ณ ห้องอาหารปกติ
คุณได้เลือกเมนูอาหารของ “ฤดูใบไม้ร่วง” และเมนูฤดูใบไม้ร่วงประจำวันนี้ ได้แก่ “ราเมงต้มยำหมูชาบู” ทางร้านเราปรุงด้วยรสชาติพิเศษดั่งเดิมที่ต่างจากร้านอื่นทั่วไป
และทางร้านเรียนเชิญคุณไปยังบ้านเรือนแพขวาสุด พร้อมกับทำเรื่องปกติให้เป็นพิเศษ โดยระหว่างทางที่คุณเดินไปยังบ้านเรือนแพ คุณจะพบกับนก ปลา และลำธารใสๆ คุณไปรอที่บ้านเรือนแพก่อนที่ทางร้านนำอาหารมาเสริฟ
และเมื่อคุณทานเสร็จแล้ว คุณตัดสินใจอยากไปทานอาหารเมนูพิเศษกับทางร้านต่อ
ณ ห้องสมุด เดือนความทรงจำ
คุณได้เลือกหนังสือที่คุณชอบจากชั้นวางหนังสือ และร้านเราเตรียมพร้อมกับการปรุงเมนูสุดพิเศษประจำหนังสือเล่มนี้ให้กับคุณ นั้นก็คือ “ชาเขียว” ถูกปรุงด้วยรสเลิศจากอาจารย์ในพิธีชงชา ก่อนที่ทางร้านเราเชิญคุณไปยังบ้านเห็ดขวามือสุด และระหว่างทาง คุณชมสวนที่สวยดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สวยงาม
“ชงชา ดื่มชา ละเอียดอ่อน
ชีวิต ค่อนข้าง ยากเข้าใจ
ว่าชา คือไหน หรืออะไร
ได้ยิน เสียงใจ ที่พูดไหม”
เรื่องราวของชา
ร้อยเรื่องราวของพิธีชงชาที่เต็มไปด้วยรูปแบบที่ยากต่อความเข้าใจในเบื้องต้น และเต็มด้วยพิธีอันเรียบง่ายและศักดิ์สิทธิ์แบบเซ็น แถมละเอียดอ่อนในแต่ละขั้นตอนของการชงชาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ และทุกคนที่อ่านเล่มนี้พบว่า
“กลิ่นฝนหอมสดชื่นเพียงใด
ใจอันสงบของการชงชาในแต่ละขั้นตอนเป็นเช่นนั้น”
เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้เริ่มต้น
คุณแม่ของโนริโกะแนะนำให้โนริโกะรู้จักกับคุณทาเคดะ ผู้เป็นคนสอนในพิธีชงชา และคุณแม่บอกกับโนริโกะให้ลองไปเรียนชงชาดู โนริโกะจึงตัดสินใจไปเรียนชงชาพร้อมกับมิจิโกะ ลูกพี่ลูกน้อง ในขณะนั้น โนริโกะรู้สึกสับสนว่า “ตัวเองอยากเรียนอะไรหรืออยากเป็นอะไรในอนาคต”
และเมื่อโนริโกะเริ่มต้นเรียนชงชา เธอรู้สึกรำคาญไปหมด เบื่อสุดๆ และอึดอัดใจไปหมด แม้หลายครั้ง เธอไม่อยากไปเรียนชงชา แต่เธอตัดสินใจไปเรียนชงชาอยู่ดี จนกระทั่ง โนริโกะโตขึ้นมา และทำงานพาร์ทไทม์อยู่หลายปี โดยชีวิตของเธอไม่มั่นคง และเธอเริ่มสับสนอีกครั้งว่า “เธอควรทำอย่างไรดี” และเธอเริ่มเข้าใจว่า “ทุกวันเป็นวันที่ดีของเธอ เวลาที่เธอไปเรียนชงชาและทุกช่วงเวลาที่เธออยู่กับชีวิตตัวเอง” เธอได้เรียนรู้มากจากพิธีชงชา ดังนี้
๑. ชีวิตของคนไม่แน่นอน
๒. จงอยู่ตัวเองในปัจจุบัน
๓. อย่าคาดหวังสิ่งใดในอนาคตจนมากเกินไป
๔. ตั้งจุดมุ่งหมายในชีวิตอย่างดี
๕. ทำใจให้สงบทุกครั้งที่ใจกำลังวุ่นวาย
๖. มุ่งมั่นในสิ่งที่ทำเสมอ ถึงแม้ว่า สิ่งนั้นยังไม่แสดงผลอันใด
๗. ฝึกฝนไปเรื่อยๆจนกว่าผลจะสำเร็จ
๘. ก้าวทีละขั้นอย่างมั่นคง
และยังมีอะไรอีกมากมายที่คาดเดาได้จากที่โนริโกะเรียนในพิธีชงชาจนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อใจเธอกำลังเครียดและสับสนอีกครั้ง เธอมาเรียนชงชา และทำใจให้สงบอีกครั้ง เธอก็เริ่มพบกับทางออกในชีวิตของเธอ และสุดท้าย ชีวิตที่เธอได้เรียนรู้นำพาเธอมาถึงจุดสำเร็จในวันนี้
