ถึง คุณผู้เป็น ส่วนหนึ่ง
ฉันได้ฟังเรื่องราวของคุณผู้เป็น ที่กล่าวว่า ตัวของคุณผู้เป็นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือไปเรียบร้อย และฉันก็เข้าใจคุณผู้เป็นเช่นกันค่ะ เพราะหลายครั้งที่ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือในบางเรื่องเหมือนกันค่ะ
ฉันขอบคุณคุณผู้เป็นที่บอกว่า คำกล่าวของฉันเมื่อครั้งก่อน สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณผู้เป็นสานฝันต่อจนสำเร็จ และวันนี้ ฉันกล่าวคำดีใจที่คุณผู้เป็นตัดสินใจสานฝันโดยการเปิดร้านหนังสือเพื่อรักษาโรคค่ะ โดยแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งรักษาโรคกายและโรคใจ แถมโรคใจยังแบ่งหมวดหมู่อีก ฉันชอบไอเดียนี้มากค่ะ
ดังนั้น ทำให้ฉันนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งขึ้มาทันทีเลยค่ะ เพราะเป็นหนังสือที่เป็นเรื่องจริง ที่นักเขียนได้เป็นเจ้าของร้านหนังสือจริงและแบ่งประเภทหมวดหมู่หนังสือออกมาเพื่อรักษาโรคที่เหมือนกับคุณผู้เป็น เพราะฉะนั้น วันนี้ ฉันจึงส่งหนังสือเล่มนี้แนบไปพร้อมกับจดหมายฉบับนี้ค่ะ
บลูได้เปิดร้านหนังสือเป็นของตัวเอง และเธอก็พยายามที่จะจัดการร้านหนังสือของเธอให้แตกต่างจากคนอื่น โดยเธอเริ่มนึกจากคำพูดของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอหลงรักเสนอไอเดียว่า ทำไมไม่เปิดเป็นร้านขายยาผ่านหนังสือ โดยแบ่งแต่ละหมวดหมู่ว่า หมวดหมู่หนังสือไหนเหมาะกับการรักษาเรื่องไหน
“หนังสือคือยารักษาโรคที่ถูกจุดที่สุด”
และไม่เพียงเท่านั้น เพื่อนซี้ของบลูทั้งสามก็ยังช่วยเหลือเธอ โดยติดต่อกับนักเขียนให้มาเยี่ยมชมร้านเธอและช่วยโปรโมทร้านเธอ แต่เมื่อร้านเธอเปิดไปไม่นาน ก็เริ่มโด่งดงจากไอเดียยารักษาโรค และเธอรู้สึกอยากขอบคุณผู้ชายคนที่เธอหลงรัก แต่เธอกลับไม่พบเขาอีก วันหนึ่ง เธอเจอผู้หญิงคนหนึ่งโดยบังเอิญที่บาร์และบอกว่า รู้จักเขา พร้อมกับเขียนที่อยู่เขาให้กับเธอ
และวันหนึ่งๆก็จะมีนักอ่านไม่ว่าคุณยายและเด็กที่มาขอให้บลูช่วยแนะนำหนังสือรักษาโรคให้ และเธอก็ได้ให้คำแนะนำไป วันหนึ่ง มีเด็กคนหนึ่งที่ไม่ชอบอ่านหนังสือมาคุยกับเธอ และเธอก็เกลี่ยกล่อมจนเด็กคนนี้รักอ่านหนังสือมากขึ้นกว่าเดิม แต่เธอก็มีความเครียดที่เกิดจากเพื่อนของเธอที่พาลูกพี่ลูกน้องมาอยู่ด้วย ซึ่งเธอก็พยายามแก้ไขความเครียดเหล่านั้นด้วยการจัดหมวดหมู่หนังสือมากขึ้นกว่าเดิม
ขอยกตัวอย่างหนังสือที่ทางร้านแนะนำค่ะว่า “มีหนังสือเรื่อง ผู้หญิงที่วิ่งกับหมาป่า” คือ สรรพคุณในการรักษาการขาดความมั่นใจ และหลังอ่านจะพบว่า “ตัวเองย่อมเข้าใจในมุมมองของตัวเองที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ด้านไหนดีก็ทำต่อไป ด้านไม่ดีก็เลิกเสีย” และสุดท้ายความมั่นใจในตนเองก็จะเกิดขึ้นในที่สุด
ขณะวันเวลาผ่านไป จนกระทั่งบลูพบกับชายผู้หนึ่งที่หลงรักเธอมานานแล้ว เขาได้พูดบางอย่างให้บลูเกิดความสับสน เขาบอกว่า “บลูไม่ได้คุยกับใครเลย ไม่มีผู้ชายคนนี้ ไม่มีเด็ก และไม่มีคนเเก่ที่บลูคุยอยู่ด้วย” อ้าว ทำไมเป็นซะงั้นล่ะ แล้วจริงๆบลูคุยอยู่กับใคร ลองติดตามต่อไปในหนังสือว่า เป็นตัวบลูเองหรือภูตในหนังสือที่บลูคุยด้วยกันแน่ค่ะ
“ปีนี้ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่นักเขียน
และนักขายหนังสือตั้งใจทำต่อไป”
ฉันขอบอกว่าคุณผู้เป็นอ่านไปก็อาจเกิดความสับสนบ้าง แต่ตอนจบจะทำให้เกิดความกระจ่างมากขึ้นค่ะ เพราะอย่างที่คุณผู้เป็นบอกกับฉันว่า หนังสือเป็นยารักษาโรคที่ดี และใช้แต่ละเล่มในการรักษาให้ตรงจุดค่ะ เพราะเรื่องนี้ออกแนวจริงผสมแฟนตาซีและความจริงอยู่ค่ะ
“ความจริงของ คนทุกคน นั้นอยู่ที่
ผู้อื่นชี้ ให้ไปไหน ตามทางเก่ง
แต่ความจริง ควรอยู่ที่ ตัวเราเอง
ชี้และเร่ง ทำตัวเอง ด้วยหนึ่งใจ”
ป.ล. ฉันอยากจะขอบอกคุณผู้เป็นว่า จริงๆแล้ว คุณผู้เป็นเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองอยู่แล้วค่ะ เพียงแค่ตอนนี้อาจจะเกิดความสับสน ดังนั้นก็เลยเสียความเชื่อมั่น แต่คุณผู้เป็นลองค่อยๆคิดดูค่ะว่า คุณผู้เป็นทำได้ถึงขนาดนี้ก็เก่งมากแล้ว และไม่มีใครเก่งกว่าคุณผู้เป็นอีกแล้วค่ะ เพราะอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครแทนที่ใครได้ค่ะ ฉันเชื่อมั่นแบบนั้น ฉันหวังว่า ครั้งหน้าเจอกัน คุณผู้เป็นจะกลับมาเชื่อมั่นตัวเองเช่นเดิมค่ะ
จาก คนที่เข้าใจความจริง
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in