปยังบ้านเรือนแพ คุณจะพบกับนก ปลา และลำธารเล็กๆ ก่อนที่ร้านเราจะนำอาหารมาเสริฟ 

     และเมื่อคุณทานเสร็จแล้ว คุณยังไม่อิ่ม คุณเลยตัดสินใจไปทานอาหารเมนูพิเศษกับทางร้านต่อ

ณ ห้องสมุด เดือนใบไม้ร่วง

     คุณได้เลือกหนังสือเล่มนี้ออกมาจากชั้นวางหนังสือและทางร้านเราปรุงรสอาหารเมนูสุดพิเศษนี้เพื่อคุณคนเดียว และเมนูพิเศษประจำหนังสือเล่มนี้คือ “ชาเขียวมัทฉะเย็น และขนมหวานสุดแสนพิเศษ” 

หลังจากนี้ ทางร้านเราขอเชิญคุณเข้าสู่บ้านเห็ดหลังซ้ายเพื่อเตรียมพร้อมรออาหารสุดพิเศษนี้ ชมสวนไปพรางๆและอ่านหนังสือไปก่อน เพื่อรออาหารมื้อพิเศษนี้

“อดีต อันน่า หอมอบอวล

ชีวิต ล้วนมี ความหมายนั้น

คือรัก มอบให้ กันและกัน

ครั้งนั้น รักทุก- คนต่อไป”

เรื่องราวของเจ้าน้อย

     ความใสซื่อ บริสุทธิ์ ซี่อตรง ซื่อสัตย์ อ่อนน้อม ถ่อมตน ของเด็กคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรักและความเอาใจใส่ จนสามารถทำลายทิฏฐิมานะของปู่ที่มีต่อพ่อกับแม่ของเด็กคนนั้น โดยที่หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลากับน้องๆ อีกด้วย

เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้เริ่มต้น

{อดีต}

    ขุนนางผู้เฒ่าหรือท่านเอิร์ลมีลูกชายอยู่ ๓ คน ลูกชายสองคนแรกเป็นลูกชายที่ไม่เอาถ่านและไม่เหมาะกับทรัพย์สมบัติของตระกูล แต่ท่านเอิร์ลก็อยากให้ เพราะตามลำดับ คนโตก็ควรได้รับและถ้าคนโตตาย คนกลางก็ควรได้รับต่อ แต่ลูกชายคนที่สามกลับเป็นคนที่ดี อ่อนโยน 

     และท่านเอิร์ลกลับรู้สึกหมั่นไส้ลูกคนที่สามคนนี้ และตัดสินใจไล่ออกไปอยู่ที่ไกล แต่แล้วท่านเอิร์ลก็ตัดสินใจตัดพ่อกับลูกของคนที่สาม เพราะว่า “เขาดันแต่งงานกับผู้หญิงอเมริกัน” ซึ่งท่านเอิร์ลเกลียดคนอเมริกันเข้าไส้ และบังเอิญทั้งคู่ดันมีลูกชายด้วยกัน โดยลูกน้อยมีความเป็นไปตามนี้

       ๑. สุขภาพดี

       ๒. อารมณ์ดี กิริยาท่าทางน่ารักและน่าเอ็นดู

       ๓. มีหน้าตาหมดจดและน่ารัก

     และทั้งสองตั้งชื่อลูกน้อยว่า “เซดริก” วันหนึ่ง พ่ออันเป็นที่รักของเซดริกได้จากไปโดยไม่มีวันกลับมา รวมถึงพี่ชายของพ่อทั้งสองได้ตายเช่นเดียวกัน

{ปัจจุบัน}

     จนกระทั่งวันหนึ่ง มีทนายความมาหาเซดริกกับแม่ และนำเงินมาให้พร้อมกับบอกกับเซดริกว่า “เขาจะได้เป็นเจ้าน้อยฟอนเติลรอย” แรกเริ่มเดิมที เซดริกไม่อยากไป แต่ก็ขัดไม่ได้ ดังนั้น เขากับแม่เดินทางไปด้วยกัน แต่ก่อนจะเดินทางไป เซดริกนำเงินไปช่วยเหลือคนสนิทอย่างฮอบส์และดิก

     เมื่อเซดริกเดินทางมาถึงปราสาทและเขากับแม่ต้องอยู่กันคนละที่ และหลังจากนั้น เซดริกก็กลายเป็น “เจ้าน้อยฟอนเติลรอย” และเขาใช้ความเห็นอกเห็นใจ ความมีน้ำใจ ความใสซื่อในการละลายทิฏฐิมานะของปู่ จนปู่รู้สึกหลงรักและเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็น อย่างเช่น

“คุณปู่ไม่ต้องกลัวนะครับ เกาะผมไว้ 

ผมจะเดินอย่างช้าๆมากครับ”

     และแล้ววันหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพาลูกมาพร้อมกับอ้างว่า “ลูกของเธอเป็นเจ้าน้อยฟอนเติลรอยตัวจริง ส่วนเซดริกเป็นตัวปลอม” แต่ปู่ของเซดริกไม่เชื่อและคนอื่นก็ไม่เชื่อเช่นกัน 

     จนกระทั่ง วันเวลาผ่านไป “เบน” อ้างตัวเป็นสามีของผู้หญิงคนนี้ก็เดินทางมาบอกความจริงว่า “ลูกเขาไม่ได้เป็นเจ้าน้อยแต่ด้วยประการใด” และปู่ของเซดริกช่วยเหลือเบนโดยการนำเงินให้ไปต่อชีวิตของเขา เพราะตอบแทนความซื่อสัตย์ของเขา 

     สุดท้ายปู่ตัดสินใจบอกให้แม่ของเซดริกมาอยู่ด้วยกัน และแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เซดริกเป็นเจ้าน้อยฟอนเติลรอย

ภาพยนตร์อนิเมชั่นญี่ปุ่น เรื่อง เจ้าชายน้อยเซดี้

     เป็นภาพยนจตร์อนิเมชั่นญี่ปุ่นที่น่ารักมากและย้อนวัยไปในช่วงยังเด็ก ที่เราเคยดู และเล่าเรื่องตามเรื่องราวในหนังสือ และภาพแต่ละลายเส้นดูน่ารัก เหมือนย้อนวันวานที่ทำให้สนุก ตื่นเต้น และเข้าใจในความเป็นเจ้าน้อยเซดี้ ถ้าเพื่อนๆใครเคยลองดู มาแบ่งปันคุยกันค่ะ เพราะเรานึกถึงตอนดู น่ารักมากๆ

ความสำคัญต่อเจ้าน้อย

     “เด็ก” คือ ผ้าขาวและโลกที่สดใส ดังนั้น “ผู้ใหญ่” ควรระวังที่จะทำให้เด็กเหล่านี้เป็นผ้าสีอื่น เพราะอย่าลืมว่า “เมื่อไหร่ ผู้ใหญ่สาดสีอะไรลงไป เด็กก็จะเป็นสีนั้น” ดุจดั่ง แม่ของเซดริกที่อบรม เลี้ยงดู เด็กอย่างเป็นคนดี โดยเฉพาะ แม่ตัดสินใจไม่บอกลูกว่า “ปู่เกลียดเเม่เพราะแม่เป็นคนอเมริกัน เพื่อว่า แม่อยากให้ลูกรักปู่” เป็นต้น

[หนูอยากบอกเจ้าน้อยว่า “เจ้าน้อยเป็นเด็กดีที่สุด”]

LOOK A BREATHE