ยกตัวอย่างบางตอนในหนังสือ
บทที่ ๔ มองดูและรู้สึก
“ดูให้ดีนะ การมองดูและรู้สึกไปด้วยคือการเรียนรู้”
“เปรียบดั่ง ชีวิตของคนเราควรมองดูให้ลึกลงไปว่า “ใจเราเป็นคนแบบไหนในแต่ละวัน ใจเรารู้สึกอย่างไร” และคุณจะพบถึงความไม่แน่นอนของใจตลอดเวลา”
บทที่ ๘ อยู่กับปัจจุบันขณะ
“ทำผิดไปนะ ไม่เป็นไรหรอก แต่ขอให้ตั้งใจทำ ต้องใส่ใจลงไปในการกระทำเล็กๆน้อยแต่ละอย่างด้วย”
“เปรียบดั่ง การทำอะไรสักอย่าง ควรทำด้วยพลังใจ โดยการใส่ใจเข้าไปยังสิ่งที่ทำ ก็จะพบว่า “ทุกสิ่งที่ทำสำคัญอย่างไร และมีประโยชน์มากมายเพียงไหน””
บทที่ ๑๕ มองให้ไกลและอยู่กับปัจจุบัน
“แม้จะมีเหตุการณ์หลากหลายเกิดขึ้น แต่จงใช้ชีวิตแบบค่อยเป็นค่อยไปและสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาด้วยความสุขุม รอบคอบ ชีวิตคือการอยู่กับปัจจุบัน ขณะด้วยสายตาที่มองการณ์ไกล”
“เปรียบดั่ง ชีวิตของคนเราถ้าก้าวขึ้นไปหลายๆก้าว เวลาพลัดตกลงมา อาจจะเจ็บมาก แต่ถ้าค่อยๆก้าว ทุกก้าวก็จะมั่นคงและเวลาพลัดตกลงมาจะไม่เจ็บเท่าที่ควร อุปสรรคมีไว้เพื่อสู้ไม่ใช่มองข้าม และสู้แบบรู้เท่าทันสิ่งที่ควรจะรู้อย่างถูกต้อง”
ภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่อง หัวใจ ใบชา ความรัก
ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้เน้นความพิถีพิถัน เน้นความละเอียดอ่อนของการชงชา โดยนำพาเราไปสู่ชีวิตของโนริโกะและทาเคดะ โดยมีชามาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง และภาพยนตร์ทำได้ดีตรงที่ว่า “จุดที่คนเราต้องการโดยเป็นไปตามแผนที่ต้องการนั้นเป็นความสุขที่แท้จริงหรือเปล่า” เพราะหลายๆต่อหลายครั้งที่คนเราไม่ได้เป็นไปดั่งใจที่คาดหวังไว้หรือต้องการอย่างโนริโกะ
ฉันชอบฉากของพิธีชงชาในภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้อยู่มาก เพราะทำออกมาได้ละเมียดละไมมาก และทำให้เราเข้าถึงวิถีของเซนผ่านพิธีชงชาได้สวยงามและหาที่ติมิได้ แถมนักแสดงทุกคนที่เล่น ก็เล่นออกมาได้สมบทบาททุกคน โดยเฉพาะคนที่เล่นเป็นป้าทาเคดะ เล่นเก่งมาก เล่นเหมือนอาจารย์สอนในพิธีชงชาจริงๆ
“ขอบอกว่า ถ้าดูควบคู่กับการอ่านหนังสือ
ยิ่งได้รู้จักความหมายของชีวิตมากยิ่งขึ้น”
ความสำคัญต่อชา
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ฉันชอบดื่มชามาก ดื่มชาในทุกประเภท อย่างตอนฉันไปเที่ยวญี่ปุ่น ฉันชอบดื่มชาตามสถานที่ต่างๆ และตอนฉันอยู่อังกฤษ ฉันชอบไปดื่มชาในทุกๆที่ เพราะรสชาติของชานั้นต่างจากเครื่องดื่มทุกประเภท เพราะว่า รสชาติทั้งละมุนและละเอียดอ่อน รวมถึง เวลาดื่มชา ฉันรู้สึกสงบใจทุกครั้งเช่นกัน และฉันเคยเข้าพิธีชงชาที่ญี่ปุ่นครั้งหนึ่ง ฉันพบว่า สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากพิธีชงชาในครั้งนั้นคือ การอดทนต่อสิ่งที่ควรอดทนด้วยใจที่สงบ
[หนูอยากบอกคนชงชาว่า
“หนูชอบดื่มชามากที่สุดในโลกและตลอดไป”]
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in